05 - ผมโดนปล้นจูบ

1905 คำ
"อิ่มกันแล้วใช่ป่ะ ตากูไปกินบ้าง" ผมถอดเสื้อเชฟโยนพาดกล่องใส่ของดัานหลังแล้วใส่แค่เสื้อเชิ้ตพับแขนเดินไปในงานเลี้ยงแบบบุฟเฟ่ต์ ผมเดินไปรอบ ๆ บูธอาหารที่มีทั้งอาหารญี่ปุ่น อาหารไทย อาหารยุโรป และขนมไทย ขนมเบเกอรี่ของผม รวมถึงบูธเครื่องดื่มสารพัด ผมหยิบคร็อกเก้จากบูธญี่ปุ่นมาชิ้นหนึ่งและเดินกินมาเรื่อย ๆ จนมาหยุดหน้าบูธอาหารยุโรป ผมมองเนื้อสเต็กที่วางเรียงในจานพร้อมเครื่องเคียง มันคุ้นตามาก ลายบนเนื้อย่างแบบนี้ ผักเครื่องเคียงแบบนี้ สีน้ำเกรวี่ที่อยู่ในถ้วยเล็กอีก บังเอิญน่า ก็แค่สเต็ก อาหารพื้นฐานครัวยุโรป ที่ไหนก็มี ผมเลิกสนใจแต่สายตาผมดันไปมองคนร่างสูงที่กำลังย่างเนื้ออยู่หน้าเตา ทำไมมันคุ้นจังวะ คงไม่ใช่หรอก "ไอ้แบงค์ กูย่างเนื้อเสร็จแล้ว ส่งจานมา" เขาสั่งผู้ช่วยที่รีบส่งจานให้ พอหยิบเนื้อใส่จานแล้วเขาก็หันมาสบตาผมพอดี เป๊ะเลย มันจริง ๆ ด้วย ไอ้นภัทร! ผมยัดคร็อกเก้คำสุดท้ายใส่ปากแล้วหันหลังเดินหนี อะไรมันจะโลกกลมขนาดนี้วะ ผมอุตส่าห์พยายามลืมหน้าไอ้คนเพี้ยนนี่แล้วนะ แล้วทำไมต้องมาเจอที่นี่ด้วย แต่.. สายตามันที่มองผม มันดูเศร้าและเจ็บปวดยังไงไม่รู้ แล้วมันก็ทำให้ผมรู้สึกไม่ดีจนต้องหันหลังกลับไปมอง แต่นภัทรไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว ผมเดินไปหน้าบูธแล้วถามด้วยคำถามที่ผมไม่คิดว่าจะออกจากปากผม "นภัทรไปไหนแล้ว?" ผมถามผู้ชายที่ยืนหลังบูธ "พี่ภัทรไปห้องน้ำครับ เดี๋ยวคงมา" เขาตอบผมแบบนี้ ผมพยักหน้าแล้วรีบเดินไปทางห้องน้ำ พลางมองหาคนตัวสูงไปดัวย แต่ผมไม่เจอมันแม้เงา ผมเลยเดินไปเรื่อย ๆ จนถึงสระน้ำริมสวน และเห็นคนตัวสูงนั่งถอนหายใจที่ม้านั่งใต้ต้นไม้ "ไอ้ภัทร มานั่งทำไรที่นี่ กูตามหาตั้งนาน" ผมทักทายก่อน นภัทรเงยหน้ามองผมแล้วหันหน้าหนี "มาทำไม? กูแค่เหนื่อยเลยมานั่งเล่น แล้วมึงจะตามหากูทำไม?" มันตอบแนวประชด เออว่ะ แล้วผมจะตามมันมาทำไมวะ? ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน "คือ.." ผมไม่รู้จะเริ่มยังไง "มึงไม่ได้ชอบกูนี่ ไม่ได้เป็นเพื่อนกูด้วย แล้วยังจะมาทำไม?" มันมองหน้าผมด้วยแววตาแบบนั้นอีกแล้ว มันทำให้ผมทนไม่ไหว "แล้วมึงจะทำหน้ายังกับโลกจะแตกทำไมวะ? เพราะกูเหรอ? กูทำให้มึงโกรธเหรอ? ถึงไม่อยากเห็นหน้ากูจนต้องหนีมานั่งนี่" ผมอดถามไม่ได้ "มึงต่างหากที่โกรธกู มึงเห็นหน้ากูแล้วมึงก็เดินหนี" นภัทรเถียงกลับด้วยสายตาตัดพ้อจนผมชะงัก ผมไม่ชอบแววตาแบบนี้เลย มันทำให้ผมรู้สึกผิด ทั้งที่ผมไม่ได้ทำอะไรผิด "กูไม่ได้โกรธมึงสักหน่อย แต่เรื่องที่จะให้กูเป็นแฟนมึงน่ะ กูทำไม่ได้ แต่ถ้าเป็นแค่เพื่อนกูก็ไม่ได้ว่าอะไร" ผมตอบแบบแบ่งรับแบ่งสู้ "มึงไม่ได้โกรธกูจริงดิ?" มันถามผมด้วยสีหน้าไม่แน่ใจ "เออ ไม่โกรธ กูหิวแลัว กลับไปทำสเต็กให้กูกินเลย ไอ้ขี้งอน" ผมบอกมัน นภัทรยิ้มกว้างออกมา แววตามันกลับมาแพรวพราวเหมือนเดิม มันลุกแล้วเดินเข้ามาหาผมก่อนจะดึงผมเข้าไปกอดแล้วกดปากลงมาหาตอนผมไม่ทันระวัง ขุ่นพระ!! ผมโดนผู้ชายจูบ!! ผมรีบยกแขนดันอกมันออก แต่มันไม่ขยับสักนิด มือมันโอบท้ายทอยผมดันหน้าผมขึ้นและบังคับส่งลิ้นเข้ามาในปากผม มันตวัดลิ้นผมไปดูดและควานไปจนทั่วปากจนผมเคลิ้มตาม โอยยย มันจูบเก่งอะไรแบบนี้วะ ใจผมเต้นเป็นจังหวะแร็พแล้วตอนนี้ ผมตาลอยตัวอ่อนอยู่ในวงแขนมันเรียบร้อย นานเท่าไหร่ไม่รู้ ที่มันยอมถอนปากกับลิ้นออกและปล่อยผมเป็นอิสระ "ขอบใจว่ะคิม กูจะไม่บังคับมึงเป็นแฟนกูหรอก เป็นแค่เพื่อนก็ได้ แต่สักวันกูจะทำให้มึงยอมเป็นแฟนกูให้ได้" มันประคองหน้าผมที่ยังอึ้งแล้วกดปากลงมาอีกครั้ง ปากมันบดลงมาที่ปากผมแล้วงับเม้มอย่างเอาแต่ใจ ก่อนจะสอดลิ้นเข้ามาอีกจนผมแทบจะเคลิ้มไปอีกรอบ สติครับ สติกูอยู่หนายยย "อื้ออ.. พอได้แล้วเว้ย!!" ผมผลักมันออกจนได้ ไอ้นภัทรแลบลิ้นตามอย่างเสียดาย สายตามันมองผมอย่างงอน ๆ ที่ผมขัดใจมัน "กูยอมให้มึงเป็นเพื่อนกูได้ แต่ไม่ได้บอกให้มึงจูบกูได้นะไอ้ภัทร!" ผมด่ามัน "ทำไมอ่ะ เป็นเพื่อนแล้วจูบไม่ได้เหรอ?" "ไม่ได้เว้ย! เพื่อนที่ไหนเขาจูบกันวะ!" ผมเอ็ดมัน มันมองผมด้วยสายตาตัดพ้อออดอ้อน โอยยย ผมจะบ้าตาย ทำไมผมรู้สึกหน้าร้อนวูบวาบแบบนี้วะ ใจมันหวิว ๆ จนไม่กล้าสบสายตามัน นี่ผมกำลังเขินมันอยู่ใช่มั้ย ไม่จริงน่า ผมปฏิเสธตัวเองแรง แต่ตอนนี้ผมทำอะไรไม่ถูกแล้ว ไม่อยากมองหน้ามัน ไม่อยากสบตามัน อยากเดินหนีไปจากที่นี่ แต่ขาผมมันดันพยศซะงั้น "คิม ไม่สบายป่าว? ทำไมหน้าแดงแบบนั้น" ไอ้นภัทรมันเรียกผมดัวยเสียงอ่อนโยนจนผมหวั่นไหว แถมมันเอามือมาจับหน้าผากผมดัวย "กูสบายดี" ผมปัดมือมันออก แต่นภัทรกลับจับมือผมไว้แล้วดึงไปจูบกลางฝ่ามือ อ๊ากกก อย่าทำแบบนี้สิวะ กูหัวใจจะวายตาย มึงกำลังทำให้กูเขิน ใจกูเต้นแทบจะทะลุออกมานอกอกแล้วเนี่ย!! ผมได้แต่โวยวายในใจ ร่างกายผมมันพยศผมไปแล้ว ปากผมไม่ขยับ ด่ามัน มือก็ไม่สะบัดหนี ขาก็ไม่ก้าว แถมใจก็ไม่ยอมสงบ ผมเป็นอะไรไปแล้วเนี่ย ผมกำลังจะสูญเสียความเป็นตัวตนของผมแล้ว "พี่ภัทร" เสียงตะโกนเรียกดังมาจนผมสะดุ้งและดึงสติกลับมาอยู่กับตัวจนครบ "อะไรไอ้แบงค์?" นภัทรตอบกลับด้วยเสียงขุ่นและไม่พอใจ "กลับบูธได้แล้วพี่ สเต็กกับสลัดของเราหมดแล้ว ผมย่างเนื้อให้หมดแล้วด้วย ขาดแต่น้ำเกรวี่ พี่กลับไปทำเลย" นภัทรจิ๊ปากดัวยความหงุดหงิด "เออ มึงกลับไปก่อน เดี๋ยวกูตามไป" นภัทรไล่ลูกน้อง "รีบตามมานะพี่" เขารับคำแล้วหันหลังเดินกลับ "ขอบใจนะที่ยอมเป็นเพื่อนกู กลับกันเถอะ เดี๋ยวกูทำสเต็กสูตรพิเศษให้กิน" มันว่าแล้วก้มลงจูบผมอีกที ก่อนจะดึงมือผมให้เดินตามมันกลับไป ผมขัดขืนมันไม่ได้เลย นี่ผมเสียท่าให้มันแล้วใช่มั้ยคุณผู้โชมมมม พอกลับไปถึงบูธ มันก็จับผมนั่งที่โต๊ะด้านหลัง ก่อนจะทำน้ำเกรวี่ให้ลูกน้องเอาไปจัดใส่จานจนครบ จากนั้นก็เอาเนื้อมาย่างให้ผม ทำน้ำเกรวี่ราด และทำเครื่องเคียงใหม่จัดใส่จานให้ผมท่ามกลางสายตาสงสัยของลูกน้องอีก 3 คนที่มองหน้ากันไปมาแล้วกระซิบกันเบา ๆ ในทำนองว่าไอ้คนเซอร์ ๆ เถื่อน ๆ นี่มันเป็นใครวะ? ทำไมมากับลูกพี่แสนเท่ของพวกมันได้ ไอ้นภัทรมันเท่จริง ๆ เมื่ออยู่ในชุดเชฟ มันไม่ใส่หมวกขาวแบบเชฟคนอื่นชอบใส่ แต่มันคาดผมด้วยที่คาดผมสีแดง ใบหน้าที่จริงจังในตอนทำอาหารหน้าเตาไฟ มือที่สะบัดกระทะทำพาสต้า และนิ้วที่โรยเครื่องปรุง มันดูเท่โคตร ๆ ห๊ะ! นี่ผมมองมันจนเพลินได้ยังไงเนี่ย ผมเป็นผู้ชายนะ ทำไมถึงปลื้มไอ้นภัทรผู้ชายเพี้ยน ๆ แถมหื่นแบบนั้นได้วะ? ผมมองมันไปด้วย กินสเต็กแสนอร่อยไปด้วย หลังส่งพาสต้าให้สาวน้อยที่มาขอแล้ว นภัทรก็ปาดเหงื่อแล้วมองมาที่ผม สายตามันทำผมใจเต้นหน้าร้อนวูบวาบอีกแล้ว มันเป็นปีศาจหรือไงวะ ถึงสะกดผมดีจัง "เอ่อ.. พี่ภัทรครับ" ลูกน้องคนหนึ่งเลียบ ๆ เคียง ๆ เข้ามาใกล้นภัทร "คือ.. นั่นใครครับ?" เขาชี้มาที่ผม และนภัทรก็ยิ้มกว้าง "คนนี้ชื่อ คิม ว่าที่แฟนกู" มันตอบอย่างภูมิใจมาก "ไม่ใช่เว้ย! แค่เพื่อน!" ผมรีบแก้ "อีกหน่อยก็เป็นแฟนละ ตอนนี้กำลังจีบอยู่" ดูมันตอบสิครับ "ไม่ใช่แฟนเว้ย!!" ผมท้วงแรง แต่เหมือนจะไม่มีใครสนใจเสียงผม จนผมเลิกท้วง ทุกคนหัวเราะและแสดงความยินดีกับลูกพี่มันกันใหญ่ "แหม~ พี่คิมครับ รับรักพี่ภัทรเถอะ ทั้งหล่อ ทั้งเท่ แถมทำอาหารเก่งด้วย เขาเป็นเชฟมือหนึ่งบองร้านเลอเซียเรสต์เลยนะครับ" ไอ้คนชื่อแบงค์ยุผม "อ๋อ คนนี้ใช่ไหมครับ? ที่ทำให้พี่ภัทรกินไม่ได้นอนไม่หลับขาดงานไป 3 วันจนคุณแพรต้องไปตามถึงคอนโด" "แบบนี้เอง ถึงว่า พี่ภัทรไม่เคยสนใจสาว ๆ ที่มาอ่อยเลย ที่แท้ก็มีแฟนแล้ว น่าจะพามาเปิดตัวนานแล้วนะเนี่ย" "บอกว่าไม่ใช่แฟนไงวะ แค่เพื่อนน่ะ เพื่อน!! เข้าใจกันป่ะวะ!" ผมเริ่มหงุดหงิดละเนี่ย "เลิกแซวเถอะ พี่คิมอายจนหน้าแดงแล้ว" มันยืนอมยิ้มมองมาที่ผมอย่างน่าหมั่นไส้ "ชิ! กูกลับละ" ผมลุกจากโต๊ะแล้วเดินออกจากบูธมัน "เดี๋ยวสิคิม" ไอ้นภัทรรีบเข้ามาหาผม "ทำไมอีกวะ?" ผมมองมันอย่างเคือง ๆ "ขอเบอร์หน่อยสิ จะได้โทรหา" มันยิ้มหวาน ผมหมั่นไส้รอยยิ้มนั่นจริง ๆ "ไม่ว่ะ" ผมตอบอย่างไร้เยื่อใย "ได้ไงวะ? มึงเป็นว่าที่แฟนกูนะ มึงต้องให้เบอร์กูสิ แล้วกูจะโทรหานะ" ดุไอ้นภัทรมันออดอ้อนผมสุดฤทธิ์ ผมก็เลี่ยงสุดฤทธิ์เหมือนกัน "กูไม่ได้เอามือถือมา จำเบอร์ไม่ได้ กูความจำสั้น" ผมมั่ว "อย่ามาแหล กูเห็นมือถือมึงยัดในกระเป๋ากางเกง งั้นกูล้วงเองก็ได้" มันดึงผมหันหลังแล้วล็อคตัวไว้ ก่อนจะสอดมือลงในกระเป๋ากางเกงผม "เฮ้ย! ไอ้นภัทร หยุดนะมึง!!" ผมศอกใส่ตัวมันแล้วเหยียบเท้ามันอีกทีจนหลุดออกมา และมือถือผมก็ปลอดภัย "พี่คิม!! เล่นอะไรอยู่วะ? กลับได้แล้ว" ไอ้สันต์ตะโกนแล้ววิ่งมาหา "ไม่มีอะไร รีบกลับกันเถอะ" ผมได้โอกาสชิ่ง รีบกอดคอน้องชายแล้วเดินกลับ แต่ก่อนไปผมหันไปมองหน้าไอ้นภัทรแล้วยักคิ้วยั่วพร้อมแลบลิ้นใส่ทีหนึ่ง และมองหน้าหงุดหงิดของมันด้วยความสะใจ -------------------------
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม