ตอนที่ 1 (2)

936 คำ
ภาพร่างแน่งน้อยบิดกายไปมาใต้ร่างรบกวนจิตใจ ภีมพลแทบบ้าจะทรมานใจตายก็เพราะความเย้ายวนของหล่อนนี่แหละ เขาพาร่างกายเข้าไปเติมเต็มแน่นทุกจังหวะแช่นิ่งให้หล่อนบีบรัดก่อนขยับอีกครั้ง กระตุ้นให้นางบำเรอตัวน้อยสัมผัสความสุขสมรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ในค่ำคืนนี้ สายตาเขาทอดมองริมฝีปากจิ้มลิ้มเผยอปากขึ้นครวญคราง แฮ่ก... เมียเขาถึงแล้วสินะ คราวนี้ก็ถึงคิวเขาบ้างล่ะ “อา...” เขาคำรามเสียงทุ้ม เร่งจังหวะเร็วมากขึ้น เร็วชนิดที่ว่าสายฝนสายฟ้านอกหน้าต่างก็ไม่สามารถทำให้เขาผละตัวห่างจากอารยาได้ สุดท้ายรีบพาร่างกายออกมาปลดปล่อยบนหน้าท้องแบนราบ “ขอบคุณนะสำหรับของขวัญวันเกิด” ลมหายใจเขาถี่กระชั้น หอบหายใจรุนแรงทิ้งใบหน้าลงซบซอกคอชื้นเหงื่อ ทว่ายังคงความหอมกรุ่น ทรวงอกหล่อนขยับขึ้นลงตามจังหวะการหายใจเร้าอารมณ์เขาให้ลุกโชนอีกครั้ง แต่ก่อนจะได้เริ่มบทรักครั้งใหม่เจ้าของนัยน์ตาแป๋วก็ชิงหลับตาลง “มีความสุขมากๆ นะคะ ขอบคุณมากค่ะที่ชวน... แต่อายต้องทำงานหาเงินใช้” ซึ้งใจที่มารดาเขาชักชวนไปเที่ยวบ้าน อยากไปมากแต่ทำไงได้ล่ะ หล่อนไม่ได้มีเงินถุงเงินถังชีวิตไม่ได้สุขสบายเป็นคุณหนูในบ้านหลังใหญ่อีกแล้ว เหลือตัวเองแค่เพียงลำพังพร้อมกับหนี้สินหลายล้าน ไม่รู้ชาตินี้จะใช้หนี้ภีมพลหมดไหม แต่อารยาจะพยายามใช้หนี้เขาให้หมดจะได้ไปจากชีวิตเขาสักที อยู่แบบนี้ต่อไปไม่ดีเลย ทำตัวใจง่ายนอนเขากับทุกครั้งที่เขาต้องการทั้งที่รู้ว่าเขาไม่จริงจัง แบบนี้มันไม่ไหวนะ “ก็ตามใจ” เขาตอบกลับ พลิกกายลงนอนเคียงข้างดึงผ้าห่มมาคลุมร่างกายท่อนล่างหลับไปทั้งอย่างนั้น อารยาเอี้ยวใบหน้ากลับมามองสงสัยว่าทำไมเขาต้องสะบัดหางเสียงใส่เหมือนโกรธตนเองด้วย เสมองนาฬิกาบนหัวเตียงแสดงเวลาเกือบตีหนึ่ง ให้ตายเถอะ ถ้าพรุ่งนี้ตื่นไปสอบไม่ไหวจะตีเขาให้น่วมเลย สำนักไหนสอนกันว่าก่อนสอบต้องมีเซ็กซ์สมองถึงจะโล่งสอบได้คะแนนดี สำนักภีมน่ะเหรอ มิน่าล่ะถึงไม่มีใครมาขอเรียนด้วย ดีนะที่อ่านหนังสือจนจำได้หมดแล้วไม่งั้นคงสอบตกแน่ๆ “อาภีม... อายก็หนาวนะคะ ห่มคนเดียวได้ไง” อารยาประท้วงงึมงำ ส่งมือเล็กไปยื้อแย่งผ้าห่มจากคนตัวโตมาห่มบ้าง ขยับกายเข้ากอดแผ่นหลังเขาซุกกายเปล่าเปลือย