08
น้อยใจ
ก๊อก~ ก๊อก~
"ฮึก!" เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นในขณะที่ที่รักนอนร้องไห้อยู่เงียบ ๆ บนเตียง
"ที่รักเปิดประตูให้แม่หน่อยลูก" เสียงของปรางทิพย์ดังขึ้นทำให้เธอยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาออกจากพวงแก้มอย่างลวก ๆ ก่อนจะลุกขึ้น
"เข้ามาเลยค่ะประตูไม่ได้ล็อก"
แกร๊ก~
"แม่เอานมอุ่น ๆ มาให้" หญิงวัยกลางคนเอ่ยขึ้นพร้อมกับวางแก้วนมลงบนโต๊ะเล็ก ๆ ข้างหัวเตียงก่อนจะหย่อนสะโพกนั่งขอบเตียง
"ขอบคุณค่ะ"
"มีเรื่องอะไรไม่สบายใจระบายกับแม่ได้นะลูก"
"แม่คะ...อึก!" เมื่อได้ยินคำพูดที่หลุดออกมาจากปากของผู้เป็นแม่ทำให้ที่รักโผเข้ากอดปรางทิพย์พร้อมสะอื้นไห้ออกมาทันที น้ำตาที่พยายามกลั้นไว้ไหลอาบแก้มอย่างกลั้นไม่อยู่
"หนูไม่รู้อึก...ไม่รู้เลยว่าเพราะอะไร ไม่รู้เลยจริง ๆ ฮึก!" อาจจะเป็นเพราะความรู้สึกของเธอที่มีต่อเขามันเกินกว่าคำว่าชอบแปรเปลี่ยนเป็นรักอย่างร้อยเปอร์เซ็นต์มันเลยทำให้เธอเสียใจและรู้สึกไม่ดีเอามาก ๆ ราวกับทำอะไรผิดไป เธอไม่รู้อะไรเลยสักอย่างว่าเพราะอะไรแล้วทำไมเขาถึงทำแบบนี้
"ไม่เป็นไร ๆ หนูยังมีแม่ที่อยู่ข้าง ๆ หนูนะ ใครจะรักหรือไม่รักหนูก็ช่างแต่ยังมีแม่ที่รักและอยู่ข้าง ๆ หนูนะ" ปรางทิพย์กอดปลอบประโลมลูกสาว เธอจะไม่ถามว่าที่รักเจอเรื่องอะไรมาเพราะเธอไม่อยากกดดันลูกแต่เพียงแค่ต้องการเป็นที่พักพิงในยามที่เขาต้องการก็เท่านั้น
วันต่อมา...
ที่รักเดินเข้ามายังใต้ถุนของคณะซึ่งมีเพื่อนสนิททั้งสองคนนั่งรออยู่ที่โต๊ะหินอ่อนเพราะวันนี้เธอมีเรียนในช่วงเช้า
"ทำไมหน้าแกดูไม่สดใสเหมือนคนที่เพิ่งมีความสุขมาเลยล่ะที่รัก ฉันเห็นนะว่าเมื่อคืนแกกับพี่เสือไปไหนกันมาอะ~" โบวี่ที่นั่งเล่นโทรศัพท์ฆ่าเวลาอยู่เอ่ยแซวขึ้นด้วยรอยยิ้มเมื่อเห็นเพื่อนรักเดินเข้ามานั่งลงฝั่งตรงข้าม
"เห็น? เห็นอะไรเหรอ" ที่รักขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่เข้าใจในคำพูดของเพื่อนรักเช่นเดียวกับผ้าแพรที่เอ่ยถามขึ้นด้วยความอยากรู้
"นั่นสิ แกไปเห็นอะไรมายัยวี่"
"เอ้า ก็เมื่อคืนฉันไปเที่ยวผับกับเพื่อนแล้วก็เห็นพี่เสือพาแกไปฉลองที่ผับไง พี่เขาคงพาแกไปเปิดตัวกับเพื่อนพี่เขาแล้วใช่เปล่า"
"นี่แกแอบหนีเที่ยวเหรอยัยขี้เมา" ผ้าแพรที่ได้ยินแบบนั้นก็เอ่ยขึ้น
"ฉันไม่ได้ขี้เมาสักหน่อย ก็คนมันเบื่ออะพอชวนแกก็บอกไม่ว่างตลอด" โบวี่แยกเขี้ยวใส่ผ้าแพรก่อนจะเอ่ยออกมา เพราะเมื่อคืนเธอรู้สึกเบื่อที่อุดอู้อยู่แต่ในห้องจึงชวนผ้าแพรออกไปดื่มด้วยกันแต่ก็โดนปฏิเสธเธอจึงออกไปกับเพื่อนอีกกลุ่ม ทว่าเสียงพูดคุยของเพื่อนรักทั้งสองคนไม่ได้เข้าในหัวของที่รักแม้แต่น้อยเพราะในหัวของเธอตอนนี้มีแต่คำพูดของโบวี่เมื่อครู่
"ที่รักแกเป็นอะไรทำไมสีหน้าดูไม่ดีแบบนั้น" ผ้าแพรที่เถียงกับโบวี่เสร็จก็เอ่ยขึ้นเมื่อหันมาเห็นสีหน้าของที่รักที่เริ่มไม่สู้ดีนักจนอดเป็นห่วงไม่ได้
"ที่บอกว่าเห็นพี่เสือที่ผับเมื่อคืนนี้จริง ๆ เหรอวี่" หญิงสาวหันไปถามกับโบวี่อีกครั้งเพื่อความมั่นใจ
"ใช่สิ ถึงมันจะมืดหน่อยแต่ฉันก็มั่นใจนะว่าเป็นพี่เสือจริง ๆ เพราะใบหน้าพี่เขาเป็นเอกลักษณ์มากขนาดนั้นแล้วฉันก็ไม่ได้เมาขนาดนั้นด้วย แต่มองไม่ค่อยเห็นแกหรอกเพราะตัวพี่เขาบังอะ"
"แกถามเหมือนไม่ใช่แกอะหรือว่า..." ทั้งโบวี่และผ้าแพรเงียบลงทันทีเมื่อคำตอบที่ได้กลับมาคือความเงียบและใบหน้าที่เศร้าลงของที่รัก
"ระ...หรือว่าบางทีฉันอาจจะเมาจนตาฝาดมองผิดไปก็ได้ คงไม่ใช่พี่เสือหรอก สีผมแบบนั้นใคร ๆ เขาก็ทำกันนั่นแหละเนอะ"
"ไหนตอนแรกก็บอกว่าตัวเองไม่เมาไง" ผ้าแพรที่ได้ยินแบบนั้นก็เอ่ยขึ้น
"กะ...ก็ฉันกินเหล้ามันก็ต้องมีเมากันบ้างสิ ฉันตาฝาดไปเอง"
"แกนี่เปลี่ยนสีเร็วเหมือนกิ้งก่าเลยนะ" โบวี่หันไปแยกเขี้ยวใส่ผ้าแพรที่เอ่ยจิกกัดแต่ผ้าแพรไม่ได้สนใจท่าทางกระเง้ากระงอดของเพื่อนรักก่อนจะหันไปพูดกับที่รัก
"แกอย่าไปสนใจคำพูดของยัยวี่เลยมันเมาก็ดูผิดไปหมดนั่นแหละแกก็รู้หนิ อีกอย่างพี่เสือก็อยู่กับแกไม่ใช่เหรอจะมาโผล่ที่ผับได้ยังไง"
"นั่นสิ ฉันดูผิดไปจริง ๆ นั่นแหละ ไม่ใช่พี่เสือหรอก" โบวี่พยักเพยิดเอ่ยเสริมขึ้น
"มันอาจจะเป็นอย่างที่ยัยวี่พูดก็ได้"
"หมายความว่ายังไง?" ทั้งโบวี่และผ้าแพรขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ
"เมื่อวานพี่เสือไม่ได้ไปที่บ้านฉันหรอก เขาบอกว่ามีธุระกับที่บ้านแต่ฉันทั้งโทรทั้งส่งข้อความหาแต่ก็ไร้การตอบกลับจากเขาจนฉันอยากรู้ว่าฉันทำอะไรผิดพลาดไปตรงไหนหรือเปล่า" ทั้งโบวี่และผ้าแพรพากันเงียบไปกับสิ่งที่ได้ยินก่อนที่จะเป็นโบวี่ที่ลุกขึ้นเดินเข้าไปนั่งลงข้าง ๆ ที่รัก
"คงไม่ใช่หรอก พี่เขาอาจจะมีธุระสำคัญจริง ๆ ก็ได้"
"มีธุระหรือไปกับผู้หญิงคนอื่นกันแน่ มีที่ไหนวันเกิดของคนพิเศษแท้ ๆ แต่กลับหายไปโดยไม่บอกกล่าวติดต่อก็ไม่ได้ ถ้ามันเป็นธุระสำคัญจริง ๆ ก็ควรสละเวลาสักหนึ่งนาทีโทรบอกคงไม่มีอะไรเสียหายขนาดนั้นหรอกมั้ง" ผ้าแพรเอ่ยขึ้นเพราะไม่พอใจกับการกระทำของเสือที่ทำกับที่รักแบบนี้
"แล้วถ้างั้นพี่เขามีเหตุผลอะไรถึงมาทำกับยัยที่รักแบบนี้ล่ะ" โบวี่เอ่ยขึ้นด้วยความไม่เข้าใจ เพราะเธอมองไม่เห็นเหตุผลที่เสือเข้ามาทำดีกับที่รักในระยะเวลาเกือบสี่เดือนเพราะอะไร
"เขาคงสนุกมั้งที่ได้มาล้อเล่นกับความรู้สึกของฉันแบบนี้" ที่รักเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เศร้าลง เพราะถ้าให้ถามหาเหตุผลมันคงไม่มีอะไรนอกจากการที่เขาเข้ามาล้อเล่นกับความรู้สึกของเธอเพียงเพราะความสนุกก็เท่านั้น มันผิดที่เธอเองที่ใจง่ายรู้สึกกับเขาเพียงในระยะเวลาสั้น ๆ
"แกไหวไหมที่รักวันนี้ลาก่อนไหม"
"ไม่เป็นไร เรื่องแค่นี้เอง ไปเรียนกันเถอะ" ที่รักฉีกยิ้มส่งให้เพื่อนรักทั้งสองเพื่อเป็นการบอกว่าเธอไม่เป็นอะไร เธอจะไม่ยอมให้เรื่องแค่นี้มามีผลต่อการใช้ชีวิตของเธอ หญิงสาวพูดจบก็ลุกยืนขึ้นทำให้โบวี่กับผ้าแพรเก็บของบนโต๊ะก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปเรียนพร้อมกัน
หลายชั่วโมงต่อมา
"พ่ออยู่ไหน?" ร่างสูงเดินเข้ามาในบ้านในช่วงเย็นก่อนจะเอ่ยถามสาวใช้ที่กำลังทำหน้าที่อยู่แถวนั้น
"เอ่อ...คุณท่านแจ้งไว้ว่าไปต่างจังหวัดสองสามวันค่ะ" สาวใช้เอ่ยบอกทำให้เสือนิ่งไปก่อนที่สาวใช้จะก้มหน้าลงแล้วเดินออกไปทำหน้าที่ต่อ
ครืด~ ครืด~
(คุณศรัณย์ไปต่างจังหวัดกับผู้หญิงคนนั้นจริง ๆ ครับ) ทันทีที่กดรับสายเสียงของนักสืบที่เขาจ้างให้ตามผู้เป็นพ่อก็เอ่ยรายงานทันที
"อืม เดี๋ยวผมโอนค่าจ้างที่เหลือให้"
(คุณเสือต้องการให้ผมสืบต่อไหมครับ)
"ไม่ต้อง" พูดจบมือหนาก็เลื่อนโทรศัพท์ออกจากหูก่อนจะกดตัดสายทันทีด้วยใบหน้าเรียบเฉยแต่ทว่านัยน์ตากลับเต็มไปด้วยความแค้น
"พ่อเลือกให้ผมต้องทำแบบนี้เอง"
ที่รักกลับมาถึงบ้านในช่วงเย็นเธอขมวดคิ้วด้วยความสงสัยเมื่อไม่เห็นปรางทิพย์อยู่ในบ้านจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อจะต่อสายหาผู้เป็นแม่แต่ทว่าในจังหวะนั้นก็มีสายเรียกเข้าดังขึ้นเสียก่อน
ครืด~ ครืด~
"ค่ะแม่"
(ที่รักถึงบ้านหรือยังลูก)
"ถึงแล้วค่ะ แล้วตอนนี้แม่อยู่ไหนคะหนูมาถึงก็ไม่เห็นมีใครอยู่เลย"
(เอ่อ...พอดีแม่มาทำธุระเรื่องธุรกิจของพ่อที่ต่างจังหวัดอีกสองสามวันแม่จะกลับไปนะลูก)
"อ๋อค่ะ แม่น่าจะบอกหนูก่อนนะคะหนูจะได้ไปเป็นเพื่อน" เธอบอกอย่างเสียดายเพราะถ้าหากปรางทิพย์บอกไว้ก่อนเธอก็คงจะไปด้วยแล้วเพราะเป็นห่วงผู้เป็นแม่ ซึ่งการที่ปรางทิพย์ไปทำธุระเรื่องธุรกิจต่างจังหวัดเธอเองก็เข้าใจเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่แม่เธอไป เพราะต้องไปทำเรื่องต่าง ๆ แทนพ่อของเธอ
(แม่ไม่อยากให้หนูเหนื่อย หนูอยู่บ้านคนเดียวดูแลตัวเองดี ๆ นะก่อนเข้านอนก็ปิดประตูหน้าต่างให้เรียบร้อย)
"ค่ะ แม่ก็ดูแลตัวเองดี ๆ นะคะ ไม่ต้องเป็นห่วงทางนี้"
(ทิพย์เสร็จรึยัง....)
(ที่รักเดี๋ยวแม่ต้องไปคุยธุระแล้วเดี๋ยวแม่โทรหาใหม่นะลูก)
"ได้ค่ะ" เสียงของผู้ชายที่ดังแทรกออกมาสร้างความสงสัยให้แก่เธอไม่น้อยแต่ก็ไม่ได้ซักถามอะไรก่อนที่ปรางทิพย์จะวางสายไป
"ไม่มีอะไรหรอกมั้ง" หญิงสาวสลัดความคิดออกจากหัวก่อนจะเดินขึ้นไปยังห้องนอนของตัวเองเพื่อทำธุระส่วนตัวทันที
รถคันหรูเคลื่อนเข้ามาจอดหน้าบ้านของที่รักในช่วงค่ำของวัน มือหนากดลดกระจกรถลงในขณะที่สายตามองเข้าไปทางด้านในที่ยังคงเปิดไฟสว่างก่อนจะปิดกระจกรถแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาคนที่อยู่ในบ้านทันที
ครืด~ ครืด~
เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนเตียงดังขึ้นในจังหวะที่หญิงสาวเดินออกมาจากห้องน้ำพอดีด้วยผ้าเช็ดตัวห่อหุ้มร่างกาย เท้าเรียวเดินเข้าไปข้างเตียงก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูแต่ทว่าชื่อที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอทำให้เธอนิ่งไป
เธอลังเลที่จะกดรับสายเพราะยอมรับว่าตอนนี้เธอทั้งโกรธทั้งน้อยใจ สุดท้ายที่รักก็ตัดสินใจวางโทรศัพท์ลงที่เดิมก่อนจะเดินเข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องแต่งตัวแม้จิตใจจะไม่สงบก็ตาม
"หึ ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเธอจะใจแข็งได้นานแค่ไหน" เสือแค่นยิ้มมุมปากอย่างเย้ยหยันเมื่อสายตัดไปทั้ง ๆ ที่เขาเห็นเงาเธอเดินผ่านผ้าม่านในห้องชั้นบนของบ้าน