@เช้าวันต่อมา
@บริษัทลอฟท์
รูปร่างสูงใหญ่สวมสูทสีเข้มดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้า เดินเข้ามายังที่ทำงานของตัวเอง ในสถานที่ปลอดภัยแบบนี้มีเพียงมาตินและลูกน้องอีกสองคนเท่านั้นเดินขึ้นลิฟต์มาด้วยกัน
ส่วนคนที่เหลือนั้นรออยู่บริเวณด้านนอก เรียกว่าล้อมรอบบริษัทเป็นหน้าที่ประจำ และมักเห็นทุกครั้งเวลาที่ลอฟท์เข้าบริษัทมาเคลียร์งาน
พอลิฟต์ขึ้นมาถึงชั้นบนสุดก็เจอว่าเลขาตัวเองนั่งทำงานอยู่หน้าห้องในช่วงบ่ายโมงครึ่ง
"สบายดีนะครับคุณเทวา" ทักทายเลขาส่วนตัวอายุมากกว่าอย่างเป็นกันเอง
เทวาที่ไม่ทันได้สังเกตลุกขึ้นยืนทำความเคารพอย่างไว ก่อนเดินถือแฟ้มงานตามหลังเจ้านายและมือขวาเข้าไปด้านใน
นำแฟ้มเอกสารวางลงให้แล้วรายงานข้อมูลเพิ่มเติมจากเอกสารแต่ละหน้าที่เจ้านายเปิดอ่าน ก่อนปล่อยให้อีกฝ่ายได้นั่งพิจารณา หากเซ็นเสร็จเรียบร้อยมาตินก็จะนำออกไปให้เทวาต่ออีกทอด
แฟ้มในมือถูกปิดลงไปในเวลาไม่ถึงยี่สิบนาที ก่อนจะยื่นให้มาติน จากนั้นเปิดโน๊ตบุ๊คแล้วนั่งทำงานต่ออย่างเงียบๆ พร้อมกับมาตินที่ถอยออกไปรออยู่ด้านนอกจนกว่าอีกฝ่ายจะเรียก
ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงก็เห็นผู้ดำรงตำแหน่งสูงสุดในบริษัทเดินออกมาแล้ว รีบแบบนี้แสดงว่ามีงานนอกเหนือจากงานในตารางอย่างแน่นอน
มาตินเดินตามหลังเจ้านายไปติดๆ เข้าไปในลิฟต์แล้วไปยืนกุมมืออยู่ด้านหลัง เขยิบเข้ามาใกล้นิดหนึ่งจึงกระซิบถาม
"ไปไหนต่อเหรอครับนาย"
ลอฟท์ไม่ตอบ ทำเพียงกระตุกยิ้มมุมปาก พอขึ้นรถได้ก็บอกมาตินไปที่ห้างสรรพสินค้าเพื่อไปเอาจิวเวลรี่ที่สั่งทำ
"นายจะซื้อสร้อยไปให้ใครเหรอครับ" เมื่อเดินเข้ามาในร้านจิวเวลรี่กันแล้วมาตินขมวดคิ้วงุนงง เพราะไม่เคยเห็นเจ้านายเอ่ยมาก่อน
"ซื้อไปให้สาวสวย.."
ลอฟท์ตอบแค่นั้นก่อนควักบัตรจ่ายแล้วรับถุงเครื่องประดับมาถือเอง ก่อนเดินไปยังร้านดอกไม้ต่อ
เลือกได้เป็นกุหลาบสีขาวสดสวยเหมือนกันทุกดอกไร้ตำหนิให้เห็น ก่อนให้มาตินขับรถไปที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง วันปัจฉิมนิเทศแบบนี้มีใครบางคนเรียนจบแล้ว และสถาบันดังกำลังจัดงานอำลาให้นักเรียน
ลอฟท์เดินเข้าไปในกลุ่มคนหมู่มากหาผู้ที่เป็นเป้าสายตาตั้งแต่ลงรถมา
พฤติกรรมของผู้คนราวยี่สิบชีวิตที่แปลกตาทำให้ทั้งนักเรียนและครูอาจารย์ในโรงเรียนนี้ต่างฮือฮา ก่อนที่ลอฟท์จะเดินไปหยุดลงตรงหน้าเด็กผู้หญิงผิวขาวอมชมพูใบหน้าจิ้มลิ้มมีความสูงเพียงหน้าอก ลอฟท์เอ่ยอย่างสนิทสนม "ยินดีด้วยนะสาวน้อย"
คนที่รับดอกไม้ช่อโตมาถือเอาไว้ในมือ พร้อมด้วยถุงของขวัญที่เปิดดูแล้วเห็นเป็นกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงิน ต้องเป็นสร้อยคอหรือสร้อยข้อมือ หรือไม่ก็นาฬิกาแน่ๆ
ยิ้มดี๊ด๊าดีใจ ยกมือไหว้ขอบคุณอีกครั้งแล้วหอมแก้มอีกฝ่ายซ้ายขวา ก่อนที่ทั้งสองคนโผเข้ากอดกัน "หนูนึกว่าคุณจะไม่มาแล้วค่ะ" คนตัวเล็กเอ่ยน้ำเสียงอู้อี้ชิดอกอุ่นอย่างคิดถึงที่สุด
"มือหนาวางลงบนผมนุ่มที่ถูกรวบขึ้นเป็นหางม้าก่อนจะกดจูบลงที่หน้าผากแผ่วเบา "ไม่มาได้ไงคนสำคัญขนาดนี้"
"ขอบคุณค่ะ แต่หนูต้องไปแล้วค่ะอาจารย์เรียกแถวแล้ว" เมื่อได้ยินเสียงเรียกกลับเข้าห้องประชุม ทั้งเสียดายทั้งต้องรีบไปตามๆ กัน
"เอาไว้เดี๋ยวพาไปดินเนอร์สองคนสักมื้อ แล้วค้างที่คอนโดสักคืนด้วยเลยดีมั้ยคะ" เอ่ยแล้วขยิบตาให้ไปอย่างมีเลศนัย
คนตัวเล็กพยักหน้ารัวๆ พร้อมรอยยิ้มหวานสดใส รีบเดินไวเพราะเพื่อนไปกันหมดแล้ว มิวายก่อนเข้าห้องประชุมยังหันมาโบกมือลาให้เขาแล้วทำท่าโอบกอดดอกไม้ช่อโตในมือแล้วหันหลังให้หายลับไป
ใบหน้าเปื้อนยิ้มอารมณ์ดี พาตัวเองเดินกลับมาที่รถให้มาตินขับกลับคอนโด ทันทีที่สะโพกแตะโซฟาก็ถามถึงเรื่องที่ให้ไปทำ
"พลอยไพลินเป็นยังไงบ้าง ผู้จัดการเธอติดต่อมาบ้างหรือเปล่า" ปลดกระดุมคอเสื้อเม็ดบนลงแล้วพับแขนเสื้อขึ้นเล็กน้อย ยื่นมือไปรับแก้วน้ำเปล่าเย็นๆ ที่ลูกน้องรีบเอามาเสิร์ฟให้ขึ้นดื่ม เรียกความสดชื่นจากอากาศที่ร้อนอบอ้าวภายนอกให้กลับมาเย็นลงได้
"ไม่เลยครับ เงียบมาก..แต่ผมให้คนเฝ้าดูทั้งที่คอนโดผู้จัดการและคุณพลอยไพลินตลอดเลยนะครับว่าทั้งสองคนมีความเคลื่อนไหวอย่างไร แต่เท่าที่รับรู้ได้ก็คือตั้งแต่เมื่อวานยังไม่มีใครลงมาจากคอนโดสักคนเลยครับ"
"งั้นเหรอ.." หรือบางทีเธออาจไม่มีงานก็ได้จึงได้เก็บตัวอยู่แต่ในห้อง "งั้นรอก่อน ไม่เป็นไร" เขาให้เวลาเธอถึงสองทุ่ม หากหลังจากนั้นแล้วพลอยไพลินยังไม่สามารถให้คำตอบว่าเธอจะชดใช้เงินหรือรับข้อเสนอของเขาอย่างไร เขาจะเป็นฝ่ายเลือกให้เธอเอง
ตกเย็นมีสายโทรเข้าจากมาติน พอเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพลอยไพลินลอฟท์ใจชื้นขึ้นเล็กน้อย
"ว่า.." คนที่กำลังนอนบนโซฟาดูหนังดังต่างประเทศผ่านทีวีจอใหญ่ตรงหน้ารอฟังด้วยท่าทีสบายๆ
(ลูกน้องเราบอกว่าเห็นคุณพลอยไพลินเดินลงมาเอาของด้านล่างครับ)
"หมายถึง?"
(ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ จะว่าเธอสั่งของกินก็ไม่น่าใช่ เพราะผมเห็นถุงกระดาษหลายใบคล้ายๆ ว่าเธอไปช็อปปิ้ง แต่ลูกน้องเราบอกว่าตามจริงเธอยังไม่เคยลงมาเลยจะไปช็อปปิ้งได้อย่างไร)
ลอฟท์นิ่งคิด พลอยไพลินกำลังทำอะไร ช็อปปิ้งงั้นเหรอ ช็อปปิ้งออนไลน์มั้ย "เธอสั่งของทางออนไลน์หรือเปล่ามาติน"
(ตามจริงผมก็คิดว่าอย่างนั้นครับถ้าไม่ใช่ว่าเป็นผู้จัดการของเธอที่เอามาส่งเอง)
ถึงมาตินจะบอกแบบนั้นแต่เขาก็ยังไม่เห็นว่าจะมีอะไรแปลกไปเลย
(แล้วก็ยื่นการ์ดอะไรให้กันก็ไม่รู้ครับ)
"การ์ดงั้นเหรอ"
(ครับนาย แต่ผมก็ให้ลูกน้องดูต่อไปจนกว่าจะถึงสองทุ่มอย่างที่นายบอกครับ)
"อืม งั้นให้เฝ้าไปก่อน" หากสองทุ่มพลอยไพลินยังไม่ติดต่อมาหาลูกน้อง เขานี่แหละจะเป็นฝ่ายไปหาเธอเอง
@ตอนเย็น
พลอยไพลินพาตัวเองแช่ตัวในอ่างอาบน้ำ ระหว่างนั้นคิดทบทวนว่าที่ตัวเองทำมันถูกต้องแล้วใช่ไหม บางทีเธอควรยอมรับข้อเสนอของเขาง่ายๆ ด้วยการยอมเป็นคู่นอนของเขาตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนเต็ม แล้วรับเงินมาเป็นอันว่าจบลงไป
แต่แล้วทำไมเธอต้องยอมให้เขาทำเรื่องบ้าๆ แบบนี้ด้วยทั้งที่ไม่มีใครเขาทำกัน อีกอย่าง..เขาร้ายนักที่ใช้วิธีเอาเงินก้อนใหญ่มาล่อให้ผู้จัดการเธอเซ็นสัญญา แบบนี้มันไม่ต่างจากต้องการพันธนาการเธอเอาไว้เลยด้วยซ้ำ
เธอไม่อยากเป็นคู่นอนของเขา ไม่ชอบตั้งแต่ที่เขาให้ลูกน้องตามกับผู้จัดการของเธอแทบทุกวันเรื่องเสนอให้ขึ้นเตียง แล้วใครจะยอมคนที่ดูถูกเราได้ทุกวี่ทุกวันจริงไหม
เธอไม่ใช่สินค้าที่เขาจะทำอย่างไรก็ได้ ถ้าเขาชอบซื้อผู้หญิงไปนอนด้วยนัก หรืออยากได้คนที่เป็นดาราก็ไปทาบทามคนอื่นที่เขาเต็มใจ แต่ต้องไม่ใช่คนที่ไม่ต้องการแบบเธอ
รู้ทั้งรู้ว่าเธอไม่เต็มใจแต่ยังจะเอา เขานี่น่ามึนสุดๆ คิดว่าตัวเองรวยจะทำอะไรก็ได้ตามใจ คิดจะใช้เงินฟาดหัวใครง่ายๆ พอหน่ายก็เขี่ยทิ้ง ทำอย่างกับผู้หญิงเขาไม่มีค่ามีความรู้สึก เขามันเห็นแก่ตัวสุดๆ แบบนี้เธอจะไปยอมได้ไง ครั้งเดียวที่เสียรู้เกินพอแล้ว
วันนี้พี่วิบอกให้เธอรู้แล้วว่าไฮโซคนไหนรับข้อเสนอของเธอ
เขาเป็นไฮโซดังระดับประเทศอายุสี่สิบสี่ปีที่เพิ่งเลิกรากับภรรยาไปหมาดๆ เป็นหนุ่มใหญ่ที่ยังไม่แก่มากแถมยังดูดี แต่เขาก็คือเสือผู้หญิงที่มีลูกวัยสองขวบกับภรรยาเก่า