กอดซะแน่นนอนหลับอย่างมีความสุข เช้าวันต่อมาอารยาตั้งนาฬิกาปลุกไว้เจ็ดโมงครึ่ง อาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปสอบ มหาวิทยาลัยหล่อนอยู่ใกล้นั่งวินมอเตอร์ไซด์แป๊บเดียวก็ถึงตึกสอบ แวะซื้อขนมปังกับนมจืดกินรองท้องขณะเดินขึ้นบันได ก่อนออกมาภีมพลยังขี้เซานอนไม่ตื่นจึงเขียนโพสต์อิทแปะบนตู้เย็นบอกให้เขาล็อกห้องให้ด้วยแล้วกลับบ้านไปก่อนได้เลย อารยาใช้เวลาสอบราวสองชั่วโมงครึ่งก็เสร็จออกมายืนรอเพื่อนหน้าห้องสอบ ตั้งแต่ครอบครัวล้มละลายก็เหลือเพื่อนอยู่ไม่กี่คน นอกนั้นเหยียดคนจนรวมกลุ่มเลิกคบเลิกคุยกับหล่อน ฟ้าใส สาวโคราชนิสัยดีเป็นคนเดียวที่คอยให้ความช่วยเหลืออารยา คอยเก็บชีทเรียนคอยบอกการบ้านทุกครั้งที่หล่อนมาเรียนไม่ได้ เวลาลำบากช่วงแรกที่ต้องขายบ้านไม่มีที่อยู่ ฟ้าใสก็ชวนไปพักด้วยกัน ช่วงก่อนอารยาอยู่คนละกลุ่มกับฟ้าใสจึงเพิ่งมาสนิทกันตอนนี้ “วันนี้ฟ้าว่าจะกลับหอไปเก็บกระเป๋า แล้วไปหมอชิตรอรถกลับบ้าน แล้วอายล่ะปิดเทอมนี้จะทำอะไร” ลิฟต์คนรอเยอะทั้งสองจึงเดินลงบันได หกชั้นสบายมากโชคดีวันนี้สองสาวใส่คัทชูส้นเตี้ยมาสอบ “ว่าจะทำงานพิเศษน่ะจ้ะ สองสามวันก่อนไปสมัครไว้หลายร้านเลยแต่ยังไม่มีร้านไหนตอบกลับมา” บอกเล่าให้ฟ้าใสฟัง “เสียดายจัง ฟ้าว่าจะชวนไปเที่ยวบ้าน” บ้านของฟ้าใสทำรีสอร์ทอยู่โคราชเป็นธุรกิจของครอบครัว แต่ดื้ออยากมาเรียนกรุงเทพก็เลยต้องใช้จ่ายอย่างประหยัดจึงพลอยถูกเพื่อนฐานะรวยชอบเหยียดรุมแบนไม่มาคบ อารยาเองก็อยู่ในกลุ่มของสาวสวยพวกนั้นแต่นิสัยไม่เหยียดคนอื่น ดีกับหล่อนตลอดสามปีที่เรียนด้วยกันฉะนั้นฟ้าใสจึงแอบปลื้ม “เมื่อวานก็มีคนชวนไปเที่ยวโคราชเหมือนกัน แต่ติดตรงที่อายต้องทำงาน” โอกาสดีมีมาไม่บ่อย หลุดจากครั้งนี้คาดว่าภีมพลคงไม่ชวนหล่อนไปไหนมาไหนอีกแน่นอน เสียดายแต่ก็ทำใจไม่ให้เสียใจ “หูย น่าเสียดายอะ ฟ้าอยากให้อายไปเที่ยวบ้านฟ้า ช่วงนี้เข้าหน้าหนาวแล้วอากาศดีสุดๆ เลยแหละ” เคยอัพเดทรูปคู่อารยาลงเฟซบุ๊ก พี่ชายแชทมาถามแทบจะในทันทีอยากรู้จักสาวสวย ฟ้าใสเองก็ชอบอารยาถ้าพี่ชายสุดหล่อคิดจะจีบจริงก็เชียร์สุดหัวใจน่ารักซะขนาดนี้ “ขอบใจที่ชวนนะ ไว้ถ้ามีโอกาสจะไปเที่ยวแน่นอนจ้ะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม