CHAPTER 2 : สะใภ้วรโชติเมธา

899 คำ
ใบแจ้งหนี้หลายฉบับที่กองอยู่บนโต๊ะทำงาน ทำเอาอิงจันทร์ถึงกับลอบถอนหายใจอย่างอ่อนแรง มือไม้เหน็บชาจนแทบไม่มีแรงหยิบมันขึ้นมาเปิดอ่าน ได้แต่ปล่อยให้กองทับถมอยู่อย่างนั้น หญิงสาวทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ทำงาน ขยับสายตามองโมเดลตึกใหม่ของควินซีกรุ๊ปด้วยสีหน้าหมดอาลัยตายอยาก ความฝันที่อยากจะก่อตั้งตึกใหม่สลายไปในพริบตา เมื่อเงินลงทุนถูกผู้เป็นพ่อบังเกิดเกล้าถลุงไปจนหมด “ฉันมีผู้หญิงที่ฉันอยากแต่งงานด้วยแล้ว” คำพูดของเอกชยินทร์แวบเข้ามาในห้วงภวังค์ความคิด อิงจันทร์แค่นหัวเราะในลำคอ พลางกัดริมฝีปากคล้ายว่าไม่สบอารมณ์อย่างบอกไม่ถูก กล้าพูดคำนั้นต่อหน้าผู้หญิงที่เคยชอบเขาได้ยังไงกัน.. ครั้นเมื่อเยาว์วัยอิงจันทร์เคยเผลอปันใจให้พี่ชายข้างบ้านอย่างเขา ทว่าเอกชยินทร์ดันมือบอนหยิบไดอารี่เธอไปเปิดอ่าน นั่นเลยเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทั้งสองคนเริ่มมีทีท่าห่างเหินกัน โตขึ้นอิงอยากแต่งงานกับพี่เอก.. ข้อความแสนสั้นถูกเขียนกำกับไว้ด้านล่างของกระดาษ หลังจากพรรณนาโวหารเพ้อฝันเต็มหน้ากระดาษตามประสาเด็กวัยสิบห้าปี เอกชยินทร์ในวัยสิบเจ็ดปีอ่านข้อความที่เธอเขียนออกเสียง จนนพเก้าพี่ชายเขาเข้ามาได้ยิน ก่อนคนที่เพิ่งรู้ตัวว่าถูกอิงจันทร์เขียนสารภาพรัก จะโยนไดอารี่ในมือทิ้งโดยไม่พูดอะไรสักคำ เป็นการปฏิเสธด้วยท่าทางและสีหน้าที่ชัดเจน จนเธอไม่อยากได้ยินคำตอบเลย ถึงเอกชยินทร์จะไม่หยิบยกเรื่องนี้มาพูดอีกตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แต่อิงจันทร์ยังรู้สึกกระดากอายทุกครั้งที่ต้องเจอหน้าเขาอยู่ดี “ใครอยากจะแต่งงานกับพี่กัน เหอะ” หญิงสาวแสยะยิ้มมุมปาก พลางบึนปากอย่างแง่งอน อิงจันทร์รู้ดีว่าเอกชยินทร์ขีดเส้นแบ่งสถานะให้เธอเป็นแค่คนรู้จัก แต่การที่มารับเธอถึงบริษัทเพื่อตอกหน้าด้วยการบอกว่าจะแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น มันทำให้หัวเสียยังไงไม่รู้.. ถ้าหากไม่เกิดเรื่องการคลุมถุงชนขึ้น อิงจันทร์ก็คงไม่มีโอกาสได้เห็นพ่อหนุ่มคลั่งรัก เพราะขนาดเธอบินกลับมาเดือนกว่ายังแทบไม่เคยได้เจอหน้าเขาด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะตอนนี้หรือตอนไหนอิงจันทร์ก็ยังเป็นคนนอกสายตาของเขาเสมอ.. หลังจากนั่งตกตะกอนความคิดเรื่องการแต่งงานอยู่ครู่หนึ่ง อิงจันทร์ก็หยิบมือถือกดโทรหาท่านพิทักษ์ทันที รอสายอยู่สักพักก็ได้ยินเสียงสัญญาณกดรับพอดี “ตกลงพ่อหาเงินที่เอาของอิงไปได้หรือยัง” น้ำเสียงเย็นเยียบเอ่ยขึ้น สีหน้าสะกดกลั้นอารมณ์เมื่อต้องพูดถึงเงินลงทุน ที่ผู้เป็นพ่อแอบโอนออกไปใช้จ่ายส่วนตัว ทั้งพนันและเรื่องผู้หญิงจนเกลี้ยงบัญชี.. (ทำไมอิงไม่ให้เวลาพ่อหน่อย พ่อพยายามหาอยู่ นี่ก็ขายทรัพย์สินทั้งหมดแล้ว) “แล้วทำไมพ่อถึงกล้าใช้น้ำเสียงเหมือนอิงทำผิด ทั้งที่เงินนั้นพ่อไม่ควรเอามันไปตั้งแต่แรก” ปลายสายเงียบไปคล้ายว่าไร้คำแก้ตัว แทนที่จะสำนึกผิดและไหวตัวได้เร็ว ว่าการพนันมีแต่จะทำให้สูญเสีย กลับหอบหิ้วของมีค่าในบ้านไปขาย จนทุกอย่างละลายไปกับบ่อนพนันหมดสิ้น อธิพัชร์เมธีสิ้นเนื้อประดาตัวเพราะความไม่รู้จักพอของคน.. (พ่อจะรีบหามาคืนให้นะอิง พ่อสัญญา..) “อิงให้ไม่เกินสองอาทิตย์ ร้อยยี่สิบล้านที่เอาไป อิงต้องได้คืน” สิ้นประโยคเชิงข่มขู่ อิงจันทร์ก็กดตัดสายโดยไม่รอให้ท่านพิทักษ์อธิบายตัวเอง เพราะเธอให้เวลามามากพอแล้ว อิงจันทร์ยกมือขึ้นลูบหน้าลูบตา รู้สึกวิงเวียนศีรษะเหมือนจะเป็นลม จนต้องรีบย้ายตัวเองไปนอนที่โซฟา พลางซุกใบหน้าลงบนท่อนแขนแล้วร้องไห้เงียบๆ คนเดียว ยังมองไม่เห็นอนาคตที่จะได้เงินร้อยยี่สิบล้านคืนเลย.. “อ่า เงินฉัน.. เงินลงทุนฉัน” อิงจันทร์นอนร่ำไห้จนเผลอผล็อยหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย ท่ามกลางความรู้สึกอ้างว้างและโดดเดี่ยว จนตอนนี้ยังไม่กล้าสู้หน้าผู้เป็นมารดาที่กำลังล้มป่วย กลัวว่าจะอ่อนแอให้แม่ของเธอได้เห็น ต่อให้ต้องเสแสร้งแกล้งทำเหมือนเข้มแข็ง อิงจันทร์ก็เต็มใจหากมันจะสามารถพาเธอก้าวข้ามไปวันพรุ่งนี้ได้ ต่อให้หลบหนีจากความจริงเป็นก็ยอม.. “ลุงจะช่วยในส่วนของเงินลงทุนตามที่หนูอิงต้องการ.. แต่มีข้อแม้แค่อย่างเดียว” “หนูอิงต้องเข้ามาเป็นสะใภ้ของวรโชติเมธาเท่านั้น” วรโชติเมธาตระกูลยักษ์ใหญ่เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ที่ร่ำรวยติดอันดับต้นๆ มีทายาทสืบสกุลถึงสองคน ทั้งการศึกษา หน้าตา ฐานะเพียบพร้อมไปหมดทุกอย่าง ติดอยู่อย่างเดียวตรงที่ลูกชายคนโตของบ้านออกเหย้าออกเรือนไปแล้ว ตัวเลือกที่เหลืออยู่จึงเป็นหนทางเดียวที่เธอไม่อาจเลี่ยง เพราะงั้นคนที่ท่านไตรภูมิอยากให้อิงจันทร์แต่งงานด้วยก็คือ.. เอกชยินทร์
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม