ค่ำคืนที่มืดมิดอีกเช่นเคย ฝนที่ตกหนักเริ่มซาลงไปแล้ว น้ำรินที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่ริมหน้าต่างภายในห้องของตัวเองโดยมีแสงสลัวจากโคมไฟเป็นตัวช่วยเพื่อให้เห็นตัวหนังสือที่อ่าน
หญิงสาวนั่งอ่านหนังสืออย่างจดจ่อ ก่อนจะมีใครบางคนเคาะประตูห้องของเธอ
ก็อก ก็อก
หญิงสาวตกใจเล็กน้อย ก่อนจะรีบเดินไปเปิดประตูห้องทันที
"ยัยตัวเล็ก ดึกดื่นป่านนี้แล้วยังไม่นอนอีกหรอ"ชายหนุ่มที่เดินมาเคาะประตูห้องไม่ใช่ใครที่ไหน วอร์มนั่นเอง คำที่เรียกเธอนั้นเขากับนิทานมักจะใช้เป็นประจำแต่เขาค่อนข้างจะใช้บ่อยกว่านิทาน
"พอดียังไม่ง่วงน่ะ กำลังอ่านหนังสืออยู่"
"หนังสืออะไรหรอ ขออ่านด้วยได้ไหม"วอร์มเอ่ยพลางเบียดตัวเข้ามาในห้องของหญิงสาวอย่างแนบเนียน น้ำรินที่ไม่ได้คิดอะไรมากก็เดินนำชายหนุ่มมานั่งที่ริมหน้าต่างที่เธอนั่งอ่านหนังสือก่อนหน้านี้
"ฉันอ่านเล่มนี้ แล้วหมอนั่นออกไปข้างนอกหรอ"น้ำรินแนะนำหนังสือให้กับวอร์มพลางเอ่ยถามถึงนิทานที่หายไปตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ
"อืม มันไปทำธุระน่ะ"
"ฉันคงต้องรบกวนพวกนายอีกสักพัก เพราะยังหาที่อยู่ใหม่ไม่ได้เลย"น้ำรินเอ่ยบอกชายหนุ่มด้วยความเกรงใจที่มาขออาศัยอยู่กับพวกเขา
"เธออยู่ที่นี่ได้เลย ไม่ได้รบกวนพวกฉันเลยสักนิด"หญิงสาวยิ้มพลางพยักหน้าตอบรับเมื่อได้ยินเขาพูดแบบนั้น มันทำให้เธอสบายใจขึ้นมาได้นิดนึง
"ขอบใจนะ ว่าแต่นายยังไม่ง่วงหรอ"
"ยังน่ะ ว่าแต่เธอได้กินวิตามินหรือยังอ่ะ"แววตาที่มีเลศนัยปรากฏขึ้นมาจ้องมองมาที่หญิงสาว น้ำรินที่เงยหน้าขึ้นไปสบตาพอดีรีบหลบตาหนีทันที สายตาแบบนี้เธอเพิ่งได้เห็นครั้งแรกและมันดูแปลกๆไม่เหมือนสายตาปกติของวอร์ม หญิงสาวสะบัดความคิดออกพลางเงยหน้าขึ้นมามองชายหนุ่มอีกครั้ง
"เพิ่งกินไปก่อนที่นายจะเข้ามานี่เอง"วอร์มพยักหน้าทำท่าทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"ฉันว่าเธอไปนอนเถอะ ดึกป่านนี้แล้วนะ"ชายหนุ่มเอ่ยบอกหญิงสาว พลางดึงหนังสือในมือออกวางไว้บนโต๊ะบริเวณหัวเตียงของหญิงสาว น้ำรินที่เริ่มง่วงขึ้นมาแล้วจริงๆมองนาฬิกาบอกเวลาก็เออออไปกับเขาเพราะตอนนี้มันดึกมากแล้วอย่างที่เขาว่า
"ฝันดีนะ"
"อืม ฝันดี"น้ำรินบอกฝันดี ก่อนที่ชายหนุ่มนั้นจะก้าวพ้นประตูออกไป หญิงสาวทิ้งตัวลงนอนบนเตียงด้วยความง่วง หัวที่ถึงหมอนแค่ไม่กี่นาทีก็หลับไปอย่างรวดเร็ว
วอร์มที่รอจังหวะย่องเข้าไปหาร่างบางนั้น จู่ๆก็มีสายโทรเข้ามาหาเขา
"ว่าไง โทรมาทำไมตอนนี้ว่ะ"ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ แต่ใบหน้ายังคงปกติเหมือนเดิมไม่ได้แสดงอาการใดๆ
(คุณวอร์มครับ เกิดเรื่องใหญ่แล้วครับ)เสียงจากปลายสายเอ่ยอย่างรีบร้อน ทำให้วอร์มไม่รอช้ารีบวางสายและออกไปจากบ้านในทันที...
"นิทาน มึงมาด่วนเลย เกิดเรื่องใหญ่แล้ว"วอร์มรีบต่อสายหานิทานทันที ก่อนจะขับรถด้วยความเร่งรีบ ไม่นานนักเขาก็มาถึงจุดที่เกิดเรื่องพร้อมๆกับนิทานอีกคน
"คุณวอร์ม คุณนิทานครับ ของที่จะส่งออกหายไปครับ"ลูกน้องรีบวิ่งตรงมารายงานเรื่องทั้งหมดให้ทั้งสองคนฟัง
"ห๊ะ หายไปได้ยังไง ก็สั่งให้จัดคนคอยตรวจตราอยู่ตลอดไม่ใช่หรือไง"น้ำเสียงของนิทานดุดันขึ้นกว่าปกติมาก ชายหนุ่มนั้นโมโหจนเส้นเลือดขึ้นไปทั้งแขนไม่ต่างจากวอร์มที่กำลังระงับอารมณ์ของตัวเองอยู่ วอร์มกำลังคิดแก้ไขปัญหาให้ได้ไวที่สุด
"เอ่อ มันมีคนวางยาพวกนั้นครับ"
"งั้นก็แสดงว่าต้องมีหนอนบ่อนไส้อยู่ในนี้ เรียกคนงานทั้งหมดมารวม!!!"วอร์มตะคอกเสียงดัง ยามที่ชายหนุ่มโกรธนั้นน่ากลัวกว่าปกติมาก แววตาที่เต็มไปด้วยความโมโหของทั้งสองนั้นทำให้ไม่มีใครกล้าสบตาด้วยเลยแม้แต่น้อย...
@09:00น.
น้ำรินที่ตื่นมาก็พบว่าไม่มีใครอยู่บ้านเลยนอกจากเธอ จึงลุกขึ้นมาทำอาหารกินเอง ข้าวผัดกะเพราอย่างง่ายของเธอส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั้งห้องครัว หญิงสาวนั่งทานอาหารอย่างมีความสุขพร้อมกับดูซีรี่ส์เรื่องโปรดไปด้วย
ติ๊งง ต๊องงง
เสียงกดออดของบ้านดังขึ้น น้ำรินที่เพิ่งกินข้าวเสร็จจึงแอบส่องผ่านกระจกเพื่อดูว่าใครมากดออดของบ้าน เพราะถ้าเป็นสองคนนั้นก็คงจะเข้ามาแล้วไม่มีทางกดออดเด็ดขาด
หญิงสาวแอบมองผ่านช่องกระจกออกไปตรฃออดหน้าบ้าน ทำให้เห็นผู้ชายรูปร่างท้วม สูง ตัวใหญ่ยืนอยู่หน้าบ้านกันสองคนพร้อมกับอาวุธบางอย่างในมืออย่างปืน น้ำรินที่รู้สึกถึงสถานการณ์ที่ไม่ค่อยจะดีเมื่อผู้ชายสองคนนั้นปีนรั้วบ้านเข้ามาแล้ว จึงรีบหยิบโทรศัพท์โทรหานิทานทันที เพราะเธอนั้นมีแค่เบอร์ของนิทาน
(ว่าไง ยัยตัวเล็ก)เสียงปลายสายดูเคร่งเครียดเล็กน้อยแต่ยังคงความสดใสในการเรียกเธอไว้อยู่
"นิทาน มีใครก็ไม่รู้สองคนเป็นผู้ชายปีนรั้วบ้านเข้ามาแล้วอ่ะ ทำยังไงดี"ใจของน้ำรินไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเมื่อเห็นร่างท้วมเดินมาตรงกระจกด้านข้างเนื่องจากเข้าทางประตูไม่ได้ โชคดีที่เธอปิดม่านในบ้านไว้ทำให้พวกมันมองไม่เห็นว่าเธออยู่ในบ้านและเห็นพวกมัน
"ห้ะ เธอรีบไปหาที่ซ่อนอย่าให้พวกมันหาเธอเจอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นห้ามออกมาจากที่ซ่อน เดี๋ยวฉันกับไอ้วอร์มจะรีบไป"เสียงจากปลายสายค่อนข้างตกใจก่อนจะตัดสายไปทันที
ปัง ปัง ปัง
เสียงของปืนดังขึ้นตรงประตูทำให้น้ำรินที่ยืนอยู่ถึงกับสะดุ้งก่อนจะรีบวิ่งไปหาที่ซ่อนตามที่ชายหนุ่มบอก แต่เพราะบ้านที่กว้างมากและระยะทางที่จะขึ้นไปข้างบนนั้นอาจจะไม่ทันเวลา เธอจึงตัดสินใจวิ่งเข้าไปในห้องของนิทานที่อยู่ใกล้เธอที่สุด น้ำรินรีบวิ่งเข้าไปหลบในห้องแต่งตัวทันที
"เฮ้ย ตามหาตัวนังผู้หญิงให้เจอ"เสียงตะโกนดังมาจากด้านนอกทำให้เธอรู้ว่าพวกมันเข้ามาในบ้านกันได้แล้ว
น้ำรินทรุดตัวนั่งอยู่ในตู้เสื้อผ้าของนิทานอย่างหมดแรง ตอนนี้เธอกลัวมากแต่ไม่สามารถแสดงอาการออกมาได้เพราะมีเพียงเธอเท่านั้นที่จะช่วยตัวเองได้ น้ำรินสั่นไปทั้งตัวด้วยความกลัว
"ออกมาซะดีๆ อย่าให้ต้องใช้กำลังกันเลย"เสียงของคนพวกนั้นใกล้ห้องของนิทานเข้ามาเรื่อยๆจนกระทั่งพวกมันเปิดประตูเข้ามา น้ำรินแทบจะหยุดหายใจเพราะกลัวว่าพวกมันจะหาเธอเจอ ในใจได้แต่ภาวนาให้สองคนนั้นกลับมาไวๆ
"ออกมาเถอะ คุณนายเขาแค่ให้มารับกลับบ้าน ถ้าไม่ออกมา เธอตายแน่"คำพูดของพวกนั้นทำให้เธอรู้ทันทีว่าเป็นแม่เลี้ยงของเธอที่ส่งคนมาแบบนี้ ให้ตายยังไงเธอก็ไม่มีทางยอมออกไปและกลับไปกับพวกนั้นเด็ดขาด
พลั่ก ตุบ โอ้ยยยย
"ไอ้เหี้ยนี่ กล้าดียังไงมาถีบพวกกู"เสียงตุบตับดังออกมาจากด้านนอกทำให้เธอพอจะรู้ว่าพวกเขามากันแล้ว
"พวกมึงจัดการ"เสียงเรียบนิ่งและสงบไม่ต้องบอกก็รู้เลยว่าเป็นเสียงใคร เสียงฝีเท้าของใครหลายคนวิ่งเข้ามาในห้อง
ตุบ ตุบ ตุบ พลั่ก
"โอ้ยยย ปล่อยพวกกูนะเว้ย อ๊ากกกกก"เสียงร้องโอดอวยของพวกนั้นดังขึ้นก่อนจะค่อยๆเบาลงเมื่อห่างออกไปจนไม่ได้ยินเสียงในที่สุด
"ออกมาได้แล้ว พวกมันโดนลูกน้องขอพวกฉันลากไปแล้ว"เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยขึ้น ก่อนที่ประตูตู้เสื้อผ้าจะเปิดออกพร้อมกับร่างของทั้งสองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ
"อึก ฮึก ฮือออออออ"น้ำตาที่กลั้นไว้ก่อนหน้านี้ไหลพรั่งพรูออกมา เธอกลัวมากจนไม่กล้าที่จะร้องไห้ออกมา พอถึงตอนนี้เธอก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหวอีกแล้ว
"เฮ้อ เธอนี่นะ"ชายหนุ่มยิ้มออกมาก่อนที่วอร์มจะเป็นคนช้อนตัวของเธออกมาจากตู้เสื้อผ้าของชายหสุ่มที่ยืนข้างๆ เขาวางเธอไว้ที่เตียงของนิทานอย่างเบาๆ
'อย่ากลัวเลย พวกฉันอยู่นี่แล้ว'