เพราะต้นส้มไม่อยากเรียนไง

1827 คำ
2 - เพราะต้นส้มไม่อยากเรียนไง เวลาต่อมา “อร่อยมากเลย ซื้ดด” ผมกับบอนสีนั่งอยู่ในร้านกาแฟระดับกระเป๋าพอจับต้องได้ แฟนผมจะชอบพาผมไปใช้เงินเสพสุขอยู่ทุกแห่งหน ที่นี่ก็เช่นกัน ผมนั่งอยู่ท่ามกลางบรรยากาศโทนขาวดำ ตกแต่งโต๊ะประดับที่นั่งด้วยไม้นำเข้าพร้อมกลิ่นอายกาแฟอบอวลไปทั่วร้าน สิ่งนี้เองทำให้ผมรู้สึกว่าความสุขในชีวิตผมคือความสวยหรูดั่งร้านกาแฟ สถานที่พิมพ์นิยม สบายกายใจ ผมไม่ใช่พวกชอบเดินดิน แต่เป็นพวกติดปีกบนท้องฟ้านั่งเฟิร์สคลาส ขณะนี้ก็เช่นกัน ผมลิ้มลองกาแฟสูตรใหม่ เห็นว่าทางร้านคิดค้นสูตรกาแฟใหม่ให้ลูกค้าได้ลองในช่วงไม่นานมานี้ ผมเห็นว่าร้านนี้เพิ่มเมนูใหม่อย่าง กาแฟกล้วย แล้วกล้วยมันก็เป็นของโปรดผมอยู่แล้ว สิ่งนี้ปอกแล้วกินเนื้อในได้ ส่วนกล้วยมนุษย์ก็แค่ใช้ปากดูดน้ำให้ของเหลวภายในออกมา ขนาดดูดกาแฟ ผมยังส่งเสียงชวนคิดเลย “ช่วยทำเสียงปกติที่เขาไม่ทำกันในที่แบบนี้ได้ไหม” “ก่อนจะเตือนกู เตือนตัวเองก่อนไหม ถ้ายังมั่วไม่เลิก” บอนสีเป็นรักเดียวของผม ซึ่งผมกับเขาถือว่าศีลเสมอกัน หน้าตาไม่ได้พิมพ์นิยมออกจะปานกลาง ใช่ว่าดูไม่ได้ เพราะความเหมือนกันทำให้ผมกับเขาลงรอยรักและจมปรักเสมอกัน ผมเข้าใจมาเสมอว่าผู้ชายอย่างบอนสี ก่อนจะมาเจอผม มันเจ้าชู้ ทำตัวเสเพล มั่วยาน้อยกว่ามั่วกาม ผมถึงอยากทำให้มันหยุดที่ผม แต่ผมไม่สามารถหยุดมันได้ถาวร ผมถึงได้ดิ้นรนให้มันมาหยุดผมบ้าง ตอนนี้เองมันเตือนผมทั้งที่มันไม่ได้ดูตัวเองเลย ผมทำเสียงดูดน้ำในแก้วให้ดังอีกระดับหนึ่ง “เราสองคนเกิดมาในที่แบบนี้ คิดจะลืมกำพืดเหรอ” ขนาดคนบ้านนอกเข้าเมืองได้นานยังลืมกำพืดเลย เวลานี้เช่นกันผมเกิดมาในสังคมแบบนี้ หากย้ายถิ่นฐานออกไปจากพื้นถิ่นที่จากไป คิดว่าผมจะเนรคุณลืมกำพืดที่พ่อแม่มอบประสบการณ์ให้ผมงั้นเหรอ “มันไม่ใช่แบบนั้น” “คนแบบพวกเรา ต่อให้เราจะทำดีแค่ไหน มันก็มองเราต่ำต้อยอยู่แล้ว ถ้าทำดีแล้วแต้มบุญไม่ขึ้น ก็ทำแต้มบาปให้ดีกว่าเดิมเถอะ มึงคิดว่าคนในระแวกกูจะขึ้นสวรรค์เหรอ” สิ่งพวกนี้มันเป็นสิ่งที่ผู้เฒ่าเกิดหลังผมมาช้านานเชื่อมาเช่นนั้น