เจคอบ | EP.5 บุคคลอันตราย

1702 คำ
เจคอบ | EP.5 —————————— หมับ!! กลิ่นแอลกอฮอล์จากคนตรงข้ามตีขึ้นจมูกจนรู้สึกเวียนหัวในเวลาไม่กี่วินาที เมื่อเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของมือที่กำลังจับแขนตัวเองอยู่ก็ถึงกับผงะก้าวถอยหลัง ก่อนที่ความเจ็บตรงข้มือจะมีเพิ่มมากขึ้นเพราะคนตรงข้ามออกแรงกำแน่นมากกว่าเดิม ท่าทางและสายตาของคนที่เธอไม่คิดว่าเขาจะมีสภาพเป็นแบบนี้ได้ เพราะเขานั้นเป็นที่รู้จักในพื้นที่คนแถวนี้และวางตัวดีมาตลอด ดัสติน... เจ้าของริเวอร์เรสรีสอร์ตที่ภาพลักษณ์เหมือนคุณชาย เป็นสุภาพบุรุษช่างแตกต่างจากที่เธอหันตรงหน้า “คุณดัส ติน... มะ มีอะไรหรือเปล่าคะ” เอ่ยถามอย่างกลัวๆ เพราะสายตาที่กำลังมองเธอนั้นยากที่จะคิดว่าเขามาดี แขนเล็กพยายามขืนออกจากการเกาะกุม “ลินด์... อยู่ไหน” กดเสียงต่ำเอ่ยถาม สายตาจดจ้องเอาคำตอบ ทันทีที่รู้ว่าลินด์ลาออก ทันทีที่รู้ว่าผู้หญิงที่หมายตาเอาไว้หายตัวไปเขาก็พยายามตามหามาตลอดสัปดาห์ แต่ไม่พบอะไรเลย ให้เพื่อนที่มีเส้นสายช่วยตามหาว่าลินด์อาจจะไปสมัครที่อื่นแต่ก็ไม่พบ ถามแมทธิวก็เพิ่งรู้ข่าวทีหลังเขาไม่นาน เขาร้อนใจมากจนเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ ทำให้ภาพลักษณ์การวางตัวดีของเขานั้นผิดไป เพราะลินด์ เพราะผู้หญิงคนนั้นทำให้เขาเป็นแบบนี้... จากที่คิดว่ารอแล้วมันจะดี แต่แล้วทำไมเป็นแบบนี้ไปได้ ถ้าเขาคิดรวบหัวรวบหางตั้งแต่แรกตัวเองคงไม่อยู่ในสภาพนี้แน่ๆ “คนสวย ออกมาคุยกันดีๆ หน่อย” ดัสตินกวาดสายตาชั่วๆ ออกมาอย่างเปิดเผย มองไปรอบๆ ร้านที่มีเด็กมัธยมนั่งอยู่ ซัมเมอร์ไม่รู้ว่าเขาคิดจะทำอะไรต่อ แต่ที่แน่ใจตอนนี้คือไม่ดีแน่ๆ หากไม่ทำตามที่เขาบอก หญิงสาวพยักหน้าระรัวดัสตินจึงปล่อยมือ เธอเลยรีบออกมาจากเคาน์เตอร์คิดเงินเพื่อมาคุยกับเขาทันที ร่างเล็กตัวสั่นมองคนตรงหน้าอย่างหวาดกลัว ก่อนหันไปก้มโค้งขอโทษลูกค้าที่กำลังงุนงงกับสถานการณ์ตรงหน้า “บอกว่ามาลินด์อยู่ไหน...” เอ่ยลากเสียงช้าๆ ด้วยสายตาที่พร้อมจะคาดคั้นเอาคำตอบให้ได้ “พี่ลินด์... ทำไมคะ” ถามอย่างกล้าๆ กลัวๆ ปนสงสัยเล็กน้อยที่เจ้าของรีสอร์ตอย่างเขามาถามหาอดีตพนักงานอย่างพี่สาวเธอ และยังมาถามด้วยสภาพเละเทะแบบนี้ด้วย “ตอบมา!” “ฮึก!” ร่างอรชรสะดุ้งตกใจเมื่อคนตรงข้ามตะคอกใส่เสียงดัง อารมณ์ที่รุนแรงขึ้นของดัสตินทำให้ลูกค้าในร้านต่างตกใจและหวาดกลัวมากขึ้น บางคนเดินออกไปนอกร้าน บางคนยังนั่งอยู่ที่เดิมเพื่อรอฟัง “มะ ไม่รู้ค่ะ พี่ลินด์ไม่เคยติดต่อกลับมา” ถึงจะติดต่อกลับมาเธอก็ไม่มีทางบอกเด็ดขาด เพราะดูท่าทางแล้วคุณดัสตินไม่ประสงค์ดีกับพี่ลินด์แน่ๆ “โกหก!!” ดัสตินตะคอกเสียงดังกว่าเดิม หนำซ้ำยังจับต้นแขนทั้งสองข้างของหญิงสาวอย่างแรงจนเจ็บร้าวไปถึงกระดูก ซัมเมอร์เม้มริมฝีปากหลับตาปี๋ข่มความเจ็บที่ต้นแขนเอาไว้ เธอกลัวจนสั่น น้ำตาเริ่มเอ่อไหลล้นขอบตาแม้เธอกำลังหลับตาอยู่ก็ตาม “โถ่โว๊ย!!” ดัสตินตะโกนเสียงดังด้วยความหงุดหงิด ผลักหญิงสาวอย่างแรงจนร่างเล็กกระเด็นไปไกลหลายก้าว ปึก! “โอ๊ย!” แผ่นหลังเล็กกระแทกขอบโต๊ะอย่างแรงจนรู้สึกร้าวระบม น้ำตาเม็ดใสไหลรินอาบแก้มด้วยความสั่นกลัว ในจังหวะนั้นลูกค้าเริ่มลุกออกไปนอกร้านจนหมดไม่เหลือแม้แต่คนเดียว ดวงตาสวยมองชายหนุ่มที่กำลังโมโหจ้องมองมาที่เธออย่างโกรธเคือง “อื้อ!” มือใหญ่ของดัสตินบีบที่แก้มนุ่ม แต่เธอรู้สึกเจ็บร้าวไปทั่วใบหน้า “ถ้าไม่บอก ฉันจะพังร้านเธอให้เละเลย บอกมา!” ตะคอกใส่พร้อมสะบัดมือปล่อยจากใบหน้าสวย พลัก! ตุบ! ผลักหน้าคอมพิวเตอร์ตรงเคาน์เตอร์ลงพื้นแล้วกระทืบซ้ำเป็นการขู่ “หยุดนะ ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าพี่ลินด์อยู่ไหน” เอ่ยบอกเสียงสั่น “เหรอ...” มองด้วยสายตาเยือกเย็นแล้วถีบโต๊ะถีบเข้าอี้จนล้มระเนระนาศพังไปหมด ตุบ! ตุบ! หญิงสาวใช้จังหวะที่ดัสตินเผลอเตรียมวิ่งออกไปนอกร้าน ร่างเล็กตัวสั่นกลัวจนแทบก้าวขาไม่ออก แต่ยังไม่พ้นประตูหน้าร้านเธอก็ถูกดัสตินกระชากกลับเข้าไปจนล้มพับลงกับพื้น ฟุ่บ! “โอ๊ย!” “มึงจะหนีไปไหนคนสวย” ตามไปคร่อมหญิงสาวกับพื้น ง้างมือเตรียมตบสั่งสอนที่กล้าไม่บอกเขาแล้วยังจะหนีไปโดยที่เขายังไม่ได้รับคำตอบ หมับ! คนที่เข้ามาใหม่จับแขนดัสตินไว้ทันก่อนที่ฝ่ามือจะกระแทกหน้าหญิงสาว สายตาคมมองคนที่กำลังจะทำร้ายเด็กของเขาด้วยความไม่พอใจ ยกเท้าถีบดัสตินออกจากร่างเล็กอย่างเร็ว ซัมเมอร์มองคนที่เข้ามาช่วยเธอไว้ด้วยหัวใจเต้นแรงไม่เป็นส่ำแทบระเบิดออกมา เธอสบตากับเขาครู่หนึ่งรับรู้ถึงความไม่พอใจของเขาผ่านทางสายตา ก่อนที่ดวงตาคู่นั้นจะหันไปสนใจอีกคนที่นอนกองอยู่บนพื้นโดยไม่ทันตั้งตัว หญิงสาวคลานหลบออกห่างจากตรงนั้นไปหลบมุมโต๊ะ พลางเอามือกุมหน้าอก กุมหัวใจที่กำลังเต้นแรงขณะมองชายหนุ่มสองคนกับลังต่อสู้กัน แต่เหมือนจะมีคนหนึ่งที่เสียเปรียบมากกว่า ตุบ เพล้ง! ดัสตินถูกถีบหน้าอกตอนเผลอจนเซไปชนชั้นวางแก้ว แก้วคริสตัลบนชั้นหล่นแตกกระจายบนพื้นรวมถึงร่างดัสตินด้วย เขาตะเกียกตะกายลุกขึ้น มองลูกน้องคนสนิทของหุ้นส่วนใหญ่ของรีสอร์ตด้วยความโกรธที่กล้าทำร้ายเขา และกล้ามายุ่งกับเรื่องของเขา “มึง ไอ้เจคอบ นายมึงเอา อัก!” ถูกหมัดหนักกระแทกปากเป็นครั้งที่ห้าก่อนจะพูดจบประโยค ดัสตินร่วงกับพื้นอีกครั้งโดนเศษแก้วบาดตามตัวจนเลือดไหล เจคอบล้วงผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าเสื้อตนเองออกมาเช็ดเลือดเต็มหลังมือออกตนเอง มองดัสตินด้วยท่าทางกวนๆ ยกยิ้มท้าทายก่อนขว้างผ้าเช็ดหน้าเปื้อนเลือดใส่หน้าดัสติน ก่อนกระหน่ำหมัด ทั้งถีบทั้งเตะจนดัสตินตัวงอ เจ็บระบมไปทั้งตัว เขาอยากจะกระทืบให้ตายคาตีนซะตรงนี้ที่กล้ามาคร่อมเด็กของเขา ถ้าเขาไม่ตัดสินใจแวะมาดูก่อนกลับลอนดอนซัมเมอร์คงโดนได้เวรนี่ทำร้ายไม่ก็ข่มขืนตามสันดาน “นับหนึ่งถึงสาม ถ้ามึงไม่ออกไปมึงได้ตายคาตีนกูแน่” “มึงกล้าดียังไงมาพูดกับกูแบบนี้วะ! นายมึงต้องรับผิดชอบ ราม! อึก!!” หัวเข่ากระแทกคางอย่างจังก่อนจะพูดจบทำให้ดัสตินหงายหลังล้มตึง นอนหายใจรวยรินแทบหมดแรง “ไสหัวไป!” เสียงเข้มของเจคอบตวาดดังลั่นจนหญิงสาวที่นั่งหลบมุมอยู่ถึงกับสะดุ้งตกใจตาม ในตอนนั้นเองลูกน้องดัสตินรีบวิ่งเข้ามาปกป้องเจ้านาย ชายชุดดำสองคนนั้นเตรียมตั้งท่าจะต่อสู้เอาคืนคนที่ทำร้ายเจ้านาย แต่เมื่อได้เห็นหน้าชัดๆ แล้วกลับรีบช่วยกันพยุงตัวเจ้านายออกไปอย่างไว เจคอบมองตามพวกนั้นออกไปจนพ้นหน้าร้าน เขาหยิบกระดาษทิชชูที่วางอยู่ใกล้ขอบโต๊ะมาเช็ดเลือดที่มือก่อนถอดเสื้อสูทออกแล้วคลายเนกไทระบายความอึดอัด มือใหญ่ปลดกระดุมเสื้อตรงข้อมือทั้งสองข้างพับขึ้นจนถึงข้อศอกขณะเดินไปหาหญิงสาวที่ยังนั่งหลบอยู่ในซอกในมุมโต๊ะ ยื่นมือให้คนตัวเล็กจับและพยุงตัวเองขึ้นมา “ออกมาได้แล้ว” เอ่ยเสียงเรียบ ไม่ดุดันเหมือนที่เจอกันคราวก่อน เธอสบตากับเขาครู่หนึ่งก่อนเม้มริมฝีปากราวกับกำลังคิดกำลังตัดสินใจ ก่อนจะจับมือที่ยื่นรอตรงหน้าและพยุงตัวเองลุกขึ้น คนตัวเล็กตัวสั่นไม่หายและเจ็บร้าวระบมแทบทั้งตัวจึงทำให้พยุงตัวไม่อยู่ โชคดีที่อีกคนรวบกอดรับไว้อย่างเร็วและช้อนอุ้มขึ้น เธอนิ่งเงียบขณะโดนอีกคนอุ้ม ในหัวกำลังคิดและปักใจเชื่อในสิ่งที่เขาเคยบกไว้คืนนั้นคือความจริง ดวงตาสวยเหลือบใบหน้าหล่อเหลามีรอยฟกช้ำบางจุดอย่างลืมตัว “มองแบบนี้นานๆ ฉันจับจูบจริงๆ นะ” วางคนตัวเล็กบนโซฟานุ่มที่เสียหายน้อยที่สุดในร้าน มองดวงตาคู่สวยและใบหน้าหวานเปื้อนน้ำตาเช่นเดียวกับที่เธอมองเขาเมื่อครู่ “เจ็บตรงไหน” เอ่ยถามต่อเมื่อคนตัวเล็กเหมือนยังมีความตกใจอยู่ เธอนิ่งและทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ตลอดเวลา “คุณ... เจ็บตรงไหนหรือเปล่าคะ” ถามกลับเมื่อรวบรวมสติมาได้นิดหน่อย “กล่องยาอยู่ไหน” “เดี๋ยวฉันไปหยิบให้ค่ะ” เหมือนหลุดจากภวังค์ รีบลุกลี้ลุกลนจะไปหยิบกล่องยามาทำแผลให้เขา เธอทั้งสั่นทั้งตื่นเต้นและใจเต้นแรงมากกว่าตอนที่เจอดัสตินเมื่อครู่ซะอีก ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน... หมับ! ข้อมือเล็กถูกจับไว้และถูกดึงให้นั่งลงเช่นเดิม “นั่งรอตรงนี้” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นขณะลุกขึ้นเดินไปหยิบกล่องยาที่อยู่บนชั้นวางใกล้บันได เด็กดื้อที่ตัวเองก็เจ็บยังจะลุกเดินนั่นนี่อีก... “ฉันทำแผลให้นะคะ” เปิดกล่องยาแล้วหยิบอุปกรณ์อย่างคล่องมือ เจคอบมองนิ่งๆ ก่อนยกยิ้มมุมปากและปล่อยให้เธอทำแผลที่โหนกแก้มซ้ายให้ “หันหลัง ฉันจะทำแผลให้เธอบ้าง”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม