Chapter 12

1532 คำ
สไมล์มองชายหนุ่มตาค้างไม่คิดว่าอะไรๆมันจะเข้าตามแผนที่เธอวางไว้ง่ายขนาดนี้ เธออยากเป็นเด็กเลี้ยงของเขาอยู่แล้วแต่มันไม่จบแค่สถานะนั้นแน่นอนเพราะถ้าเขาคิดจะเกินเลยกับเธอป๋ามินทร์จะต้องรับผิดชอบเธอ... "ว่าไงคะตกลงมั้ย" "ตกลงค่ะ อุ๊บ!!" สไมล์รีบปิดปากตัวเองแน่นก่อนจะตีปากตัวเองหลายทีเพื่อสั่งสอนตัวเองกับความปากไวพูดไปก่อนคิด ป๋ามินทร์ถึงกับหลุดขำออกมากับความซื่อตรงของเด็กสาวตรงหน้า เขาอยากช่วยเธอและอีกอย่างบอกตรงๆเขาสนใจเด็กสาวตรงหน้ามากจะบอกว่าอยากได้มันก็จะตรงไปคงต้องค่อยๆเรียนรู้กันไปดีกว่า "ตกลง...." "มะ..ไม่ใช่ค่ะสไมล์ขอไปคิดก่อน แหะๆ" สไมล์ยิ้มแห้งไม่รู้จะแก้ตัวอย่างไรเขินก็เขินอายก็อายไม่รู้จะทำยังไงแล้วเนี้ยถ้ายอมเขาก็จะมองว่าเธอใจง่ายแล้วก็ไม่เห็นคุณค่านะสิ "ไม่ทันแล้วค่ะหนูขา เมื่อกี้เราตอบตกลงแล้วนะ" เขาอมยิ้มมองเด็กสาวอย่างเจ้าเล่ห์มาขนาดนี้แล้วใครจะปล่อยให้ไปคิดทีหลังล่ะ รวบรัดไปเลยวันนี้ให้มันจบๆ สไมล์หลับตาลงกุมขมับตัวเองไว้อย่างคิดหนัก ไม่น่าเลยไม่น่าพลาดปากไวเลยให้ตายสิ "แล้วเป็นเด็กของคุณป๋าต้องทำยังไงบ้างคะ" สไมล์มองชายหนุ่มตาแป๋ว เธอก็ไม่เคยมีแฟนซะด้วยแต่ไม่ใช่ว่าไม่รู้นะว่าคนเป็นแฟนเขาจะต้องทำอะไรกันบ้าง ตอนเรียนเพื่อนเล่าให้ฟังจนกลายเป็นเรื่องเคยชินทั้งๆที่ก็ไม่เคยได้สัมผัสมันด้วยซ้ำ "ก็ตอนสไมล์มีแฟนทำยังไง ก็ทำอย่างนั้นแหละ" ป๋ามินทร์เท้าคางมองเด็กสาวที่ตอนนี้นั่งคิดหนักอยู่ตรงหน้าเขา ตอนนี้ทั้งสองคนเดินมานั่งเล่นที่เก้าอี้ของทางห้างส่วนผู้ช่วยของเขาเดินวนไปมองความเรียบร้อยอยู่ห่างๆ ถึงแมนจะเป็นผู้ช่วยในหน้างานแต่ลึกๆเขาคือทหารหน่วยรบพิเศษเขาจ้างมาดูแลความปลอดภัยโดยตรงเพราะครอบครัวของแมนไม่อยากให้ทำงานเสี่ยงก็เลยจำเป็นต้องลาออกแล้วกลับบ้าน "สไมล์ไม่เคยมีแฟนค่ะ แหะๆ" ป๋ามินทร์มองอย่างตกใจไม่คิดว่าอายุยี่สิบห้าปีแล้วจะยังมีคนหลงเหลือแบบนี้อยู่อีก แสดงว่าไม่เคยผ่านมือชายใดไม่เคยกอดจูบกับใครมันแทบจะหายากแล้วนะในสมัยนี้ รอดมาได้ยังไง.... "พูดจริงพูดเล่นคะเนี่ย" "สไมล์ดูอ่อนหัดใช่มั้ยคะแต่ว่าตอนเรียนเพื่อนเล่าเรื่องของพวกเขาให้ฟังเคยเห็นผ่านตาว่าคนเป็นแฟนกันเขาทำกันยังไง สไมล์รู้ค่ะว่าทำยังไง" สไมล์เอ่ยออกมาอย่างมั่นใจเธอคิดว่าการเอาใจคุณป๋าตรงหน้ามันไม่ใช่เรื่องยากอะไร ป๋ามินทร์ยิ้มออกมาอย่างพอใจถึงจะเห็นเป็นเด็กไม่เคยมีประสบการณ์แต่ดูแล้วสไมล์ไม่น่าจะเป็นเด็กที่ง่ายเหมือนที่เขาเจอแบบผ่านๆมา "ทำยังไงคะไหนลองยกตัวอย่างหน่อย" "ก็ทำอาหารให้ทานพาไปทานข้าวแล้วก็พูดจาน่ารักๆค่ะ เพื่อนสไมล์เรียกแฟนว่าตัวเองคะตัวเองขาน่ารักเชียวค่ะ คิกคิก" พอนึกถึงเพื่อนของเธอตอนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยก็หัวเราะคิกคักตอนนั้นมันน่ารักมากจริงๆนะเธอก็อยากจะมีแบบนั้นบ้างแต่คุณแม่บอกว่าถ้าอยากเจอคนดีๆจะต้องเรียนให้จบก่อนแล้วถึงจะมีได้ แต่พอเรียนจบไม่นานแม่ก็มาด่วนจากไปซะก่อน "แล้วทำไมเราไม่มีบ้าง ไม่อิจฉาเพื่อนหรือไง" ป๋ามินทร์ชวนคุยอย่างสนุก เด็กสาวตรงหน้าช่างพูดช่างจาน่าฟังยิ่งนักเขาก็แค่อยากรู้จัดเด็กสาวตรงหน้าให้มากยิ่งขึ้นก็เลยหลอกถามนั้นนี่ไปเรื่อยเปื่อยและรายนี้ชอบหลุดบ่อยซะด้วย "คุณแม่บอกว่าถ้าสไมล์ตั้งใจเรียนจนจบแล้วถึงจะมีแฟนดีๆได้ค่ะ" "โดนผู้ใหญ่หลอกแล้วเรา จบไม่จบถ้ามันจะเจอมันก็เจอเองแหละ ฮ่าๆๆ" ป๋ามินทร์อดขำไม่ได้จริงๆผู้ใหญ่พูดอะไรก็เชื่อไปซะหมดคนแบบนี้ก็มีด้วยทำไมยิ่งรู้จักยิ่งน่ารักขนาดนี้ "ไม่โดยหลอกซะหน่อย ตอนนี้สไมล์ก็เรียนจบแล้วและก็ได้มาเจอคุณป๋า ว่าแต่คุณป๋าจะเป็นแฟนที่ดีของสไมล่ได้มั้ยน้า" สไมล์เท้าคางมองชายหนุ่มตาแป๋วเล่นเอาชายหนุ่มถึงกับสะอึกไปเลยเมื่อโดนถามตรงๆแบบนั้น ปกติเขาไม่เจ้าชู้และไม่ค่อยเปลี่ยนคนรักบ่อยถ้าผู้หญิงคนนั้นซื่อสัตย์กับเขาก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเลิกรากัน และถ้าสไมล์น่ารักแบบนี้เขาก็จะเป็นแฟนที่ดีได้แน่นอน "มันก็อยู่ที่ว่าสไมล์จะเป็นแฟนที่ดีของป๋ารึเปล่าของแบบนี้ดีคนเดียวไม่ได้หรอก จริงมั้ยคะ" "สไมล์เป็นเด็กดีไม่ดื้อไม่ซนค่ะคุณป๋า" "ป๋าก็ไม่ดื้อไม่ซนนะ" สไมล์หัวเราะคิกคักอย่างชอบใจทั้งสองคนมองสบตากันก่อนจะยิ้มกว้างออกมาให้แก่กัน "คุณป๋าโตแล้วนะใช้คำนั้นมันแปลกๆ" "ก็จะมีแฟนเด็กต้องปรับตัวตามใช่มั้ยคะ" "คิกคิก คุณป๋าน่ารักจัง" สไมล์หัวเราะคิกคักก่อนจะหันซ้ายหันขวามองทางเพราะตอนนี้เธอเริ่มมีอาการท้องเสียมานิดหน่อยแล้ว "มองอะไรคะ" "อยากไปห้องน้ำค่ะไม่รู้ว่ามันอยู่ตรงไหน" ป๋ามินทร์ลุกขึ้นยื่นมือไปให้สาวน้อยสไมล์กุมไว้เธอยื่นมือมาจับมือเขาจากนั้นชายหนุ่มก็พาเธอเดินไปส่งถึงที่ "รอตรงนี้นะคะ" "ค่ะคุณป๋าสไมล์เข้าไม่นานค่ะ" สไมล์ปล่อยมือชายหนุ่มแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปผู้ช่วยของเขาที่เห็นทางสะดวกก็เดินเข้ามาหาเขาทันที "ป๋าครับคนของเราจับตัวได้แล้วครับ" "ใครส่งมันมาตามสไมล์" ป๋ามินทร์เอ่ยถามทันทีด้วยความอยากรู้เรื่องครอบครัวของสไมล์มันจะต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรสักอย่างที่เด็กสาวยังไม่รู้แต่เขาจะต้องสืบให้ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นและเขาจะปกป้องสไมล์ให้ถึงที่สุดไม่ให้ใครได้แตะต้องแม้แต่ปลายเล็บแน่ "เขาบอกว่าไม่รู้ว่าเป็นใครครับมันสารภาพมาแบบนั้นซึ่งผมคิดว่ามันน่าจะไม่รู้จริงๆ" "แล้วมันคุยกับใครล่ะหรือว่ามีคนจ้างมันผ่านหัวหน้ามันอีกทีลองถามรึยัง" "ผมจะไปสอบถามด้วยตัวเองครับและผมอยากให้ป๋าไปด้วยแต่ต้องพาคุณสไมล์ไปส่งก่อนตอนนี้ผมให้คนของเราพาไปไว้ที่โกดังเก็บไม้" "มาแล้วค่ะ" ป๋ามินทร์กับแมนถอยห่างออกจากกันก่อนจะส่งยิ้มเหมือนไม่มีอะไรให้สไมล์ เขาจะให้หญิงสาวรู้เรื่องนี้ไม่ได้ไม่อย่างนั้นเธอจะไม่กล้าออกไปไหนกับเขาเพราะกลัวเขาจะเดือดร้อน ตอนนี้ป๋ามินทร์อยากให้สไมล์สบายใจที่มีเขาปกป้องดูแลไม่ห่างแค่นี้ก็พอแล้ว "ไปช็อปปิ้งดีกว่าค่ะเด็กน้อยของป๋า สำหรับเด็กของป๋ามินทร์คนนี้อยากได้อะไรซื้อค่ะป๋าเปย์ไม่อั้นเลย" เขากุมมือหญิงสาวแล้วพาเดินออกไปจากตรงนั้น เรื่องที่คุยค้างกับแมนค่อยคุยตอนส่งเธอถึงบ้านแล้วกัน สไมล์ร้องลั่นเพราะจากประโยคของเขาเมื่อกี้คือเธอกลายเป็นเด็กของเขาแล้ว "แต่สไมล์ไม่ใช่เด็กของคุณป๋านะ ยังไม่ได้เป็น" "สไมล์ตอบตกลงไปแล้วค่ะ" "งื้อออ คุณป๋า!คือว่ามัน.. งั้นเอางี้ค่ะการเป็นคุณป๋าของสไมล์มีกฎด้วยนะข้อเดียวเท่านั้นคุณป๋าต้องทำตามด้วย" ป๋ามินทร์เหลือบสายตามองเด็กสาวข้างๆรอฟังกฎที่ว่าของเธอ "กฎ? อะไรคะ" "สไมล์ต้องเป็นเด็กของคุณป๋าคนเดียวเท่านั้นห้ามมีคนอื่นไม่อย่างนั้นยกเลิกไปเลย" สไมล์ทำหน้ายู่วใส่ชายหนุ่ม เขายื่นมือไปยีหัวสไมล์อย่างหมั่นเขี้ยวโทษฐานน่ารักอะไรแบบนี้ "รู้แล้วน่า ป๋ามีสไมล์คนเดียวนั้นแหละและคิดว่าคงจะปวดหัวน่าดู" "งื้อห้ามยีหัวสไมล์น้า ก็บอกแล้วไงว่าไงไม่ดื้อไม่ซนไงเล่าคุณป๋านี่นะ!"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม