5
ยูสุเกะเซไปทางด้านหลังสองสามก้าว ลำขายืนแทบไม่อยู่มันอ่อนล้าไร้เรี่ยวแรง ลูกน้องที่อยู่ด้านหลังต้องถลาเข้ามาประคอง หัวใจของยูสุเกะรู้สึกโหวงเหวงคล้ายกับว่าหัวใจที่ฝังอยู่ในร่างกายมันเหือดหายไปครึ่งดวง ที่เหลืออยู่จึงไม่สามารถที่จะทำให้ร่างกายยืนหยัดต่อไปได้ น้ำตาไหลออกมาด้วยความเสียใจ การสูญเสียภรรยาสุดที่รักซึ่งจากไปโดยไม่ทันร่ำลามันทำให้เขาเจ็บปวดเป็นอย่างมาก แล้วยิ่งรู้ว่านางจากไปเพราะการลอบสังหาร เขายิ่งเจ็บเป็นร้อยเท่าที่ไม่สามารถอยู่ปกป้องชีวิตของนางได้
เรียวมีสีหน้าบ่งบอกถึงความเสียใจ โศกเศร้ากับการจากไปของมารดา เบ้าตามีน้ำใสๆ เอ่อคลอจวนเจียนจะไหล ทว่าดวงตาคู่นั้นกลับแข็งกร้าว เดือดดาลจนน่ากลัว บ่งบอกถึงความแค้นเคืองสุดประมาณ มือทั้งสองข้างกำเข้าหากันแน่น แน่นจนลำแขนหนาสั่นตามไปด้วย เส้นเลือดสีเขียวนูนขึ้นมาไล่ตั้งแต่ข้อมือจนกระทั่งถึงลำคอ ไม่เว้นแม้แต่กรามทั้งสองข้างที่ถูกเจ้าของขบกันแน่น บังเกิดเส้นเลือดนูนขึ้นมาเช่นกัน อยากจะฆ่ากลุ่มคนชุดดำที่เหยียบเข้ามาแหย่หนวดเสือ ทำร้ายมารดาของเขาถึงชีวิต ชีวิตมันต้องแลกด้วยชีวิตเขาสาบานไว้ในใจ
“พวกมันเป็นใครคุณทางาดะพอจะรู้มั้ยครับ?” เรียวถามขึ้น เสียงเข้มห้วน ดวงตาเคืองขุ่น
“ไม่ทราบครับ ผมว่าจะไปดูหน่อยครับเผื่อว่าจะมีหลักฐานหลงเหลืออยู่บ้าง เราจะได้แกะรอยมันถูก”
“ผมไปด้วย ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่ามันเป็นใคร จะได้จัดการฆ่ามันถูก” ท่าทางของผู้พูดนั้นจริงจังและพร้อมจะทำตามที่พูดทุกอย่าง มันต้องตายอย่างทรมาน ตายเหมือนไฟแผดเผาให้เหมือนกับร่างของมารดาที่อยู่ในกองเพลิง
“ไม่ต้อง เรียวคุงต้องอยู่ที่นี่ เดี๋ยวพ่อไปเอง ลูกคอยดูแลที่นี่ให้ดีก็แล้วกัน เสร็จงานแล้วค่อยตามไป”
“แต่คุณพ่อครับ ผมคิดว่า...” เขาไม่มีกะจิตกะใจจะอยู่ในงานนี้ต่อไปแล้ว มารดาของเขาเสียชีวิตทั้งคนจะให้เขาทำใจให้สบายแล้วอยู่ดูแลแขกเหรื่อได้ยังไง เขาทำไม่ได้
“เรียวคุงต้องอยู่ที่นี่ คอยดูแลท่านนายกจนกว่าท่านจะกลับแล้วจากนั้นค่อยตามพ่อไป เราต้องแยกแยะระหว่างเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว พ่อรับรองเราต้องแก้แค้นคนที่ฆ่าแม่อย่างแน่นอน แต่ตอนนี้หน้าที่ของเรียวคืออยู่ที่นี่ ส่วนพ่อจะไปจัดการเรื่องทางโน้นเอง”
ยูสุเกะสอนเรื่องนี้ให้กับลูกชายมาตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก การที่จะมายืนอยู่ในจุดนี้ได้ต้องมีความอดทนและแยกแยะเรื่องส่วนตัวกับเรื่องงาน เพราะถ้านำมารวมกันเมื่อไหร่จะไม่สามารถทำทั้งสองเรื่องไปพร้อมๆ กันได้ เขาจะไปจัดการเรื่องส่วนตัวเอง ส่วนลูกชายให้จัดการเรื่องงาน
“ครับคุณพ่อ” ยูสุเกะเดินออกไปจากห้องจัดเลี้ยงทันที โดยมีทางาดะกับลูกน้องจำนวนหนึ่งเดินตามออกไปด้วย ทำให้ลูกน้องที่เหลืออยู่ในห้องจัดเลี้ยงมีเพียงสิบคนเท่านั้น
“ปิ่นเสียใจด้วยนะคะพี่เรียว ฮือ ปิ่นจะอยู่กับพี่เรียวเองค่ะ” สุชาลินียืนฟังเรื่องราวอยู่นาน น้ำตาของเธอนั้นหลั่งรินออกมาตั้งแต่ได้ยินว่ามายุมิเสียชีวิต หญิงสาวมีความเคารพรักมารดาของชายหนุ่มเป็นอย่างมาก ราวกับว่าเป็นมารดาของตัวเองก็ว่าได้ การจากไปของท่านสร้างความเสียใจให้กับเธอเช่นกัน รวมทั้งทุกๆ คนด้วย ลำแขนเรียวเล็กโอบกอดร่างใหญ่ของคนรักเอาไว้แน่น ซบใบหน้ากับแผงอกที่แข็งแรง หลั่งรินน้ำตาออกมาเป็นสาย
“ขอบใจมากปิ่น ขอบใจมากที่อยู่ข้างพี่” เขาจูบที่ขมับของสาวคนรักเบาๆ หยดน้ำตาที่กระทบกับผิวแก้มของเธอนั้น บอกให้หญิงสาวรู้ว่าเขากำลังร้องไห้ มารดาจากไปทั้งคนไม่เสียใจ ไม่ร้องไห้ก็ถือว่าแปลก
“อย่าร้องค่ะพี่เรียว อย่าร้องไห้ให้ใครเห็นนะคะ ตอนนี้เราอยู่ในงาน ทุกคนกำลังมองความสำเร็จของพี่เรียวอยู่ อดทนไว้นะคะพี่เรียว อดทนไว้ก่อนนะคะ พอถึงบ้านเราจะร้องไห้ด้วยกัน เสียใจด้วยกัน ทุกข์ด้วยกัน มันอาจจะยากในสิ่งที่ปิ่นพูด มันยากที่ลูกจะไม่ร้องไห้เมื่อแม่จากไปอยู่อีกโลกหนึ่ง คิดอีกแง่นะคะ บางทีคุณแม่อาจจะยืนมองดูความสำเร็จของพี่เรียวอยู่ก็ได้ พี่เรียวต้องเข้มแข็ง อดทนก่อนนะคะ อดทนไว้นะคะพี่เรียว”
หญิงสาวพยายามปลุกปลอบเรียวคนรักหนุ่ม รู้ดีว่ามันยากยิ่งที่ จะทำ ทว่าเขาต้องทำให้ได้เพื่อตัวของเขาเองและทุกคน เก็บความเสียใจและน้ำตาเอาไว้ภายในใจ ตอนนี้เขายืนอยู่ในหน้าที่ของประธานบริษัท ชายหนุ่มก็ต้องทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด เมื่อหมดหน้าที่นี้แล้วหญิงสาวจะอยู่เคียงข้างเขา ร้องไห้ เสียใจ เจ็บช้ำไปพร้อมกับเขา
เรียวเก็บคำว่าเสียใจเอาไว้ให้ลึกที่สุด ต้อนรับแขกเหรื่อรวมทั้งท่านนายกที่เดินทางมาเป็นประธานเปิดงานอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่มีเค้าแห่งความเสียใจเลย เขาหันมามองหญิงสาวที่ส่งรอยยิ้มบางๆ ให้กับเขาเป็นระยะ ราวกับว่าเธอคนนี้คือกำลังใจที่ดีที่สุดในเวลานี้ที่เขามี โดยมีมือเล็กกุมมือใหญ่ไว้ตลอดเวลาไม่ยอมปล่อย ถ่ายทอดความเห็นใจและเสียใจ แบ่งปันความทุกข์โศกที่มีในใจของเรียว เข้ามาสู่ร่างกายของเธอบ้างให้หัวใจบอบบางดวงนี้มีความรู้สึกนั้นร่วมกัน
“เรียบร้อยมั้ยพี่โคจิ?” ทรรศิกาเอ่ยถามโคจิลูกน้องคนสนิทผ่านเครื่องฟังที่แนบติดไว้ที่หู ระหว่างที่เธอกำลังเดินเข้าไปในลิฟต์
“เรียบร้อยครับคุณหนู ตอนนี้ยูสุเกะกับลูกน้องส่วนหนึ่งเดินทางออกจากโรงแรมเรียบร้อยแล้วครับ ในงานมีแค่เรียว คุณมินามิกับลูกน้องอีกประมาณสิบคนครับ” โคจิรายงานหลังจากที่แฝงตัวเข้ามาอยู่ในงาน เขาเป็นคนรายงานเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นให้กับนักฆ่าสาวเป็นระยะ ตั้งแต่ทางาดะนำข่าวร้ายมาบอกกับเจ้าของงาน ตอนที่ยูสุเกะเดินทางออกไปจากห้องจัดเลี้ยงพร้อมกับลูกน้องจำนวนหนึ่ง แล้วรออย่างใจเย็น รอให้ท่านนายกรัฐมนตรีเดินทางกลับไปเสียก่อน จึงค่อยลงมือเพราะถ้าหากลงมือขณะที่ผู้นำประเทศยังอยู่ในงาน ไม่เพียงจะต่อสู้กับคนของเรียวยังต้องรับมือกับทีมอารักขาของท่านนายกอีกด้วย
“ดี ทำตามแผนได้เลย ทามะโกะจะไปถึงในอีกสองนาที” สัญญาณถูกตัดทิ้งเมื่อการนัดแนะเสร็จสิ้น โคจิทำตามแผนทันทีโดยแผนการแรกจะเกิดขึ้นก่อนที่ทรรศิกากับกลุ่มนักฆ่าจะมาถึงห้องจัดเลี้ยงหนึ่งนาที ทุกอย่างต้องแม่นยำ ไม่เช่นนั้นฝ่ายที่จะเสียเปรียบจะเป็นกลุ่มนักฆ่า โคจิพยักหน้าให้ลูกน้องสาวทำตามแผนที่วางไว้ได้เลย