เขายอมฟังหล่อนที่ไหนกันล่ะ เพราะหลังจากสิ้นคำพูดของหล่อนไม่กี่วินาที กลีบสาวก็ถูกแย้มแยกออกจากกัน ด้วยปลายนิ้ว
“สีสวยนะ สภาพยังดูใหม่อยู่เลย”
“อ๊ะ...คนบ้านี่...”
หล่อนสะดุ้งโหยงเมื่อเขาแตะนิ้วลงกับกลีบสาว ไฟร้อนๆ ลามเลียไปทั่วทั้งกายสาว
“เพิ่งทำรีแพร์มาหรือ”
ไอ้บ้า รีพงรีแพร์อะไรกัน หล่อนไม่รู้จัก หล่อนตะโกนด่าเขาในอก แต่นอกอกจำต้องวิงวอนให้เขาหยุด
“ได้โปรด...อย่าแตะมันนะ”
เขาไม่เชื่อหล่อนเลย เพราะหลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้ทำแค่แตะด้วยนิ้ว เพราะเขาทะลวงนิ้วเข้ามาภายในร่องทันที
“อ๊ะ...อื้อ...”
“แม่เจ้า...ฟิตเสียด้วย”
เขาชักนิ้วออกไปแล้ว และทิ้งความอับอายให้อยู่บนร่างของหล่อนอย่างไม่ปรานี
ความอับอายมาพร้อมกับความสยิววาบหวิวทรมาน และมันก็บังคับให้หล่อนต้องครวญครางออกมา
“จะทำอะไรก็รีบทำ แต่อย่าแกล้งกันแบบนี้เลย...”
“ทำไมเธอเรียกการเล้าโลมว่าแกล้งล่ะ อิสซาเบล”
หล่อนรับรู้ได้ถึงไอร้อนจากลมหายใจของเขาบริเวณท้องน้อย
“หรือว่าลูกค้าคนอื่นๆ ของเธอ ทิ่มอย่างเดียว”
“ฮะ?”
“แต่ฉันไม่ใช่ผู้ชายเห็นแก่ตัวแบบพวกนั้นหรอก ฉันชื่นชอบการได้เห็นผู้หญิงคู่นอนมีความสุขไปด้วย”
“อ๊ะ...อื้อ...”
เขากดนิ้วยาวลงกับจุดอ่อนไหวของหล่อนภายในกลีบสาว และคลึงแผ่วเบาด้วยจังหวะเนิบนาบ แต่แค่นั้นก็ทำให้หล่อนรู้สึกเหมือนโลกจะแตกสลายไปแล้ว
พิมนรารู้สึกได้ถึงความเปียกชื้นที่ซอกขามากยิ่งขึ้น จนต้องบิดสะโพกดินระเบิดไปมาระบายความรุ่มร้อนที่อัดแน่นอยู่ภายใน
“โดยเฉพาะกับผู้หญิงที่ชอบแสดงละครอย่างเธอ”
“อื้อ...อ๊ะ...อื้อ...อา...”
หล่อนควรจะตัดลิ้นตัวเองออกซะ เพราะมันเอาแต่ครางเสียงที่น่าอับอายออกมา
“คุณ...ช่วยเอาผ้ามาอุดปากฉันที ได้โปรดเถอะ”
เขาโน้มหน้าลงกระซิบถามแผ่วเบา น้ำเสียงของเขาแปร่งยิ่งกว่าเดิมเสียอีก
“ทำไมล่ะ...”
เขายังไม่หยุดหยอกล้อกับกลีบนาง
“ฉันไม่อยากคราง...”
เสียงหัวเราะที่เต็มไปด้วยความขบขันระคนพึงพอใจของเขาดังขึ้น และน้ำหนักนิ้วก็เพิ่มขึ้นด้วย
“อื้อ...อา...อา...”
“แต่ฉันชอบ...ชอบฟังเสียงครางของเธอ”
“อื้อ...อา...คน...โรคจิต”
หล่อนด่าทอเขา แต่กลับยกสะโพกขึ้นถูไถกับนิ้วยาวๆ ของเขาอย่างเต็มอกเต็มใจและวิงวอน ใบหน้าของหล่อนส่ายไปมาบนหมอนใบใหญ่อย่างกระวนกระวาย
“อื้อ...อื้อ...”
นิ้วมือของเขาฉุดหล่อนให้ดำดิ่งลงไปในเหวนรกที่เต็มไปด้วยเพลิงผลาญ แต่หล่อนคงยังตกไม่ลึกพอกระมัง เพราะวินาทีต่อมาเขาก็ใช้อะไรบางอย่างที่อ่อนนุ่มกว่านิ้ว ชุ่มชื้นเหมือนลิ้น ตวัดไล้เลีย
“อ๊ะ...อื้อ...”
ด้วยไร้ประสบการณ์ทางเพศมาก่อน ทำให้หล่อนยกสะโพกดิ้นหนีกับสัมผัสแปลกใหม่ที่กำลังได้รับ แต่มือใหญ่ที่สอดอยู่ใต้บั้นท้ายอวบงอนตรึงเอาไว้แน่น ใช้ต้นแขนดันเรียวขาให้กว้างสุดขีด และกลืนกินอาหารหวานอันโอชะเบื้องหน้าด้วยความหื่นกระหาย
“อา...อา...”
สติที่เหลืออยู่น้อยนิดถูกกระชากจนขาดวิ่น เมื่อลิ้นสากห่อแข็งและสอดแทรกเข้าไป นิ้วยาวคลึงจุดอ่อนไหวถี่ระรัว และหล่อนก็กำลังร้อนเป็นไฟ ไม่...ไฟยังร้อนน้อยกว่าที่หล่อนกำลังรู้สึกอยู่ในตอนนี้
ร่างของหล่อนลอยสูง ขณะที่เปลวเพลิงที่เกิดจากลิ้นและนิ้วยาวของผู้ชายจอมตะกละเผาผลาญจนร่างกายแทบไหม้เกรียม ตอนนี้ในหัวช่างว่างเปล่า สิ่งเดียวที่หล่อนสำเหนียกได้ก็คือลิ้น และเรือนร่างของผู้ชายจอมกระหายคนนี้เท่านั้น
“ได้...ได้โปรด...”
ลีโอนาโดรับรู้ได้ถึงอารมณ์ของนางทาสสาวที่ยอมศิโรราบไร้การต้านทานใดๆ อีก เขาชักนิ้วออกจากร่องแคบ พร้อมกับเลื่อนตัวขึ้นมาประกบปากจูบอีกครั้งอย่างดูดดื่ม หญิงสาวจูบตอบและเป็นฝ่ายล้วงลิ้นเข้ามาหาเสียอีก เขาครวญครางด้วยความตื่นเต้นสุดควบคุม เขาลูบไล้ไปทั่วร่างงาม หล่อนอวบอัดเต็มไม้เต็มมือ ไม่น่าเชื่อว่าผู้หญิงที่แต่งตัวเชยระเบิดเวลาปอกเปลือกออกหมดแล้วจะมีส่วนเว้าส่วนโค้งที่แสนวิเศษอย่างนี้ หุ่นไม่ผิดไปจากนาฬิกาทรายเลยสักนิด
เขาชอบที่จะมองหล่อน จ้องมองเต้าเนื้ออวบใหญ่ที่กะด้วยสายตาและฝ่ามือแล้วน่าจะคัพซีปลายด้วยความลุ่มหลง มันใหญ่และนุ่มหยุ่นราวกับทำจากสปริงราคาแพง ผิวสาวก็เนียนละเอียดราวกับน้ำนม
ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าปอด พยายามควบคุมตัณหาที่แล่นพล่านจนล้นปรี่เอาไว้สุดกำลัง พลางละสายตาลงไปมองที่เนินเนื้อสามเหลี่ยมอวบอูมที่ตัวเองเพิ่งจะฟัดมาด้วยปากและลิ้นอย่างเต็มที่ด้วยความอัศจรรย์ใจ
ความหวานจากรสสวาทกับความหอมกรุ่นจากกลีบนาง ทำให้เขาร้อนรุ่มยิ่งกว่าถูกเผาด้วยไฟกัลป์ แต่นั่นยังเทียบไม่ได้กับความรู้สึกยามที่ได้สอดใส่นิ้วเข้าไปภายในร่างเล็ก
หล่อนคับแน่นได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ลีโอนาโดไม่เคยประสบกับเรื่องการควบคุมตัวเองมาก่อน พอไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เขาก็ถึงกับหงุดหงิดและเกลียดชังตัวเอง แต่กระนั้นก็ไม่อาจหยุดยั้งการร่วมรักที่กำลังจะเกิดขึ้นในวินาทีต่อจากนี้ได้อีก
“เธอพร้อมแล้วใช่ไหม”
เขาคำรามถามเสียงแปร่งพร่า ขณะก้มลงดูดยอดถันอีกครั้งอย่างอดใจไม่ไหว สาวน้อยที่ถูกปิดตามัดมือเอาไว้ดิ้นพล่านครางรับคำถามยวนใจนั้นทันที
“อ๊ะ...ได้โปรด...ได้โปรด...”
ลีโอนาโดเลื่อนมือขึ้นไปกระตุกผ้าที่ผูกมือเล็กเอาไว้จนข้อมือเล็กเป็นอิสระ หล่อนยกมันขึ้นโอบกอดเขาไว้แน่น และเมื่อผ้าที่ปิดดวงตาเอาไว้หลุดออกตามไปอีกชิ้น หล่อนก็ได้เห็นผู้ชายที่หล่อเหลาปานเทพบุตรชะโงกอยู่เหนือร่างด้วยท่าทางคุกคามสุดขีด
“มองฉัน...เวลาฉัน...เอาเธอ”
หล่อนอุทานเป็นเสียงครวญครางอีกครั้ง เมื่อเขาจงใจใช้อาวุธคู่กายเสียดสีกับกลีบนางที่แยกแย้มออกจากกันอย่างหนักหน่วง หล่อนจิกเล็บลงบนแผ่นหลังกว้างเพื่อผ่อนคลายไอสวาทที่รัดล้อมอยู่รอบกาย
“อา...อา...”
ลีโอนาโดระบายยิ้มหื่นกระหาย กดปากจูบลงมาอีกครั้ง คราวนี้เต็มไปด้วยความดูดดื่ม และสำรวจตรวจตรา หล่อนเกาะเกี่ยวเขาเอาไว้แน่น จูบตอบอย่างลืมตาย
“โอว...นี่สินะตัวจริงของเธอ”
เขาชมหล่อนใช่ไหม
พิมนราถามตัวเองอย่างลุ่มหลง และก็ยังไม่ทันได้คำตอบ หัวเข่าทั้งสองข้างของหล่อนก็ถูกดันขึ้นจนแทบชิดกับปทุมถันอวบ และเขาก็เลื่อนไปคุกเข่าอยู่ที่กลางลำตัว