แต่ผมมันคนสมัยใหม่ มีความคิดเดินหน้า ไม่ใช่ดักดานถอยหลัง สมองไม่พัฒนา ผมอยากอยู่สุขสบายก็ต้องเลือกชีวิตที่ดี ไม่ใช่จมอยู่กับความขัดสน ผมอยากมีเงินจะเอาไปบำเรอเพศชาย “คนแบบกู การขายบริการไม่ใช่ทางเลือก” “มึงพูดแบบนี้ ค่อยดีหน่อย กูจะได้รู้ตัวเองว่ากูยังมีแฟนอยู่” ผมพยายามทำดีกับต้นส้มมาตลอด เขาทำแล้วรักตอบไม่เคยมีปัญหาชนิดระเบิดลูกใหม่ทิ้งลงสมรภูมิรัก ถ้าเขาคิดว่าผมยังมีตัวตนก็ถือว่าผมยังประสบผลสำเร็จในความรักแล้ว “คนแบบกู รักใครกูก็รักหมด ต่อให้ผู้ชายจะมาบอกชอบพร้อมกันก็ตาม” ถ้าคนที่ผมชอบและเข้ามาพร้อมกัน ผมพร้อมจะเดินเข้าหามากกว่าปฏิเสธโอกาสที่โลกมอบให้เพศผมสืบพันธ์กันเอง ผมกำลังเพลิดเพลินกับรสชาติกาแฟกล้วยเข้ากันได้ดี พร้อมกับบราวนี่ชาเขียว ราคาของมันถือว่าแฟงกว่าอาหารตามสั่ง แต่ผมเห็นถึงคุณค่าของเงินที่ได้มา การใช้เงินถือว่าโปรยฟร้องไปทั่วแผ่นฟ้า ใช้เหมือนถ่ายเอกสารเองได้ ผมถือว่ามื้อนี้ผมเป็นคนออกให้เอง ถ้าความเป็นจริงฝ่ายชายต้องออกให้ แต่สำหรับผมถ้าใจกล้าหน้าไม่อาย ผมด้านพอจะจับจ่ายให้เอง “แล้วทีหลัง อย่าให้ตำรวจมาป้วนเปี้ยนแถวนี้อีก กูกับป้าเล้งแซ่บอิทธิพลใหญ่กว่าตำรวจทั้งโรงพัก กูสามารถสั่งปิดสถานีตำรวจประเทศนี้ได้เลย” ผมกำชับบอนสีขณะที่มันกำลังเสพรสชาติหวานขม ผมอยากให้รสชาติของขนมและกาแฟฉีดผ่านเส้นเลือดขึ้นใจว่า ระแวกนี้ต้องไม่มีตำรวจหรือผู้มีอิทธิพลใหญ่กว่า ผมหรือพ่อแม่ผมทั้งสิ้น ผมอยู่เหนือแล้วจะให้เหนือกว่าผมมันก็ไม่ใช่ “เออ กูจะไม่พลาดอีก” “ร้อยครั้งที่มึงสัญญา ทำพลาดไปแล้วครึ่งหนึ่ง ยังมีหน้ามารับปากอีกเหรอ” “ช่วยลดความร้อนของใจและปากมึงลงก่อนได้ไหม กูต้องการอยู่กับมึงอย่างมีความสุข ไม่ใช่มาฟังมึงด่าไม่ซ้ำคำแบบนี้” คนอย่างต้นส้มถึงชื่อจะหวานจากผลของมัน แต่ปากแซ่บกว่าต้มยำทั้งชาม เครื่องด่าไม่ซ้ำคำทำผมเจ็บแล้วจำขึ้นใจ ไม่แปลกที่มันจะฉุดผมออกจากความอิสระ ผมจะได้ไม่ไปผสมพันธ์มั่วกว่าน้ำปั่นละเอียดในแก้ว จนมองไม่ออกว่าสิ่งไหนเป็นสิ่งไหน “บอนสี กาแฟกล้วยแก้วนี้หวังว่าจะไม่เป็นงูพิษนะ” “คนแบบมึงอะ จะให้แดกช็อกโกแลต แดกของหวานทุกชนิดก็ไม่ลดความปากหมาของมึงได้หรอก มันเป็นสันดานตั้งแต่เกิด ไม่ใช่ได้มาหลังมึงเกิด” ผมเห็นแล้วว่าคนอย่างต้นส้ม ต่อให้ผมจะค้นหาบทวิจัยว่าการทานของหวานจะทำให้ช่วยลดความใจเย็นลง แต่สำหรับมันถือว่ายิ่งกินยิ่งดุเพิ่มพลังปากด่าเช้าด่าเย็นไม่หยุด “แล้วมึงช่วยตั้งใจเรียนให้สมกับค่าเทอมที่จ่ายไปด้วย” “กูรู้แล้วน่า ที่จริงกูไม่ได้อยากเรียนหรอก แต่สาขากูมีแต่ผู้ชาย ถือซะว่าคุ้มค่าเหนื่อยที่แม่กูหาเงินทุกบาททุกสตางค์เพื่ออนาคตกูแล้วกัน” “คิดได้แบบนี้ค่อยดีหน่อย” ผมอยากให้ต้นส้มเห็นว่าการเรียนยังมีอนาคตและมีความเป็นได้ที่จะต่อยอดให้ชีวิตของเราสองคนไปในทางที่ดี พ่อแม่ของผมและเขาถือว่ามองเห็นโอกาสและวางแผนอย่างไม่บีบคั้น หนักต่อความรู้สึก อิสระจนอยากเลือกชีวิตเองได้ ถ้าผมคิดได้ ต้นส้มก็ต้องคิดได้ว่าเงินทุกบาททุกสตางค์ส่งมนุษย์ไม่ใช่สัตว์มีเขาดักดานกินแต่หญ้า ไม่ได้ความรู้อะไรกลับมา ถ้าเป็นเช่นนั้นจะเสียเงินส่งไปทำไม เวลาต่อมา “เดี๋ยวกูมานะ” ผมดื่มกาแฟเกือบจะหมดแก้วแล้ว ผมรู้สึกอยากปล่อยผู้โดยสารขาออกจะตายชักแล้ว คนเราไม่สามารถฝืนธรรมชาติได้ ถ้าให้ปล่อยใส่ปากได้คงปล่อยไปแล้ว แต่ปากของเขาต้องกินน้ำเชื้อไม่ใช่น้ำปัสสาวะ ผมลุกออกไปสักครู่ขอปลดปล่อยให้ช่วงล่างผมสบายตัวบ้าง ไม่ใช่ฝึกบำเพ็ญทุกรกิริยา ผมออกไปพักหนึ่งปล่อยให้ต้นส้มนั่งไปเพราะตอนนี้คนไม่มาก มันไม่ไปโปรยเสน่ห์ชายอื่นใดหรอก มันชอบวัยรุ่นอายุกำลังเติบโต ไม่ใช่โตจนหย่อนยานแล้ว เสียงกระดิ่งที่อยู่เหนือประตูร้านดังขึ้น ส่งเสียงให้ผมได้ยินว่ามีลูกค้าคนใหม่เข้ามา ตอนแรกผมเห็นก็ปกติก็แค่ลูกค้าเข้าออกร้านไม่ได้แปลกกว่าทั่วไป แต่ทว่างลูกค้าคนนี้ทำให้ผมหยุดชะงักถึงขั้นวางโทรศัพท์ลงถือไปพร้อมกับเข้าไปทักทายตามประสาคนเห็นหน้าคร่าตาจำชื่อได้แล้ว “ที่รักก” ผมชอบเรียกผู้ชายที่ผมชอบหลายคนว่าที่รัก ผมเดินเข้าไปใกล้พร้อมเอามือบิดแก้วเบา ๆ ให้เห็นว่าผมเล่นด้วย หว่านเสน่ห์ให้ด้วยความเต็มใจ ผมเห็นจุดเด่นของผู้ชายคนนี้ เขามีเหนียงแถมหน้าบวมมีน้ำมีนวลไม่ใช่กักผงชูรส แค่เป็นผู้ชายตัวใหญ่พอมีน้ำหล่อเลี้ยงร่างกายจนออกมาตัวบวมหน่อย “เลิกบิดได้แล้วมั้ง จับอยู่นั่นแหละ” “รำคาญอะไรล่ะ ทีกูจับจู๋มึงยังไม่ขัดขืนเลย” ผู้ชายคนนี้คือโซดา มันเป็นผู้ชายหน้าบวมที่ผมชอบเรียกมันแทนชื่อเล่นจริงไปแล้ว ร่างกายมันกำยำ แต่งตัวโทนสีดำ กางเกงวินเทจขายาว สวมสร้อยคอเหล็กที่ผมชอบอมดูด หมัดหนักแถมชอบหาเรื่องคนไปทั่ว วันนี้มันคงอารมณ์ดีเดินเข้าร้านมีราคา ปกติมันชอบไปซดเหล้าตอง มันไม่ดื่มหรอกกาแฟมีราคา โซจูราคาแพง “วันนี้กูรวย อยากมาจัดกาแฟสักหน่อย” “งั้นเอาสิ กูกินกาแฟกล้วยแล้ว มึงยังไม่ได้ลองเหรอ จะตกเทรนด์กว่าคนอื่นได้ยังไง” ผมรู้ดีว่าคนอย่างโซดา ไม่เคยตามไม่ทันสมัยนิยม มีอะไรใหม่ ๆ มันต้องคว้าไว้ หน้าใหญ่ใจโต ใครมีมันก็ต้องมี ไม่งั้นมันได้เป็นนักเลงใหญ่คุมซอยได้ยังไง ผมอยากรู้ว่ามันรวยขนาดไหน ผมบอกให้โซดาเปิเผยธนบัตรทุกใบในร่างกาย พบว่าในกระเป๋ามีธนบัตรราคาสูงที่สุดยี่สิบใบ ไหนจะธนบัตรสีม่วงห้าร้อยในกางเกงในที่มันใส่มา ผมชอบ ตาลุกวาวมีหรือจะปฏิเสธไป “ต้นส้ม อยากได้อะไร จะพาไปซื้อนะครับ” “ไปสิ เราว่างพอดี” ผมรอให้โซดาสั่งกาแฟกล้วยเมนูใหม่เสร็จพร้อมขนมตกท้องอย่าง บราวนี่ชาเขียว ผมทำหน้าที่เป็นแฟนที่ดีชวยถือของพร้อมกับโซดา ควงแขนออกไปด้วยกัน ผมเห็นว่าเขาจะบันดาลสิ่งที่ผมอยากได้ ผมขอจัดอะไรสวยหรูสักอย่างแค่นี้ผมก็พอใจแล้ว “ต้นส้ม เวรเอ้ยย มึงไปกับผู้ชายคนไหนเนี่ย” บอนสีเดินออกมาพบว่าแฟนสุดที่รักของผม เดินหายออกไปจากร้านก่อนผม ผมพยายามติดต่อหาแต่มันปิดเครื่องทำเหมือนโยนโทรศัพท์ออกไปจากดาวอังคาร ติดต่อไม่มีการตอบรับ ผมรู้นิสัยมันอย่างดีว่ามันก็ผสมพันธุ์มั่วไม่ต่างจากผม แต่ช่วยคิดให้ความจริงฉีดเข้าเส้นเลือดจำขึ้นใจบ้างว่าเราสองคนเป็นแฟนไม่ใช่คู่รักนักทำแต้ม อย่าให้ผมเอาไปฟ้องแม่มันแล้วกัน เฆี่ยนให้อวัยวะเคลื่อนจนเขย่ากลับเหมือนเดิมไม่ได้อีกต่อไป
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม