แกรนิค talk
สวัสดีครับ ผมชื่อแกรนิค อายุ 27 ปี รูปร่างหน้าตาเหมือนชาวยุโรป ออกแนวหน้าตาดีครับ ผมเป็นเด็กกำพร้าที่แด๊ดมาตินและมัมลินได้มารับเลี้ยงผมที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ตอนนั้นผมอายุแค่7 ขวบ ส่วนแด๊ดกับมัมของผมได้เสียชีวิตไปแล้วเพราะไปรู้ความลับมาเฟียแก๊งค์หนึ่งเลยโดนฆ่า โดยผมก็ไม่รู้ว่าแก๊งค์อะไร ผมอาศัยอยู่ที่บ้านของแด๊ดมาตินและมัมลิน ท่านทั้งสองมีลูกชายสองคน คนหนึ่งชื่อมาตินอัส อายุ 28 ปี เควิน อายุ 27 ปีเท่าผม และยังมีลูกพี่ลูกน้องอีกคนหนึ่งคือเวกัสคุณหมอประจำกลุ่ม ชีวิตของผมเป็นได้ทุกอย่างที่ให้กับคนมีพระคุณ ผมเป็นได้ทั้งแขน ขา ยอมเสียสละได้ทุกอย่าง แต่พวกท่านก็ไม่ได้บังคับอะไรผมตามใจผมทุกอย่าง เหมือนกันกับลูกชายคนหนึ่ง ร่วมถึงมาตินอัส เวกัส เควินด้วย พวกเขาไม่ได้มองผมเป็นคนอื่นเลย
เรื่องความรักผมเคยมีความรักครับ เพราะเพื่อนของแด๊ดมาตินมาขอยืมตัวผมไปเป็นบอดี้การ์ดให้กับลูกสาวของเขา เธอชื่อโมนา เธอคือรักแรกของผม แต่เธอไม่ได้รักผมเธอแค่แกล้งเล่นกับความรู้สึกของผม ถามว่าผมลืมเธอหรือยังตอบเลยว่าลืมแล้ว และผมก็เข็ดกับความรัก เเบบนี้ไงความรักมันน่าเบื่อ ' เบื่อหน่ายความรัก' จบครับผม
ตอนนี้ทุกคนกำลังยืนอยู่ที่ห้องรับแขกใหญ่บ้านของมาตินอัส โดยที่มี มัม แด๊ด มาตินอัส กองฟางน้องมาคัสนั่งอยู่บนตักแกร่งคุณแด๊ดอัส เควิน ราเม็ง เวกัส มัสใจที่กำลังท้องแก่ๆใกล้คลอดแล้วนั่งอยู่ด้วย
" ว่าไงมาติน แกจะให้ฉันไหม?" คอนส์เพื่อนรักของมาตินถามออกมา เพราะวันนี้เขาจะมาเอาตัวของแกรนิคไปอยู่ด้วยไปทำงานทุกอย่างแทนเขา มาตินถอนหายใจเบาๆ พลางปลายตามองเมียสุดที่รักอย่างลินนั่งเงียบอยู่ เพราะเขารู้ว่าลินรักแกรนิคมากแค่ไหน รักเหมือนกันลูกชายคนหนึ่ง แกรนิคนั่งฟังนิ่งๆแล้วแต่ ผู้มีพระคุณจะตัดสินใจ ทุกคนที่นั่งรอฟังอยู่ในห้องรับแขกก็นั่งฟังเงียบ
" แกมาเหนื่อยๆไปพักก่อนไหมว่ะ?" มาตินบอกกับเพื่อนรัก คอนส์ส่ายหน้าเบาๆ เขารีบถ้าได้ตัวแกรนิคเขาก็จะขึ้นเครื่องบินส่วนตัวกลับเลยพร้อมกับแกรนิค เพราะงานของเขายุ่งมากทั้งมาเฟียฝ่ายตรงข้ามก็ค่อยจ้องอยู่ ทั้งลูกสาวของเขาก็อยู่บ้านคนเดียว แต่ดีที่บอดี้การ์ดที่ไว้ใจได้ดูแลแต่เขาไม่อยากปล่อยไว้นาน
" กูรีบมึงก็รู้ สรุปจะให้กูไหม?" คอนส์ถามอีกรอบ มาตินปลายตามมองเมียสุดที่รักที่น้ำตาคลอเบ้า แล้วถอนหายใจเบา เขาหันไปมองแกรนิคพร้อมขบกรามแน่น
" ตาแกร แด๊ดจะให้เราไปดูแลช่วยงานกับเพื่อนแด๊ด เราจะว่าอย่างไร?" มาตินหันหน้าไปถามแกรนิคน้ำเสียงนิ่ง แกรนิคนิ่งไปแป๊บหนึ่ง เเต่ก็ยิ้มออกมาที่ปาก เขารู้จักคนตรงหน้าดี คอนส์คือมาเฟียใหญ่มีธุรกิจทั้งขาวและดำที่สวีเดน มีลูกสาวคนหนึ่งชื่อกลาส เขาเคยเจอเธอครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน
" นายใหญ่ว่าอย่างไร ผมก็ว่าอย่างไงแหละครับ" แกรนิคตอบออกมา เขาแล้วแต่ผู้มีพระคุณอยู่แล้วคนอย่างเขา ทำได้ทุกอย่างที่ผู้มีพระคุณอยากให้ทำ ให้เขาไปตายเขาก็ไป มาตินถอนหายใจเบาๆ ลินลุกขึ้นเดินไปหาแกรนิค ที่นั่งอยู่ โซฟาตัวสุดท้ายพร้อมนั่งลงข้างๆ น้ำตายังคลอเบ้าตลอดเวลามือของเธอจับที่ไหล่กว้างของแกรนิค เขาหันมามองหน้ามัมลินพร้อมยิ้มให้ที่มุมปาก
" ปฏิเสธเป็นไหม ไอ้ลูกคนนี้" มัมลินพูดออกมาพลางกลั้นเสียงสั่นเทาไว้ น้ำตาอาบแก้มของเธอทันที แกรนิคถึงกับเงียบพูดอะไรไม่ออก เขารู้สึกเจ็บทุกครั้งที่มัมลินร้องไห้ เเกรนิคยกยิ้มให้ที่มุมปากพร้อมยกมือหนาขึ้นมาจับมือของมัมลินมาจับและลูบเบาๆ
" งั้นไปเก็บกระเป๋า แกตามลุงดอนส์ไปวันนี้เลย " มาตินพูดออกมาเสียงเข้ม คอนส์ยกยิ้มออกมาอย่างดี พร้อมหันมามองหน้าแกรนิค แกรนิคหันไปมองหน้ามาตินแล้วพยักหน้ารับ พร้อมลุกขึ้นจากโซฟาเต็มความสูง 185 ซน. มัมลินหันไปมองสามีแล้วส่ายหน้าเบาๆ มาตินถอนหายใจออกมา พร้อมหันหน้าไปมองเพื่อนที่ยิ้มดีใจอยู่
" ครัมผม " แกรนิคพูดออกมาเสียงนิ่ง พร้อมก้าวออกไปได้สองก้าวต้องชะงัก เพราะมัมลินกอดเอวแกรนิคมาทางด้านหลัง เพื่อรั้งเอาไว้น้ำตาไหลอาบแก้มไม่หยุด
" ไม่ให้ไป มัมไม่ให้แกรไปเด็ดขาด " มัมลินพูดออกมา มาตินลุกจากโซฟาพร้อมเดินตรงมาหาเมียสุดที่รักแล้วแกะมือออกจากเอวแกรนิค มัมลินมองตามหลังแกรนิคทันที แกรนิคเดินออกจากห้องรับแขกไปทเพื่อเดินไปเก็บของที่บ้านหลังเล็ก ทุกคนในห้องรับแขกต่างเงียบไม่พูดอะไร นอกจากเสียงของมัมลินที่ร้องไห้ในอ้อมกอดของสามีอยู่
สักพักแกรนิคเดินถือกระเป๋าเดินทางใบเล็กมา มัมลินยิ่งปล่อยโฮหนักกว่าเดิม
" คิดถึงก็ไปหาลูกได้" มาตินพูดปล่อยใจเมียที่เราแต่ร้องไห้ในอ้อมกอด
" ลินเกลียดคุณ ไม่ต้องมานอนห้องกับลินเลยนะ" มัมลินกลั้นใจพูดออกมา มาตินอ้าปากค้าง ทุกคนต่างกลั้นหัวเราะเอาไว้ แกรนิคยกยิ้มออกมา คอนส์ลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเดินตรงมาที่แกรนิค เขายิ้มให้แกรนิคอย่างเป็นมิตร เขาถูกชะตากับแกรนิคมานานแล้วและดีใจมากตอนนีิ้ที่ได้ตัวแกรนิคไปช่วยงานแต่งหรือในอนาคตจะเป็นมากกว่าอย่างอื่นเขาก็ยอมรับได้
" ขอบใจนะมาติน ไปเถอะเครื่องพร้อมแล้ว" คอนส์หันไปหามาตินที่กอดรั้งเอวเมียสุดที่รัดเอาไว้อยู่พร้อมปลายตามองแกรนิคเพื่อบอกให้เดินตามเขาออกไป แกรนิคกวาดสายตาไปมองทุกคนที่นั่งในห้องรับแขกพลางยกยิ้มให้ที่มุมปาก มาตินอัส เควิน เวกัสลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเดินตรงเข้ามาหาแกรนิค ทั้งสี่คนกอดคอกันแน่นไม่มีคำพูดใดๆ เพราะพวกเขาไม่เคยต้องขาดใครสักคนไกลมาก่อน นอกจากไปทำธุระส่วนตัวเท่านั้น ทั้งสี่หนุ่มคลายอ้อมกอดออกจากกันพลางยิ้มที่มุมปากให้กันเล็กน้อย มัมลินดันตัวออกจากอ้อมกอดของสามี แล้วเดินเข้ามาหาแกรนิค
" เรียกมัมก่อน ไม่งั้นมัมโกรธไม่คุยอีกเลยไม่ต้องมาหามัมอีก" มัมลินพูดออกมางอนๆ แกรนิคหันไปมองแล้วเดินเข้าไปกอดมัมลินแน่นๆมัมลินยิ่งปล่อยโฮมากกว่าเดิม
" มัมครับ " แกรนิคเรียกมัมลินออกมา เขารู้ว่าผู้หญิงตรงหน้ารักเขาเหมือนลูก เขายิ่งไม่อยากทำให้เสียใจ ไม่อยากให้เสียน้ำตา แกรนิคคลายอ้อมกอดออกพลางเงยหน้ามาสบตากับมัมลิน พร้อมยกยิ้มให้
" ผมไปก่อนนะครับมัม แด๊ด " แกรนิคพูดออกมาน้ำเสียงเศร้า มาตินยกยิ้มให้ มัมลินกำข้อมือแกรนิคแน่น มาตินอัสยื่นมือหนาไปแกะมือของมัมออกพลางกอดมัมแน่นเควินและเวกัสเดินเข้ามากอดมัมไว้เช่นกัน แกรนิคเดินตามคอนส์ออกไปทันที
แกรนิคนั่งอยู่บนเครื่องบินส่วนตัวของมาเฟียใหญ่ ที่นั่งที่กว้างระดับวีไอพี เขานั่งมองออกไปข้างนอกหน้าต่างพลางคิดถึงเรื่องราวมต่างๆกับที่เขาเคยเจอมา
" คุณหมอลูกชายของดิฉันเป็นอย่างไรบ้างคะ?" เสียงมัมลินถามหมอรักษาอาการของแกรนิค มาตินอัส เควิน เวกัส เพราะไปชกมวยเถื่อนแล้วแพ้ ไม่มีเงินจ่ายค่าพนันเพราะมัมลินทหักค่าขนมพวกเขา พวกเขาหาเ้งินด้วยการไปชกมวยเถื่อนสุดท้ายแพ้เลยโดนรุ่มกระทืบเพราะคนในสนามมวยเถื่อนเยอะกว่า พวกเขาบาดเจ็บสาหัสแขนหัก ขาหัก ตามตัวซ้ำ ทั้งสี่คนนอนในห้องเดียวกัน
" มัมครับ " เควินเรียกมัมลินผลักประตูเข้ามา พร้อมแด๊ดมาตินเดินตามหลัง มัมลินรีบเดินเข้าไปหาแกรนิคก่อนเพื่อน เพราะแกรนิคคือคนที่มัมเป็นห่วงที่สุด เพราะลูกๆกับหลาน เป็นตัวต้นเหตุที่ทำให้แกรนิคเจ็บตัว แต่พวกมาตินอัส เควิน เวกัสก็ไม่ได้น้อยใจหรือิจฉาอะไรเพราะพวกเขาคิดว่าแกรนิคคือน้องชายคนสุดท้องในบ้านอยู่แล้วจะมีแค่แกล้งพูดแหย่เล่น
" มัมแล้วพวกผมล่ะ " เสียงมาตินอัสพูดออกมาเสียงแผ่วเบา เพราะขยับตัวไม่ได้ มาตินเอาแต่ส่ายหน้าความห่วงเวอร์ของเมีย มาตินเดิน ไปนั่งโซฟาแล้วกวาดสายตามองลูกๆและหลานตัวดีหนึ่ง เขาส่ายหน้าเบาๆ นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีเรื่องทั้งใน รร. และเรื่องนี้ก็ประจำ จนมาตินคิดว่าเป็นเรื่องปกติไปแล้ว
แกรนิคนั่งคิดพลางอมยิ้มคนเดียว จนคอนส์ที่นั่งเก้าอี้ข้างๆเหลือบมองเห็น เขาเคยคุยกันกับมาตินเพื่อนรักมานานแล้วว่าอยากได้แกรนิคมาทำงานด้วยและจะยกลูกสาวให้แกรนิคด้วย แต่มาตินของเวลาเพราะภรรยานั้นรักแกรนิคมากกว่าใคร จนเวลาล่วงเลยมานาน เขาก็เริ่มแก่มา เลยอยากได้แกรนิคมาช่วยดูแลต่อทั้งลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนที่มีผู้ชายมาจีบไม่เว้นแต่ละวัน จนเขาเบื่อหน่าย เพราะพวกที่เดินเข้ามาคือพวกหวังผลประโยชน์จากเขาทั้งนั้น
" มีแฟนหรือยังล่ะแกรนิค ?" คอนส์ถามออกมาเพราะถ้ามีปัญหาใหญ่ต้องตามมาแน่นๆเลย แต่เท่าที่รู้มาตินบอกคือแกรนิคโสด และนั้นก็พอดีกับลูกสาวท่าน แกรนิคหันหน้ามามองพลางถอนหายใจเบาๆ
" ยังครับนายใหญ่ ผมคงอยู่เป็นโสดครับ" แกรนิคบอกกับคอนส์ เขายกยิ้มออกมา
" อย่าเรียกนายยงนายใหญ่เลย เรียกแด๊ดเหมือนที่เรียกมาตินเถอะ " คอนส์บอกกับแกรนิค เขาพยักหน้ารับ
" ครับ" แกรนิคตอบรับ แล้วสองหนุ่มต่างวัยก็ชวนกันคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน จนเมื่อยล้าและได้พักสายตาเพราะต้องใช้เวลานานในการเดินทางไปสวีเดน