ต้นหอม

2065 คำ
​“มึงเสร็จหรือยังเนี่ย จะแต่งอะไรนักหนา” อคิราห์ตะโกนเรียกคนที่แต่งตัวอยู่ในห้องนานแสนนานเหลือเกินที่เขาต้องนั่งรอแม่เมียตัวดีของเขา ลุกไปเรียกกี่ทีก็บอกใกล้แล้วๆ “เออ เสร็จแล้วเนี่ยเร่งอะไรนักหนาวะ” “มันนานเกินไปแล้วนะเว้ย” “เสร็จแล้วนี่ไง น่ารำคาญแหกปากอยู่ได้” พอน้ำหอมแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วเดินออกมาจากห้องคนที่แหกปากเรียกที่หน้าห้องถึงกับต้องตกตะลึงในลุคใหม่ ใบหน้าที่แต่งแต้มเครื่องสำอางอย่างชำนาญ กลิ่นน้ำหอมราคาแพงที่ฉีดพรมบนตัว ผมเผ้าที่จัดการเรียบร้อยไม่ได้มัดรวบๆ เหมือนเคย แต่…. “ชุดเหี้ยอะไรวะ เว้าหน้าเว้าหลัง แหวกจะถึงสะดืออยู่แล้ว แล้วนี่….” มือหนาคว้าแขนข้างหนึ่งของน้ำหอมขึ้นไปด้วยความตกใจ “มึงสักเหรอ” “คิดว่าไงอะ” “มึงสักทำไม” เพราะเมื่อเย็นนี้น้ำหอมใส่เสื้อแขนยาวทำให้อคินไม่ทันเห็นรอยสักที่เธอเพิ่งลงเข็มมาหมาดๆ จนเต็มแขนอย่างไม่เกรงกลัวความเจ็บ “ทีมึงยังสักได้เลย ทำไมกูจะสักไม่ได้” “อย่าสักอีก กูไม่ชอบ” “ไม่ชอบแต่มึงสักยังกับไปนอนทับหนังสือพิมพ์ มึงเป็นเหี้ยอะไรอะ” “มึงเป็นผู้หญิง” “แล้วไง กูไม่ใช่อีหอมนะที่จะยอมมึงทุกอย่าง กูอยากทำอะไรกูก็จะทำ” “แต่ร่างที่มึงอยู่มันร่างเมียกู” “เหอะ ร่างเมียกู ดูรักมันนักนี่ มึงดูนี่” น้ำหอมหันหลังแล้วชี้ไปที่จุดของแผลเป็นที่ไหล่ซ้ายให้กับอคินดู “มึงรู้มั้ยว่าอีหอมมันโดนอะไร” คนถูกถามมองดูแผลแล้วส่ายหัวไปมา “เมียน้อยมึงอะ ผลักมันล้มลงไปนอนทับเศษแก้ว แล้วมึงจำได้มั้ยว่าวันนั้นมึงด่ามันว่าไง” อคิราห์พยายามนึกว่าเหตุการณ์นี้มันตั้งแต่เมื่อไหร่ “มึงด่ามันว่าโง่ เซ่อซ่า ทำอะไรไม่รู้จักระวัง ทั้งๆ ที่แก้วมันแตกเพราะมึงโมโหมันแล้วก็ปาลงพื้น มันอุส่าห์ไปเก็บ ก็เสือกโดนเมียน้อยมึงผลักจนหน้าหงาย เจ็บตัวไม่พอเท่าไหร่ แต่เจ็บใจนี่สิ โธ่อีหอมผู้น่าสงสาร” อคิราห์ได้แต่ยืนนิ่งทำไมเขาถึงได้โง่เขลาขนาดนี้ ทำไมถึงได้ละเลยคนรักได้ขนาดนั้น หรือจริงๆ แล้วนรกส่งหอมคนนี้มาเพื่อให้เขาชดใช้กับความเจ็บปวดที่เคยทำกับหอมคนเก่า “อยู่ในร่างเมียกูอย่าเอาไปทำเรื่องเหี้ยก็แล้วกัน หอมมันไม่เคยทำอะไรแย่ๆ เลย” “ใช่ มึงก็รู้นี่ กูบอกมึงเลยนะ คนที่จะดีกว่าอีหอมอาจจะมี แต่คนที่จะดักดานรักมึงได้มากกว่าอีหอมเนี่ย ไม่มีแน่นอน” หลังจากได้ทะเลาะกันพอหอมปากหอมคอแล้วทั้งคู่ก็พากันตรงไปที่ผับในเขตที่อยู่ใกล้บ้านที่สุด อคิราห์ไม่ยินดียินร้ายด้วยสักเท่าไหร่เพราะไม่ชอบชุดที่อีผีมันใส่มาแต่ด่าให้ไปเปลี่ยนมันก็ไม่ยอมเลยต้องเลยตามเลย ส่วนน้ำหอมนั้นดูจะตื่นเต้นเป็นพิเศษเพราะปกติเคยอยู่แต่แถวแม่น้ำที่กระโดดลงไปตายไม่ค่อยได้ไปที่ไหนสักเท่าไหร่ “เดี๋ยว” เมื่อคนตัวเล็กทำท่าจะลงจากรถคนขับก็รีบคว้าไว้ก่อน “อะไร!!” “มาตกลงเรื่องชื่อกันใหม่ได้มั้ย” “อะไรอีกกะ” “เวลากูเห็นมึงเป็นแบบนี้แล้วกูเรียกชื่อหอมไม่ลง” “งั้นจะเรียกกูว่าอะไร” “มึงชื่ออะไร” “กูจำไม่ได้” “อะไร กูเห็นมึงรู้ทุกอย่าง แต่มึงจำชื่อตัวเองไม่ได้เนี่ยนะ” “กูตายมาตั้งแต่เมื่อไหร่กูก็ไม่รู้ กูรู้แค่ว่ากูเป็นวิญญาณเร่ร่อนตายจากการจมน้ำ แค่นั้นแหละ” “แล้วมึงอยากชื่ออะไร” “มึงจะมาอยากตั้งอะไรจนป่านนี้ กูชินกับชื่อหอมแล้วก็เรียกหอมนี่แหละ” “ไม่ได้ น้ำหอมกูจะเอาไว้เรียกเมียกูคนเดียว” “โว้ย น่ารำคาญจังโว้ย กูชื่อต้นหอมก็ได้คนละหอมกัน โอเคมั้ย ปล่อยกูจะรีบไปแรด” “เดี๋ยว” “โวยอะไรอีก!!” “งั้นกูจะเรียกมึงต้น” “มึงจะบ้าเหรอ กูบอกว่ากูชินกับชื่อหอม กูยอมชื่อต้นหอมเพราะมึงไม่ให้ชื่อน้ำหอม กูไม่ได้อยากชื่อต้น มึงสับสนเหี้ยอะไรเนี่ย” “กูให้มึงตั้งชื่อใหม่เพราะไม่อยากให้มึงชื่อหอมมึงสับสนอะไร” “กูชื่อต้นหอมถ้าไม่อยากเรียกน้ำหอม หรือหอมก็เรียกต้นหอมจบ เคลียร์” “แต่” “เคลียร์!!!” ต้องยอมรับว่าอีผีที่อยู่ในร่างของน้ำหอมนั้นเรื่องเถียงจัดเป็นมือวางอันดับหนึ่งอคิราห์ไม่เคยเถียงชนะมันเลยสักครั้ง รวมทั้งครั้งนี้ด้วยเช่นกัน  เมื่อลงจากรถอคิราห์ต้องรีบเดินตามประกบแม่ต้นหอมอย่างใกล้ชิดเพราะกลัวจะไปก่อเรื่องอะไรเข้า ทันทีที่เท้าก้าวเข้าไปสู่พื้นใต้แสงสีและเสียงดนตรีความตื่นตาตื่นใจก็ครอบงำคนตัวเล็กจนเก็บอาการไม่ไหว อคินรีบลากเมียขึ้นไปชั้นวีไอพีที่ประจำของเขาเพื่อตัดปัญหาสายตาโลมเลียของคนอื่นๆ "อยากลงไปเต้น” พอโดนกักบริเวณต้นหอมก็หันมาทำหน้างอคอเง้าใส่อคินที่นั่งจิบเหล้าสบายใจรอธีสิสที่จะตามมาสมทบ เขายกแก้วแกว่งไปมาอย่างไม่สนใจเสียงบ่นของคนตรงหน้า “ไอ้อคิน กูจะลงไปเต้น” “มึงอยากเต้นก็เต้นตรงนี้ จะลงไปทำเหี้ยอะไร” “หึงกูเหรอ” คำถามทำให้อคินต้องชะงักก่อนจะวางแก้วเหล้าลงแล้วจ้องมองดูคนตรงหน้าอย่างจริงจัง “กูไม่ยอมให้มึงเอาร่างเมียกูไปแรดหรอก” “กูแต่งมาขนาดนี้ ไม่ให้กูได้สักหน่อยเหรอ” “มึงหยุดคิดเรื่องนี้ได้เลย” มือเรียวเอื้อมไปคว้าชวดเหล้าหมายจะเทใส่แก้วแต่อคินหามาเห็นเสียก่อนจึงรีบยื้อแย่งออกมา “อะไร” ต้นหอมร้องลั่น “กูไม่ให้กินเหล้า อยากกินก็กินน้ำส้ม” “แต่” “ไม่ได้!!!” “โว้ย ลงไปเต้นก็ไม่ได้ จะแดกเหล้าก็ไม่ได้ กูจะมาทำเหี้ยอะไร” “ไปสิ จะกลับมั้ยเดี๋ยวไปส่ง” “ไม่!!” “พี่อคินสวัสดีค่ะ” เสียงปริศนาดึงสายตาเหวี่ยงวีนของคนที่กำลังอารมณ์เสียได้อย่างดี สาวสวยหุ่นแซ่บในชุดแน่นเปี๊ยะเดินเข้ามาทักทายพร้อมทิ้งตัวลงนั่งข้างอคิราห์อย่างสนิทสนมจนต้นหอมเกิดความสงสัย “จะมาทำไมไม่บอกดาด้าเลยคะ ลืมดาด้าไปแล้วเหรอ” “พี่…” “กะหรี่” อคินไม่ทันได้พูดอะไรเสียงแปดหลอดของต้นหอมก็แทรกขึ้นก่อน “อะไรนะ” ดาด้าหันไปถามด้วยสีหน้าไม่พอใจ แต่คนพูดกลับกอดอกทำหน้ากวนประสาทอย่างไม่ร็ร้อนร็หนาวอะไร “กะหรี่ กะหรี่ ได้ยินชัดมั้ย” เมื่อถูกถามซ้ำต้นหอมก็ยินดีจัดให้เต็มข้อ ร่างสูงโปร่งหุ่นนางแบบถึงกับต้องลุกขึ้นเท้าสะเอวด้วยอารมณ์ฉุนอยู่ดีดีก็โดนด่าว่ากะหรี่ใครจะทนได้ “มึงว่าใคร” “ว่ามึงไง อี กะ หรี่” “อีบ้า!!!” “ด้าอย่าๆ” มือเรียวง้างขึ้นสุดแรงหมายจะพุ่งเข้าไปตบคนที่นั่งกอดอกอยู่อีกฟาก แต่อคิราห์เห็นท่าไม่ดีจึงต้องรีบคว้าเอาไว้ก่อน “พี่อคินก็ดูอีบ้านั่นสิ มันเป็นใครอะ ทำไมพี่ปล่อยให้มันมาด่าหนูแบบนี้” “ด้าใจเย็นก่อนนะ กลับไปก่อนเดี๋ยวพี่จัดการเอง” “จำกูไม่ได้เหรออีด้า กูคือเมียมันไงคนที่ต้มข้าวต้มให้มึงแดก แถมยังเอายาให้มึงกิน แหมไปเอากับผัวเค้าจนไข้แตก บุญคุณอะสำนึกบ้าง” ดาด้าจ้องมองดูคนพูดอีกครั้ง จนนึกออกว่าผู้หญิงคนนี้คือเมียของอคิราห์จริงๆ “นี่เมียพี่…” “ใช่ นี่หอมเมียพี่เอง” “ทำไมวันนี้ถึง…” “ไอ้อคินมันชอบผู้หญิงแรดๆ กูเบื่อที่มันชอบเอากะหรี่ไปตีที่บ้าน กูเลยออกจากบ้านมาเป็นกะหรี่ดูบ้าง” “ต้นหอม!!!” อคิราห์ร์สึกเสียหน้าไม่น้อยที่ถูกพูดฉีกหน้าแบบนั้น เขาไม่เคยกลัวเมีย ไม่เคยโดนด่าต่อหน้าใคร แต่นี่ต้องมาทนโดนด่าสาดเสียเทเสียต่อหน้าผู้หญิงที่เป็นคู่ขาเก่า “เอ่อ ทำไมวันนี้พี่อคินดู กลัวเมียจัง วันนั้นยังตบไม่เลี้ยงอยู่เลย” “พูดแบบนี้อยากเห็นมันตบกูงั้นสิเหอะ มีแต่กูเนี่ยจะตบมึง ไสหัวออกไปให้พ้นๆ หน้ากูเดี๋ยวนี้เลยนะไม่งั้นโบท็อกบนหน้ามึงแหกแน่ไป!!!” เมื่อถูกไล่ตะเพิดแม่นางแบบดาด้าก็รีบหนีออกไปด้วยความเกรงกลัว ไม่รู้ไปกินยาผิดสำแดงอะไรมาจากอีเฉิ่มทรงคนใช้ถึงได้พลิกมาเป็นนางพญาปากตลาดแบบนี้ “มึงให้เกียรติกูบ้างได้มั้ยต่อหน้าคนอื่นเนี่ย” “ให้เกียรติ? มึงเคยให้เกียรติอีหอมมันบ้างมั้ย แหมตบมันโชว์เมียน้อยงี้เหรอ” “แต่กูเป็นเจ้าของที่นี่ คนอื่นจะว่าไงถ้ากูต้องมาโดนเมียด่าฉอดๆ แบบนี้” “แต่กูเป็นเมียมึง ทั่วโลกกเค้าก็รู้กันดีว่าเมียใหญ่ที่สุดในบ้านมึงจะอายอะไร ทีหิ้วกะหรี่ไปตีที่บ้านไม่รู้จักอาย” “เออว่าไงรอนานมั้ย” ธีสิสมาถึงหลังทุกอย่างสงบเพียงไม่กี่นาที หลังทักทายเพื่อนเรียบร้อยแล้ว พอหันไปเห็นผู้หญิงที่นั่งอยู่อีกฝั่งก็ถึงกับตะลึง จริงๆ ที่อคิราห์บอกว่าน้ำหอมเปลี่ยนไปก็ไม่ได้คิว่าจะเปลี่ยนขนาดนี้ “หวัดดีหอม วันนี้สวยจังนะเรา” “ขอบคุณนะคะพี่ธี” แม้จะไม่รู้จักไม่เคยเห็นแต่จิตสำนึกความเป็นนำหอมมันบอกกับเธอว่าควรดีกับคนๆ นี้ รอยยิ้มและแววตาแสนอ่อนโยนที่ต้นหอมมอบให้กับธีสิสทำให้อคิราห์ต้องโวยขึ้นมาอย่างไม่พอใจ “เหี้ยอะไรวะ กับกูเห่าอย่างกับมา กับไอ้ธีอ่อนเป็นลูกแมวเลย” “ก็เค้าไม่ได้เหี้ยกับกูเหมือนมึงนี่” ธีสิสเห็นแววตาที่เปลี่ยนไปมองอคิราห์ก็เชื่ออย่างที่เพื่อนเคยบอกจริงๆ ว่ามันไม่หลงเหลือแม้แต่เงาของน้ำหอมผู้อ่อนโยนน่าทะนุถนอมแม้แต่น้อย “ใจเย็นๆ ก่อนนะ อย่าเพิ่งทะเลาะกัน” “มึงก็ดูมันดิกับผัวทำท่าอย่างกับหมา กับเพื่อนผัวทำตาหวานอย่างกับจะแบให้มึงอย่างนั้นอะ” “ไอ้อคินให้เกียรติเมียมึงหน่อย” “นี่ไง มันก็เป็นแบบนี้ไง ปากมันอะจะพูดอะไรไม่ได้สนใจความรู้สึกคนฟังหรอก พอเค้าพูดแรงด้วยบ้างจะตาย” ต้นหอมรีบแทรกขึ้นทันที “มึงไม่ว่ามันบ้างวะไอ้ธีว่าแต่กูมันแหกปากแว้ดๆ ไม่เห็นว่าอะไรมันเลย” “ก็…กูก็เห็นด้วยกับหอมนะ” “ไอ้ธีกูเพื่อนมึงนะเว้ย” ธีสิสได้แต่คิดว่าการมาเจอกันครั้งนี้เป็นครั้งที่ปวดหัวที่สุดตั้งแต่รู้จักกันมา ต้องคอยห้ามคนนั้นทีคนนี้ทีจ้องแต่จะตีกันอย่างเดียว แต่ให้มองอีกมุมก็น่ารักดีปกติเขาไม่เคยเห็นอคิราห์ยอมน้ำหอมเลย แม้ว่าน้ำหอมจะรักและดีกับอคิราห์แค่ไหน บางครั้งเขาก็ยังแอบคิดว่าถ้าเจอกันเร็วกว่านี้สักหน่อย คงไม่ปล่อยให้อคิราห์เราผู้หญิงตัวเล็กๆ น่าสงสารคนนี้ไปทรมานทั้งกายทั้งใจแน่ๆ แต่เพราะอคิราห์และตัวเองนั้นสนิทกันมาก จึงต้องหักห้ามใจตัวเอง และแอบรักแอบมองน้ำหอมอย่างลับๆ ต่อไป
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม