เสื้อผ้าในตู้ถูกรื้อกระจัดกระจายร่างเล็กๆ พยายามค้นหาชุดที่ถูกใจสักชุดแต่ก็ไม่มีเลย จากตู้เสื้อผ้าก็ย้ายไปที่โต๊ะเครื่องแป้ง ทุกลิ้นชักที่เปิดออก ทุกซอกทุกมุม ไม่มีแม้เงาของเครื่องสำอางสักชิ้นมีเพียงครีมบำรุงผิวสองสามกระปุกกับยางมัดผม
“หาอะไร” อคิราห์ที่เพิ่งเดินออกจากห้องน้ำเอ่ยปากถาม คิ้วหนาขมวดหากันด้วยความสงสัย น้ำหอมไม่ใช่คนที่จะรื้อค้นของกระจัดกระจายแบบนี้ อะไรเก็บไว้ที่ไหนเธอคือคนที่รู้ดีที่สุด
“เครื่องสำอาง นี่มึงคิดว่ากูตายก็เลยเก็บไปทิ้งหมดเลยเหรอ”
“เครื่องสำอาง?” อคิราห์ทวนคำพูดอีกครั้ง
“ก็เออน่ะสิ มีแต่ครีมโง่ๆ เนี่ย”
“หอมไม่แต่งหน้า จะมีเครื่องสำอางได้ยังไง”
“อะไรนะ”
“ก็ปกติหอมแต่งหน้าที่ไหน อีกอย่างหอมก็ไม่ได้ไปไหนด้วย อย่างมากก็ไปตลาดจะแต่งหน้าทำไม”
“กูล่ะไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผัวมึงมีเมียน้อย” น้ำหอมบ่นพึมพำ
“อะไรนะ”
“เปล่า แต่ถึงจะไปตลาดอย่างน้อยรองพื้น เขียนคิ้วทาปากก็ยังดีมั้ย นี่อะไรมีแค่ลิปมันจะบ้ารึไง”
“ถ้าอยากได้พรุ่งนี้ก็ไปซื้อแล้วกัน เดี๋ยวพี่พาไป แล้วเสื้อผ้าทำไมค้นออกมาเละแบบนี้”
“ก็ดูสิ มีแต่เสื้อผ้าเก่าๆ เย็บแล้วเย็บอีก เสื้อขาวเหลืองจนเป็นเสื้อเคยขาวก็ยังเก็บไว้อีก” อคิราห์หันไปมองดูเสื้อผ้าบนเตียงก่อนจะหยิบเสื้อตัวหนึ่งขึ้นมาดู จริงอย่างที่น้ำหอมว่าเสื้อผ้าเก่าจนยับเยินแต่เมียของเขาไม่เคยทิ้งมันเลย ตัวไหนขาดก็เอามาเย็บซ่อมแล้วใส่ต่อ เขาทำไมไม่เคยสังเกต ไม่เคยใส่ใจตรงนี้เลย เงินที่มีก็ตั้งมากมายทำไมถึงได้ละเลยเรื่องนี้ไปได้
“เดี๋ยวพรุ่งนี้เราไปหาซื้อเสื้อผ้ากันนะ”
“เออ มันก็ควรซื้อมั้ย แต่กูจะใส่ชุดไหนไปมีแต่เก่าๆ ไม่เอาด้วยหรอก”
“ใส่ไปก่อนเถอะ พี่ขอโทษที่ไม่เคยสนใจน้ำหอมเลย”
“โอ๊ย!!!” ทันทีที่น้ำหอมเอื้อมมือไปหยิบเสื้อตัวหนึ่งในกองขึ้นมา ภาพความทรงจำก็ฉายขึ้นในหัวเหมือนเมื่อครั้งก่อน เสื้อตัวนี้เป็นเสื้อที่อคิราห์ซื้อให้ น้ำหอมรักและหวงมันมาก ไม่เคยเอาออกมาใส่เลยสักครั้ง เก็บไว้แต่ในตู้มาโดยตลอด
“เป็นอะไรอีก”
“มึงซื้อเสื้อตัวนี้ให้…กูเหรอ” อคิราห์รับเสื้อมาจากมือของเมียแล้วจ้องมองดูจนนึกขึ้นมาได้ว่าครั้งหนึ่งเคยซื้อเสื้อให้เธอจริงๆ แต่นานมากแล้ว
“ใช่ ตอนนั้นน่าจะ….”
“วันเกิดกู”
“ใช่” อคิราห์คิดย้อนกลับไปมันช่างนานเหลือเกิน แต่เสื้อยังคงสภาพดีผิดกับเขาที่ไม่ว่าของขวัญชิ้นไหน ก็ไม่เคยหลงเหลืออยู่เลย
“กูใส่ตัวนี้ก็ได้ สภาพดีที่สุดในกองนี้แล้ว”
“อืม เก็บเสื้อผ้าแล้วก็นอนกันเถอะ”
“ใครเก็บ?” น้ำหอมโวยขึ้นทันทีเมื่อคนที่บอกว่าเป็นผัวทำท่าจะลุกหนี ทิ้งเธอไว้กับกองเสื้อผ้าบนเตียง
“ก็หอมเป็นคนค้นออกมา หอมก็เก็บสิ ปกติหอมก็ทำทุกอย่างในบ้านอยู่แล้วนี่”
“กูเป็นเมียมึง หรือเป็นคนใช้กนแน่วะ กูไม่เก็บ แค่ค้นออกมาก็เหนื่อยแล้ว ไปตามคนใช้มาเก็บสิวะ”
“ตอนนี้เนี่ยนะ”
“ทำไม มึงจะกองไว้แบบนี้แล้วนอนที่พื้นเหรอ?”
“ไม่ใช่ พี่หมายถึงถ้าให้คนมาเก็บตอนนี้คงไม่มีใครมาหรอกมันดึกแล้ว”
“โอ้ย!! เงินเดินที่ให้มันจ้างไม่คุ้ม 24 ชั่วโมงหรอกเหรอ” เมื่อเห็นท่าทางฮึดฮัดอคิราห์กำด้แต่ถอนหายใจ ถ้าเป็นเมื่อก่อน ป่านนี้น้ำหอมคงโดนจบจนล่วงลงไปนอนกองอยู่บนพื้นแล้ว แต่หลังจากที่เขาได้เสียเมียไปสามวัน เขาไม่อยากให้มันเกิดขึ้นอีกเลย ทำให้ต้องพยายามข่มอารมณ์ตัวเองถึงจะโมโหแค่ไหนก็ตาม
“เดี๋ยวพี่เก็บให้ก็ได้” สุดท้ายก็เป็นอคิราห์ที่ต้องมาเก็บเสื้อผ้าบนเตียงที่น้ำหอมเป็นคนค้นออกมา เมื่อเตียงว่างแล้วทั้งคู่ก็ล้มตัวลงนอน เมื่อไฟในห้องปิดลงแขนแกร่งก็เลื้อยไปบนเรือนร่างระหงนานแล้วเหมือนกันที่เขาไม่ได้ทำแบบนั้นกับเมียตัวเอง เหตุผลก็เพราะน้ำหอมไม่เป็นงาน ไม่เร่าร้อนเหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆ ให้ทำอะไรก็ทำไม่ได้พาให้เสียอารมณ์ไปหมด
“อื้อ…” เมื่ออีกฝ่ายเริ่มรุกหนักขึ้นมีหรือคนถูกกระทำจะอดทนต่อสิ่งเร้าได้ไหว แม้จะรู้ตัวเองว่าไม่ใช่น้ำหอมคนที่เป็นเมียของผู้ชายที่กำลังคล่อมอยู่บนร่างของเธอ แต่เจ้าของร่างก็เป็นเมียของเขาจริงๆ เพราะงั้นจึงไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธเลยสักนิด ดีเสียอีกไม่ได้ทำแบบนี้มาตั้งนานแล้ว มือหนาเริ่มจับขยำบนเนินอกขนาดพอดีมือแล้วลงน้ำหนักนวดกลึงอย่างชำนาญ ริมฝีปากอุ่นประกบจูบดูดดื่มบนเรียวปากนุ่มสิ่งที่แปลกใหม่สำหรับอคิราห์คือลิ้นที่สู้ลิ้นของเมียแสนไร้เดียงสาของเขามันเร่าร้อนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
“อื้ม” น้ำหอมถอนจูบจากอคินแล้วเปลี่ยนไปใช้ลิ้นเลียที่ลำคออย่างคนชำนาญทำเอาเสือร้ายถึงกับร้องครางออกมาอย่างไม่รู้ตัว ร่างเล็กพลิกตัวเองให้เป็นคนคุมเกมอคิราห์ได้แต่นอนตัวอ่อนระทวยไปกับลีลาการเล้าโลมของ ลิ้นเล็กๆ ละเลงเลียไปจนถึงขอบกางเกงนอนเมื่อถึงจุดที่เป็นใจความสำคัญของเกมมือเล็กๆ ก็ค่อยๆ ดึงกางเกงออกเผยให้เห็นดาบเล่มงามที่ชูตระง่านล่อตาล่อใจวิญญาณหิวกระหาย
“อ่า….” เมื่อมือน้อยจับนวดที่ลำขนาดใหญ่เจ้าของแก่นกายก็ครวญครางออกมาไม่เป็นท่า
“อื้อ แค่นี้ก็แย่แล้วเหรอ ยังไม่ได้ลองชิมเลย”
“อื้อ พี่ไม่ไหวแล้วหอม”
“อะไรนี่เพิ่งเริ่มเองนะ”
“ก็หอมไม่เคยทำแบบนี้ พี่ตั้งตัวไม่ทัน” ความเร่าร้อนของน้ำหอมมากเกินกว่าที่อคินจะรับไหวเขาต้องพลิกตัวเองขึ้นมาคุมเกม ชุดนอนของน้ำหอมถูกปลดออกเผยให้เห็นสรีระของเธอได้อย่างชัดเจน อคินก้มหน้าลงซดเนินเนื้ออย่างเมามันมือข้างหนึ่งก็ลดลงปลดกางเกงในตัวน้อยที่ดูจะเกะกะตาเสียเหลือเกินออกไปให้มันพ้นๆ เมื่อเร้ากันจนถึงจุดที่ทนไม่ไหวแล้วจึงจัดการลงมือทำอะไรๆ ที่มันควรจะทำ และเมื่อทุกอย่างสิ้นสุดลงความมั่นใจในบางอย่างก็ปรากฏขึ้นในใจของอคิราห์ สิ้นแรงจากบทรักแสนเร่าร้อนทั้งคู่ก็นอนเปลือยคู่กันบนเตียงอย่างไม่มีความเขินอาย
“ถามจริงๆ นะ เรื่องที่บอกว่า ไม่ใช่น้ำหอมน่ะ จริงเหรอ” อคิราห์ตัดสินใจถามขึ้น
“ทำไม พอได้กูแล้วก็เชื่อเลยเหรอทั้งที่กูพยายามจะบอกตั้งหลายรอบ”
“ก็ ปกติน้ำหอมไม่ได้….”
“ไม่ได้อะไร”
“ไม่ได้เก่งเรื่องนี้สักเท่าไหร่”
“ลีลากูสุดยอดไปเลยล่ะสิ”
“ถ้าเอ่อ…ถ้าหอมไม่ใช่หอม แล้วเป็นใคร”
“กูไม่รู้ก่อนหน้านี้รู้แต่จำไม่ได้แล้ว”
“อะไร ไปเช็คสมองมั้ย มันอาจจะมีน้ำเข้าไปขังจนทำให้ระบบความจีปัญหาก็ได้”
“โอ้ย มึงอย่าเพ้อเจ้อได้มั้ย คือกูร็สึกว่าพออยู่ในร่างของอีหอมนานๆ เข้าความทรงจำเรื่องตัวเองมันหายไป แต่ความทรงจำของอีหอมมันเข้ามาแทน”
“ทั้งหมดมันเรื่องจริงเหรอวะ” อคิราห์ได้แต่จ้องมองคนพูดอย่างตั้งใจ เขารู้สึกว่าตัวเองเริ่มจะเชื่อเรื่องที่เมียเขาพยายามบอกแล้ว
“เออ กูไม่ใช่อีหอมเมียมึง อีหอมมันตายไปแล้ว”
“แล้วมึงเป็นใคร มาอยู่ในร่างเมียกูได้ยังไง เอาเมียกูคืนมา” น้ำหอมพลิกตัวหันไปหาคนที่นอนอยู่ข้างๆ แล้วใช้แขนข้างหนึ่งเท้าที่ศีรษะ
“คืองี้นะ ความจำในหัวกูตอนนี้คือ ตอนที่เมียมึงกระโดดลงไปในน้ำ ก่อนที่มันจะสิ้นใจ เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่กูตาย ทุกวันกูต้องไปกระโดดน้ำตายซ้ำๆ แต่วันนั้น กูไปเจอเมียมึงกำลังจะตายพอดี กูกับมันตายในเวลาเดียวกัน แค่คนละปี กูถามมันแล้วว่าอยากกลับมาหรือเปล่า เพราะผู้คุมวิญญาณยังไม่มา กูจะช่วยมันก็ได้ แต่มันบอกว่าไม่ ถ้าต้องกลับมาเจอผัวเลวๆ แบบมึง มันขอตายดีกว่า กูก็เลยได้ร่างของมันมา”
“ไม่จริง กูไม่เชื่อ”
“และถ้ามึงไม่เชื่อที่กูพูดอะนะ มึงก็ถามตัวเองละกันว่ามึงเหี้ยกับมันจริงหรือเปล่า แล้วเรื่องที่มึงทำเหี้ยกับมัน มันมากพอที่มันจะตัดสินใจแบบนั้นหรือเปล่า กูบอกได้แค่นี้ แล้วถ้ามึงไม่พอใจที่กูมาอยู่ในบ้านมึงกูออกไปก็ได้นะ สวยๆ แบบนี้หาคนเลี้ยงไม่ยากหรอก”
“ไม่ต้อง อยู่นี่แหละ ถึงมึงจะไม่ใช่หอมแต่ร่างมันก็เป็นหอมอยู่ดี”
“แล้วจะเอายังไง จะให้กูเป็นเมียมึง หรือจะอยู่กันเฉยๆ”
“ก็อยู่กันแบบที่เคยเป็นนั่นแหละ”
“กูไม่นอนร้องไห้รอมึงนะคะ มึงทำอะไรได้กูก็ทำได้เหมือนกัน”
“หมายความว่าไง”
“ก็ถ้ามึงพาใครมานอน กูก็จะไปนอนกับคนอื่นเพื่อเคลียร์เตียงให้มึงกับกะหรี่ไง”
“ไม่ได้นะเว้ย!!”
“ทำไมจะไม่ได้ อีหอมมันโง่ ถ้ามันทำแบบนี้ก็จบแล้ว”
“ถ้ามึงทำแบบนั้นมึงได้เห็นดีกับกูแน่”
“ทำไม มึงจะทำอะไรกู”
“กูจะเอาหมอผีมาไล่มึงออกจากร่างเมียกู”
“กูบอกแล้วไงว่าอีหอมมันตายแล้ว ถ้าไม่มีวิญญาณกูก็เท่ากับร่างนี้ตาย มึงจะเอาแบบนั้นมั้ยล่ะ” อคิราห์ได้แต่นิ่งเงียบไม่ตอบอะไร เพราะอย่างที่น้ำหอมพูดมาถ้าเป็นแบบนั้นก็เท่ากับเขาต้องเสียเมียไปอีกรอบ ต่อให้ในร่างไม่ใช่น้ำหอมจริงๆ แต่อย่างน้อยเขาก็ยังได้เห็นได้อยู่กับน้ำหอมต่อ
“เอาเป็นว่ากูจะไม่พาใครมานอนที่บ้านโอเคมั้ย”
“ไม่โอเค มึงต้องไม่ทำให้กูเห็นไม่ทำให้กูรู้ เพราะกูไม่ใช่อีหอม กูไม่ได้ดีเลิศประเสริฐศรีขนาดนั้น”
“แล้วมึงจะทำไม”
“ก็ลองดู จะได้รู้ไง”
“นอนเถอะ คุยกับมึงกูเหนื่อยชิบหาย”
“ก็ดีกูก็เหนื่อย”