ใครจะเหมาะ

795 คำ
หมิงซื่อเหลือบตามอง เฟิ่งหลิว ต่อไปนี้แตะต้องนางไม่ได้อีกทั้งยังเป็นน้องสาวบุญธรรมอย่างนั้นหรือ รู้สึกใจหายอย่างประหลาดไทเฮาจงใจปกป้องเฟิ่งหลิวจนออกนอกหน้าแม้แต่เขายังไม่เว้น ไทเฮาคิดอะไรอยู่กันแน่ เฟิ่งหลิวควรค่าให้ปกป้องอย่างนั้หรือ “ต้าหยู๋พยุงหยางหนี่ลุกขึ้น ได้เวลาเรียนการเย็บปักแล้วอย่ามาเสียเวลาที่นี่” ต้าหยู๋พยุงเฟิ่งหลิวให้ลุกขึ้นตามคำบัญชา พาเดินออกจากตำหนักของหมิงซื่อทันที หยิ่วเย่วมองจนลับสายตาส่วนอิงเผย ส่งสายตาเคียดแค้นจิตใจสับสนวุ่นวายหาความสุขไม่ได้ ความทะนงตนว่าเหนือกว่าคนอื่นหดหายไปเทียบไม่ได้แม้แต่นางคณิกาคนหนึ่งด้วยซ้ำไป ค่ำคืนมืดมิด กลิ่นดอกไม้ราตรีหอมขจรขจายไปไกล หยิ่วเย่วนั่งรอ ในห้องบรรทม เฟิ่งหลิวหอบตำราเดินกลับมาที่ห้องพัเพียงลำพัง เงาร่างสูงตระหง่านของใครบางคน “เฟิ่งหลิวถวายพระพรฝ่าบาท”ใจเต้นโครมคราม “ข้ากำลังจะกลับเดินเล่น ไกลไปหน่อย”เฟิ่งหลิวพยักหน้าช้าๆ “น้อมส่งฝ่าบาท”หมิ่งซื่อจ้องตากลมของเฟิ่งหลิว “รังเกียจข้าอย่างนั้นหรือ” รวบร่างบางแมาแนบอก “อย่าทำอย่างนี้”ใจเต้นโครมคราม หมิงซื่อเสียดายว่าของที่ต้องตาต้องใจจะหลุดมือไปเพราะคำบัญชาของไทเฮาเช่นนั้นหรือ เขาไม่เข้าใจตัวเองใจหนึ่งก็คิดว่าอย่าแตะต้องนาง นางไม่คู่ควรแต่อีกใจไยดื้อรั้นพาตัวเองมายืนคอยที่หน้าห้องพักของเฟิ่งหลิว “ปล่อยเพคะ” “ไม่ ตอบข้ามาเจ้ารังเกียจข้าหรือไรกับผู้อื่นข้าเห็นเจ้ายิ้มหัว”เฟิ่งหลิวยิ้มบางๆ “ฝ่าบาทไม่กลัวหรือว่า หญิงกร้านโลกอย่างเฟิ่งหลิวจะยั่วยวนจนฝ่าบาท ไม่อาจห้ามใจกระทำเรื่องฝืนใจที่ไม่อาจฝืน ความต้องการของร่างกาย”เกือบจะเผลอเป่าลมออกจากปากกว่าจะสรรหาคำพูดมาได้ “นางคณิกา เจ้าคิดเป็นแต่เรื่องแบบนี้เช่นนั้นหรือ”หลุบตามองพื้น “หากเกรงว่าจะเสียเกียรติฝ่าบาทก็ทรงอย่าอยู่ใกล้เฟิ่งหลิวอีกเลย เฟิ่งหลิวก็แค่เพียงคณิกา ไร้ศักดิ์” “ข้ารู้ดีไม่ต้องตอกย้ำ ข้าไม่เคยปรารถนาในตัวเจ้าอย่าสำคัญตัวเองให้มากนัก”สะบัดตัวจ้ำเท้าออกจากตรงนั้นไปเฟิ่งหลิวทรุดกายลงบนเก้าอี้ถอนหายใจยาวเหยียด กลับไปที่ตำหนักหยิ่วเย่ว ลุกพรวดพาดแสดงสีหน้าดีใจที่ หมิงซื่อกลับมา ฉุดหยิ่วเยว่ขึ้นไปบนแท่นนอนโถมตัวลงทาบทับ บดริมฝีปากอย่างเร่าร้อนรุนแรง ด้วยอารมณ์คุกรุ่นภายใน หยิ่วเย่วตกใจไม่น้อยแต่ก็ไม่ได้เอ่ยคำใดเพียงแต่สงสัยว่าหมิงซื่อเป็นอะไรไป พายุอารมณ์สงบลง หมิงซื่อนอนเอามือก่ายหน้าผาก หยิ่วเย่วขยับตัวเบาๆ หมายจะบีบนวดให้แต่ หมิงซื่อกลับพลิกตัวนอนตะแครงหันหลังให้ หยิ่วเย่วเปลี่ยนเป็นลุกมาสวมเสื้อผ้าแล้วจากไปเงียบๆ ปล่อยให้หมิงซื่อจมอยู่กับความคิดเพียงลำพัง “ต้าหยู๋ เจ้าบอกข้าว่าได้ยินนางกำนัลขององค์หญิงสิบสี่พูดถึงค่าจ้าง ที่ให้เฟิ่งหลิวอย่างนั้นหรือ” “เพคะไทเฮา เกรงว่าเฟิ่งหลิวโดนหลอกแน่แล้ว”ไทเฮาถอนหายใจ “เฟิ่งหลิวยังเด็กนักเรื่องบางเรื่องนาง ต้องการคนปกป้อง” “ไทเฮาให้เฟิ่งหลิวรั้งตำแหน่งหยางหนี่เหมือนเป็นการกดดันฝ่าบาท” “กดดันฮ่องเต้ ..อย่างไรกันข้าเพียงแค่ปกป้องเฟิ่งหลิว” “ไทเฮาทรงเห็นสายตาของฝ่าบาทยามจ้องมองเฟิ่งหลิวหรือไม่”ไทเฮาเอามือทาบอก “จริงสิข้าลืมไปเสียสนิท สวรรค์ช่างเล่นตลกอะไรเช่นนี้” “ไทเฮา หมายความว่าอย่างไร” “ไม่ไม่มีอะไรเพียงแค่ข้า คิดไม่ถึงลืมไปว่าหมิงซื่อกับเฟิ่งหลิวเคยรวมเดินทาง รอนแรมมาด้วยกันก่อนที่จะมาที่นี่หาก ไม่มีใจคง ผลักไสเฟิ่งหลิวตั้งแต่อยู่ที่แคว้นเหนือแล้วจะหอบหิ้วนางมาทำไมกัน” “ใช่เพคะไทเฮา ลำพังแค่ท่านแม่ทัพอวิ้นกุ้ยพูด ว่านางรู้เบาะแส กับฝ่าบาทพูดว่าพบเฟิ่งหลิวระหว่างทางเหมือนทั้งสองคนคน กำลังช่วยกันปกป้องเฟิ่งหลิว แต่เพียงแค่แสดงออกต่างกัน” “หากจะเป็นอย่างนั้น เราควรทำเช่นไรดี” “ไทเฮา คิดว่าอย่างไรดีละเพคะ” “ข้า...ในใจข้าตอนนี้ ไม่เห็นควรว่าองค์หญิงสิบสี่จะเหมาะกับตำแหน่งฮองเฮาแม้แต่น้อย”ต้าหยู๋อมยิ้ม “แล้วใครกันที่จะเหมาะกับตำแหน่งนี้กัน”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม