“ต่อให้ไม่มีเขา ฉันก็ไม่เลือกผู้หญิงอย่างเธอ!” เสียงตวาดนั้นดังพอที่จะทำให้คนใจกล้าชะงัก ไม่ต่างอะไรจากปาจรีย์ที่ตกใจจนเผลอสะดุ้ง แม้จะรู้ว่าเขาดุ แต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะดุได้น่ากลัวขนาดนี้ มันทำให้คิดว่าหากเป็นเธอที่ถูกดุจะเป็นยังไง เธอจะยังกล้ายืนอยู่ในห้องนี้รึเปล่า
“แต่ทรายรักพี่เสือนะคะ”
“เธอรัก ‘เงิน’ ของฉัน อย่าปฏิเสธความจริงในข้อนี้ตราบใดที่ข้าวของราคาแพงบนเนื้อตัวเธอ ยังมาจากเศษเงินที่ฉันปันให้อยู่ทุกเดือน!”
“อีนี่มันก็รักแค่เงินของพี่เหมือนกัน ลองถ้าพี่ไม่โยนเศษเงินให้ คิดเหรอว่ามันจะมาแบให้เอาถึงที่แบบนี้!” คำพูดนั้นรุนแรงมากพอที่จะทำให้ดนัยภัทรหมดสิ้นความอดทน แต่กระนั้นเขาก็เลือกที่จะไม่เสียเวลาจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง
“ลากตัวผู้หญิงคนนี้ออกไปนุกูล!” นุกูลที่ยืนรอรับคำสั่งอยู่ก่อนแล้วพยักหน้าให้ผู้เป็นนาย ก่อนจะสาวเท้าตรงเข้าไปหาอีกคนพร้อมเอ่ย
“เชิญครับคุณทรายมาศ” เขาเลือกที่จะพูดดีๆ ด้วย แต่สายตาที่ข่มขวัญนั้นทำให้หญิงสาวยอมที่จะออกไปแต่โดยดี คาดว่าเธอยังคงเข็ดกับเรื่องหนก่อนที่ถูกเขาจับโยนออกไปอยู่ ถึงไม่กล้าก่อเรื่องไปมากกว่านี้
หลังจากนั้นสามวันปาจรีย์ก็ได้รับคำสั่งให้เก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไม ไม่รู้และไม่กล้าที่จะถามเพราะตลอดหลายวันมานี้ดูเหมือน ‘เขา’ มีเรื่องให้คิดมากพออยู่แล้วเธอไม่อยากทำให้เขารำคาญ
“เราจะไปไหนกันคะ” แต่สุดท้ายก็ทนต่อความอยากรู้ไม่ไหวตัดสินใจถามในนาทีสุดท้ายก่อนที่เขาและเธอจะออกจากห้องพร้อมกระเป๋าเสื้อผ้าขนาดพอเหมาะ
“ภูเก็ต” ดนัยภัทรตอบเพียงสั้นๆ ก่อนจะจับจูงร่างบอบบางให้เดินตามกันออกไป จุดหมายนั้นคือรถยนต์คันหรูที่จอดรออยู่นานแล้ว
ที่พักของเธอกับนายจ้างเป็นพลูวิลล่าขนาดใหญ่ที่แบ่งสัดส่วนได้อย่างสวยงาม ทั้งยังมีความเป็นส่วนตัวชนิดที่เธอสามารถแก้ผ้าลงสระก็ยังได้ แต่ก็ทำได้แค่คิดเท่านั้นเพราะไม่กล้าพอที่จะทำ ทุกอย่างภายในบ้านถูกจัดเตรียมเอาไว้อย่างดี ไร้ที่ติ ราวกับเจ้าของสถานที่แห่งนี้จะรู้ว่าแขกที่เดินทางมาพักนั้นชอบ หรือไม่ชอบอะไร
“ชอบไหม” คำถามที่มาพร้อมอ้อมกอดอบอุ่นทำให้หญิงสาวยิ้มรับพร้อมคำตอบ
“ชอบค่ะ” เธอชอบทุกอย่างที่นี่ และยิ่งชอบมากเมื่อได้อยู่กับเขา
“ไว้จะพามาอีก” ดนัยภัทรกระซิบบอกก่อนจะอดไม่ไหวก้มลงหอมแก้มนวลฟอดใหญ่ เขาชอบดมกลิ่นอ่อนๆ เหมือนแป้งเด็กนี้ของเธอ
ชอบชนิดที่ว่าคืนไหนไม่มีเจ้าของกลิ่นนอนข้างๆ จะนอนไม่หลับ เพราะอย่างนั้นเขาถึงออกคำสั่งกับเธออีกครั้งให้เข้านอนพร้อมกันทุกคืน
หลังจากจัดของเสร็จดนัยภัทรก็ชวนเธอออกมาเดินเล่นที่หาดทรายหน้าบ้านพัก น่าแปลกที่ไม่มีคนพลุกพล่านอย่างที่คิด และราวกับเขาจะรู้ถึงความคิดถึงได้เฉลยให้รู้ว่าที่ดินตรงนี้เป็นของเขาทั้งหมด รวมไปถึงบ้านพักหลังใหญ่นั่นด้วย ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้ย่างกายเข้ามา
“คุณเสืออยากได้ลูกผู้หญิงหรือผู้ชายค่ะ” เพราะความเงียบ บวกกับบรรยากาศยามเย็นทำให้เธอตัดสินใจชวนคุย และแน่นอนว่าเรื่องที่เธอกับเขาจะสามารถคุยกันได้อย่างเปิดเผยนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องลูก
“อะไรก็ได้ แค่เขาเป็นลูกของผม ไม่ว่าจะชายหรือหญิงผมก็รักทั้งนั้น แล้วคุณล่ะ อยากได้ผู้ชายหรือผู้หญิง”
“อะไรก็ได้ค่ะ ขอแค่เขาเกิดมาอย่างแข็งแรงก็พอ” ในฐานะแม่ คงไม่ต้องการอะไรไปมากกว่าได้เห็นลูกของตัวเองเกิดมาแข็งแรงอีกแล้ว น่าเสียดายที่เธอจะไม่มีโอกาสได้เห็นเขาเติบโต แต่ก็ไม่เป็นไร เธอเชื่อว่าพ่อของลูกจะทำให้ลูกมีความสุขได้ แม้จะไม่มีแม่อย่างเธออยู่ด้วยก็ตาม
“ถ้าอย่างนั้นเย็นนี้คุณต้องกินข้าวเยอะๆ ลูกของเราจะได้แข็งแรง” เธอชอบคำนี้จัง โดยเฉพาะเวลาที่มันออกมาจากปากของเขา
คำว่า ‘ลูกของเรา’
“ถ้าถึงวันที่ป่านต้องออกไปจากชีวิตคุณกับลูก คุณเสือจะคิดถึงป่านไหมคะ” คนที่เผลอหลุดปากถามในสิ่งที่ควรถามตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ใจหนึ่งก็อยากรู้คำตอบ แต่อีกใจก็กลัวเขาโกรธที่เธอถามเรื่องไม่เป็นเรื่อง จึงได้รีบแก้ต่างให้ตัวเองเป็นการด่วน
“ป่านขอโทษค่ะ ป่านไม่ได้…”
“คุณล่ะ จะคิดถึงผมกับลูกไหม” ดนัยภัทรไม่ต้องการคำขอโทษ เพราะเขาไม่ได้โกรธ แต่ตกใจมากกว่าเพราะไม่คิดว่าหล่อนจะกล้าถาม “ป่านจะคิดถึงคุณทั้งคู่ค่ะ แต่คุณเสือไม่ห่วงนะคะ ถึงป่านจะคิดถึงพวกคุณสองคนมากแค่ไหน แต่ป่านจะทำตามสัญญาค่ะ จะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน” ปาจรีย์ตอบกลับไปตามที่คิด แม้ว่าความคิดนั้นจะทำให้เธอเจ็บปวดทุกครั้งที่คิดถึงวันที่ต้องเดินออกไปจากชีวิตเขา ไปจากลูกแต่ก็ไม่เป็นไรหรอก เธอเชื่อว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตมันมีเหตุผล
เธอเลือกแล้ว เลือกเองด้วย ก็ต้องยอมรับผลที่จะได้รับแต่โดยดี
หลังจากเดินเล่นได้สักพักดนัยภัทรก็จูงมือเล็กกลับบ้านที่ตอนนี้มีอาหารทะเลหลายชนิดถูกจัดเตรียมเอาไว้รอแล้ว ภาพนั้นสร้างความตกใจแก่ปาจรีย์ไม่น้อย นึกไม่ออกเลยว่าเขาไปสั่งอะไรพวกนี้ตอนไหน
แต่พอหันไปเจอนุกูลถึงได้เลิกสงสัย เธอลืมไปได้อย่างไรว่าเขาคือคนที่รู้ใจเจ้านายของตัวเองมากกว่าใครๆ ไม่แปลกที่ทุกอย่างจะพร้อมไปหมด เกิดเป็นคนมีบารมีก็ดีแบบนี้อะไรก็ได้ดั่งใจไปเสียทุกอย่าง
“กินเยอะๆ คุณตัวเล็กเกินไป” ดนัยภัทรเอ่ยบอกก่อนจะตักอาหารให้อย่างเอาใจ ซึ่งเธอก็เพียงแต่ยิ้มรับ ไม่กล้าสวนกลับไปหรอกว่าเธอก็ตัวเท่านี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่เป็นเขาต่างหากที่ตัวใหญ่เกินไป
“คุณเสือก็กินเยอะๆ นะคะ จะได้มีแรงทำงาน มาค่ะป่านแกะกุ้งให้” เธอว่าก่อนจะเริ่มต้นแกะส่งแกะปูส่งให้ มีความสุขที่ได้ทำอะไรเพื่อเขาบ้าง ถึงแม้ว่ามันจะแค่เล็กน้อยแต่ก็ดีกว่าอยู่ไปวันๆเหมือนคนไม่มีค่า