ข้อนี้จึงทำให้พลอยไพลินเริ่มไม่แน่ใจว่ามันผิดมากไหมในเมื่อเธอไม่ได้ทำผิดต่อเมียเขา อีกอย่างทั้งคู่เลิกรากันไปแล้วก่อนหน้า ใช่เธอเป็นสาเหตุให้เขาเลิกกับภรรยาเสียหน่อย
พลอยไพลินอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยเดินออกมาด้วยชุดคลุมสีขาว ซับหน้าให้แห้งด้วยผ้าขนหนูผืนเล็กเบาๆ เพื่อถนอมผิวหน้าไม่ให้เกิดริ้วรอย
พาตัวเองเดินมานั่งลงที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งเพื่อแต่งหน้า เริ่มลงครีมบำรุงทั้งที่เพิ่งอาบน้ำล้างหน้าออกมาหมาดๆ ผิวจะสามารถรับวิตามินจากครีมบำรุงได้ดี
จากนั้นจึงเริ่มลงเป็นรองพื้นบางๆ คืนนี้เธอจะไม่แต่งหน้าจัดอย่างกับไปออกงาน เน้นงานผิวสวยๆ สบายๆ ให้คนที่ว่าจ้างประทับใจ หากว่าคราวหลังเขาจะจ้างเธอต่อคงง่าย
หญิงสาวใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงในการแต่งหน้าและทำผมเอง พลอยไพลินยังคงทำเป็นดัดลอนปล่อยยาวอย่างที่ชื่นชอบ ขั้นตอนสุดท้ายฉีดน้ำแร่เพื่อกักเก็บเครื่องสำอางให้อยู่กับเธอได้นานๆ จนกว่าจะเสร็จมื้อค่ำ จากนั้นเดินไปหยิบชุดที่แขวนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้าขึ้นมาสวมใส่
ชุดเดรสสีดำตัวยาวมีกลิตเตอร์สะท้อนแสงไฟค่อยๆ ถูกสวมลงไปบนร่างกายขาวนวล อวดอกตูมสองข้างครึ่งเต้า มีเพียงสายเดียวเส้นสปาเกตตีทั้งสองฝั่งเล็กๆ คล้องไหล่ เว้าตรงช่วงเอวคอดกิ่วให้เห็นความขาวเนียนเล็กน้อย
ส่วนด้านล่างแหวกข้างขึ้นมาจนถึงโคนขาอ่อน เธอรู้ว่าส่วนไหนบ้างของตัวเองที่มีเสน่ห์หญิงสาวจะเน้นที่ตรงนั้นเป็นหลัก หากเป็นชุดประจำวันพลอยไพลินก็จะชอบใส่กางเกงสั้นๆ กับเสื้อรัดๆ เพราะหน้าอกที่มีขนาดใหญ่เกินตัวและขาเธอสวย
เดินไปสวมรองเท้าส้นสูงสีดำอวดเท้าเปลือยขาวเนียนกับเล็บสีแดงสด ยืนหมุนตัวไปมาที่หน้ากระจกเพื่อดูความเรียบร้อยตั้งแต่หัวจรดเท้า
ด้วยความที่มีรูปร่างและเครื่องหน้าดีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะใส่ชุดไหนพลอยไพลินได้สวยเซ็กซี่มีเสน่ห์เหลือร้ายไปเสียหมด
สุดท้ายหยิบน้ำหอมคู่ใจสำหรับออกงานกลางคืน ฉีดลงเพียงจางๆ พอได้ยินเสียงเคาะประตูก็รีบเดินไปเปิดเมื่อคิดว่าผู้จัดการมารับแล้ว