“ฉันว่าเสียตัว ยังดีกว่าตายนะ ตายยังไม่รู้ว่าจะไปนรกหรือสวรรค์ แต่เสียตัว สวรรค์แน่แก”
ฉันได้ยินแบบนั้นก็หน้าร้อนผ่าว ฟาดเข้าที่แขนเพื่อนสนิท ‘เพียะ’
“บ้ามะนาว! แกนี่ลามกเหมือนกันนะ”
“ฉันพูดความจริง ส่วนเรื่องศพแกรอดูสิ ว่ามีใครมาติดต่อรับศพไหม ถ้าไม่มีญาติ ฉันเห็นมานักต่อนัก ตำรวจชอบปล่อยเรื่องเงียบไม่ทำคดี และสุดท้ายศพก็ถูกมูลนิธิย้ายไปสุสานศพไร้ญาติ”
ก็จริง ไม่ใช่แค่มะนาวเห็นหรือรู้หรอก ฉันเรียนหมอมาตั้งนานก็พอจะได้ยินมาบ้าง ว่าแต่ลีอองเขาฆ่าผู้ชายคนนี้ทำไมนะอริทางธุรกิจหรือเปล่า แต่ถ้าผู้ชายคนนั้นเขาไม่ได้ทำอะไรให้ และลีอองฆ่าคนบริสุทธิ์ ฉันเองก็หนักใจเหมือนกันนะ
ที่เอาวิชาชีพอันสูงส่งมาบิดเบือนความยุติธรรมให้คนตายแบบนี้
เบื่อลีอองจัง นาน ๆ คุยกันแท้ ๆ ยังมิวายหาเรื่องลำบากใจมาให้ฉันอีก
“แกๆ อย่าเพิ่งทำหน้าซังกะตาย เนี่ยอาจารย์เปิดคอร์สสอน Sexual Medicine ที่มหาลัยพรุ่งนี้” ฉันท้าวคางที่โต๊ะม้าหินอ่อน และพยักหน้าหงึก ๆ ตาม เพราะไอ้ Sexual Medicine (เวชศาสตร์เพศสัมพันธ์ หรือเวชศาสตร์ทางเพศ) ฉันก็ได้ยินอาจารย์เปิดคอร์สสอนบ่อยอยู่แล้ว
“อืม ๆ แล้วไง”
“ฉันลงชื่อให้แกแล้วนะ See You Tomorrow บ้าย…”
“ห๊ะ! อะไรนะ! แกว่าไงนะ!” ฉันสติหลุดออกมาจากเรื่องที่คิดอยู่ทันที ก่อนที่จะหันไปกวักมือเรียกเพื่อนสนิท ที่หอบกระเป๋าแนบอกลุกขึ้น และรีบโบกมือรัว ๆ บ้ายบายฉัน
“ก็สมัครให้ไง พรุ่งนี้เราว่างไม่ใช่เหรอ? สิบโมงนะเจอกันที่หน้ามหาลัยนะแก จุ๊บ ๆ”
“ไม่ ฉันไม่อบรมนะมะนาว!”
“ไม่ทันแล้ว แบร่!” วันนี้มันวันบ้าอะไรเนี่ย หลังจากมะนาวทิ้งฉันไป ฉันก็นั่งยีหัวตัวเองรัว ๆ ทันที เหนื่อยกับงาน เหนื่อยกับคนบ้า แล้วยังมาเหนื่อยกับการทำอะไรไม่ปรึกษาของเพื่อนตัวเองอีก
เกิดเป็นนังอันติง มันไม่ได้สบายอย่างที่คิด!
See You Tomorrow คำนี้หลอกหลอนฉันทั้งคืน จนเช้าวันต่อมาฉันต้องลากตัวเองมาที่มหาลัยเพื่ออบรมคอร์สที่ไม่เต็มใจนี้ และฉันก็มาภายใต้ความสงสัยของพ่อกับแม่ วันหยุดแท้ ๆ ฉันจะเรียนอะไรนักหนา? แต่ไว้เดี๋ยวจะแนะนำพ่อแม่ และครอบครัวให้รู้จักอย่างเป็นทางการนะ
ขอฉันเล่าเรื่องเพื่อนสนิทตัวดีที่ลากฉันมาอบรมคอร์สนี้ก่อน เพราะทันทีที่เข้ามาในห้องฉันก็เห็นเธอตั้งดิลโด้สุญญากาศแหมะ! ชี้โด่เด่ตระหง่านที่โต๊ะเลคเชอร์ของฉัน
ทาดา! Sexual Medicine ที่เจอบทแรกก็คือ Penis massage การนวดอวัยวะเพศชาย
“นักศึกษาเห็นอวัยวะเพศชายตรงหน้ามั้ยคะ?” เห็น... เต็มตาเลยค่ะ
“ลองจับดูสิคะ นักศึกษาคงรู้นะคะ ว่าเส้นประสาทสัมผัสของอวัยวะเพศชายอยู่ตรงไหน” ฉันยังไม่หายตกตะลึงเลยคุณพระ อาจารย์ก็ให้ฉันสัมผัสมันซะแล้ว จนฉันค่อย ๆ วางปากกาลง ยกมือขึ้นช้า ๆ ก่อนจะกำหมับที่ดิลโด้สีเนื้ออมชมพูบนโต๊ะ และบอกเลยนะ ทันทีที่จับมันเต็มมือ
ภาพเมื่อวานที่ลีอองมัดจำน้องชายกับฉัน มันก็เด้งพรึบขึ้นมาเป็นฉาก ๆ
ฉากหนึ่ง หน้าหล่อ ๆ ของเขาที่ยิ้มเยาะ
ฉากสอง ความรู้สึกที่ฉันสัมผัสนวลน้องของเขาเต็ม ๆ มือ
โอ้โห... ฉันรู้เลย ว่ามันใหญ่โตกว่าดิลโด้นี้อีก!
“อะแฮ่ม ปากบอกไม่อยากมา แต่มือจับจู๋ไม่ปล่อยเลยนะ” มะนาวแซวฉัน แถมตอนนี้เธอยังใช้นิ้วจิ้มดิลโด้ของตัวเองบนโต๊ะ เล่น ดึ๋ง ๆ ด้วย
เป็นภาพที่ทุเรศจริง ๆ เด็ก ๆ อย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่างนะคะ
“ยัยบ้ามะนาว เลิกเล่นสักที ฟังอาจารย์”
“แหม ทีนี้ล่ะสนใจเชียว อิอิ”
“ความรู้จ้ะความรู้”
“เอาล่ะ นักศึกษาคะ การนวดอวัยวะเพศชายนั้นมีข้อดีหลายอย่าง เพราะมันจะทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ข้อดีคือ หนึ่ง มีขนาดใหญ่ขึ้นโดยธรรมชาติ สอง ชะลอการหลั่ง และอีกอย่างคือนวดแบบ Erotic Massage นวดเพื่อความรื่นรมย์ให้ผู้ชาย อันนี้ข้อดีคือ ได้ความประทับใจจากคู่นอนล้วน ๆ ค่ะ”
ฉันพยักหน้าตาม แล้วจ้องมองดิลโด้ที่ตะหง่านตรงหน้า ส่วนมือก็สัมผัสมันช้า ๆ รอจังหวะอาจารย์สอนต่อ
“วิธีการนวดนะคะ ใช้น้ำมันหล่อลื่นทาที่มือนิดหน่อย หลังจากนั้น แบมือสองข้างขนาบอวัยวะเพศ ลูบขึ้น ลูบลงเบา ๆ ช้า ๆ ให้ความอุ่นของมือเราสัมผัสมัน” ฉันทำตามไป และกลืนน้ำลายดังอึก ถึงแม้จะขนลุกทุกครั้งที่ได้เห็นปลายยอดมน ๆ สีชมพู แต่มันก็อดจ้องมองไม่ได้
“ค่ะ จากนั้น หลังจากอวัยวะเพศแข็งตัวเต็มที่ คลึงไล้ค่ะนักศึกษา ใช้ฝ่ามือสองข้างประกบคลึงเป็นวงกลมช้า ๆ จากนั้นใช้มือรวบเลยค่ะ แล้วก็บีบเบา ๆ เป็นจังหวะ ให้เลือดมันไหลเวียน”
เมื่อฉันหันไปมองมะนาวแว๊บนึงเห็นรายนั้นบีบเป็นว่าเล่น ก็ทำตามทันที ถึงหน้าจะร้อนผ่าวเขินนิด ๆ แต่นึกถึงของจริงที่ได้ทำกับใครสักคน ก็ได้อารมณ์ดีนะ
แล้วอาจารย์ก็สอนต่อเรื่อย ๆ ถึงการใช้นิ้วเป็นวงกลมรูดบิดรูดลง ตลอดจนการสโตรค คือรูดมันขึ้นลงรัว ๆ นั่นแหละ
ให้ตายเถอะลึกซึ้งมาก หลังจากนั้นไม่พอนะอาจารย์ยังสอนการค้นหาจุดกระตุ้นอารมณ์และความรู้สึกทางเพศอีกด้วย
จบคอร์สนี้ไม่ต้องเดา ว่าทั้งทฤษฎีและปฏิบัติมันอัดแน่นในหัวฉันแค่ไหน เหลือแต่ของจริงเนี่ยแหละที่ไม่รู้จะลองมันเมื่อไหร่ และถ้าเป็นของผู้ชายจริง ๆ มันคงอุ่น ๆ สยิวกิ้วแน่ ๆ
“รู้สึกดีจัง ความรู้เต็มหัวฉันเลย” ทันทีที่เดินออกมาจากห้องอบรม มะนาวก็ยิ้มร่ามีความสุข ส่วนฉันยังอึ้งกับดิลโด้ที่อาจารย์เอามาสอนไม่หาย จะว่าติดใจก็ไม่ใช่ แต่บทเรียนนี้สัมผัสนี้ฉันคงจำขึ้นใจเพราะสักวันฉันต้องได้เอาไปใช้แน่ ๆ
“ฉันด้วย แต่ฉันยังงง ๆ อยู่ ว่ามันจำเป็นแค่ไหน” ฉันทำเป็นพูดกลบเกลื่อน เพื่อไม่ให้มะนาวผิดสังเกต ว่าฉันเริ่มอินกับเรื่องอย่างว่าแล้ว
“ว้าย จำเป็นสิจ๊ะ เรื่องแบบนี้เราควรรู้ไว้ รบร้อยชนะร้อย นวดกระปู๋เป็นผัวรักผัวหลงนะ ฮ่า ๆ”
ฉันฟาดแขนมะนาวเพียะ! กับความทะลึ่งของหล่อน พยายามบ่ายเบี่ยงที่จะพูดถึง ก่อนที่จะตัดสินใจควงแขนนั้นออกมาจากมหาลัย และเดินไปขึ้นแท็กซี่ ไปที่ประจำหลังเลิกคลาสของเรา นั่นก็คือห้าง
มะนาวเดินดูเสื้อผ้าเครื่องสำอาง ส่วนฉันพยายามหาชุดนอนน่ารัก ๆ ใหม่ ๆ ใส่ ซึ่งเรื่องช้อปฉันไม่เคยรองใคร คว้าอะไรได้คว้า สอยอะไรได้สอย
เพราะพ่อให้บัตรเครดิตที่ไม่จำกัดวงเงินแค่หนึ่งใบ ฉันก็แทบจะซื้อของในห้างนี้ ได้ทั้งห้างแล้ว แต่มะนาวเธอคิดแล้วคิดอีกเพราะหาเงินมาด้วยตัวเอง รายนั้นถ้าไม่จำเป็นจะไม่ซื้อเด็ดขาด และถึงฉันจะพยายามซื้อให้แค่ไหน เธอก็จะปฏิเสธหัวชนฝา แถมบอกกับฉันว่ายอมขอใช้ตังค์ผู้ชายใช้ดีกว่าใช้ตังค์เพื่อน
“ตัวนี้ดีไซน์เก๋ซีทรูเบา ๆ นี่ ๆ แกไม่คิดจะเปลี่ยนสไตล์การแต่งตัวบ้างเหรออันติง?” มะนาวหยิบชุดเดรสบาง ๆ สีดำมาทาบตัวฉัน
ซึ่งแค่สี มันก็ไม่เข้ากับฉันแล้ว ฉันชอบเสื้อผ้าสีสว่างมากกว่า เช่นสีขาว สีพาสเทลสบายตา
“ไม่ดีกว่า แกอยากได้มั้ยล่ะ ฉันซื้อให้”
“ไม่เอา ห้ามซื้อของให้ฉันนะ ไม่งั้นฉันโกรธ”
“โอเค ๆ ไม่ซื้อ แล้วนี่แกมีงานต่อมั้ย ว่างทั้งวันใช่มั้ย? ไปดูหนังกัน”
พอฉันถามแบบนั้น มะนาวก็ใช้นิ้วชี้เรียวสวยของเธอ จิ้มที่แก้มตัวเองครุ่นคิด ก่อนจะอมยิ้มและตอบกับฉันว่า…
“อื้ม มีงานนะ แต่ถ้าแกอยากดูก็ได้”
“ไม่เสียงานแกแน่นะ?” ฉันถามทวน เพราะไม่อยากให้เพื่อนมาเสียการเสียงาน เพื่อเอาใจฉัน
“ไม่เสียหรอก ไปเถอะน่า ไปกัน ๆ” แทนที่ฉันจะเป็นคนลากมะนาวขึ้นบันไดเลื่อนไปดูหนัง แต่กลับกันมะนาวเป็นคนลากฉันแทน แต่เมื่อฉันก้าวขาขึ้นบันไดที่มันค่อย ๆ เคลื่อนขึ้น ๆ ชั้นบนเท่านั้นแหละ ระดับพื้นชั้นบนที่ฉันกำลังจะถึงตรงหน้า ก็ทำให้ฉันผู้ชายคนนึงกำลังสะบัดมือไล่ผู้หญิงอยู่ไม่ไกลจากตัวบันไดเลื่อน
เขาคนนั้น สูง ยาว เข่าดี ผู้หญิงก็ตัวเล็กน่ารักจิ้มลิ้มเหมือนหมากระเป๋าแต่เอ๊ะ ผู้ชายพอดูใกล้ ๆ หน้าคุ้น ๆ อีกแล้วนะ
ว้ายนั่นมันอีลีอองนี่! อีคนบ้า! ไหนพี่ติณห์บอกว่าเขาไม่วอแวกับผู้หญิงไง ข่าวมั่วชะมัด
“น่ารำคาญฉิบ ออกไปห่าง ๆ”
“นี่เรามาเดตกันนะคะ แค่จับมือไม่ได้เหรอ” ทันทีที่ถึงปลายทางของบันไดเลื่อน ฉันก็หันขวับมองซ้ายมองขวาก่อนจะถูกมะนาวลากและเดินหลบออกมาไปที่ตารางเวลาหนังแทน
แต่ให้ตายสิมาดูหนังกับสาว ยังมีลูกน้องชุดดำเดินคุ้มกันให้ควัก
“แก... ดูเรื่องอะไรดี” มะนาวกระตุกมือถาม แต่ฉันไม่ได้สนใจ เอาแต่แอบมองลีอองกับผู้หญิงคนนั้น จนได้ยินเขาพูดขึ้นมา
“ฉันไม่ชอบให้ใครแตะต้องตัวฉัน พูดไม่รู้เรื่องรึไง”
“แต่เราเดตกันนะ มันควรจะมีการถูกเนื้อต้องตัวกันบ้าง”
“เลิกพูดว่าเดตสักทีเถอะ เพราะมันไม่ใช่ ฉันแค่อยากลอง แต่ดู ๆ แล้ว เธอมันไม่เหมาะสมเลยสักนิด” ปากร้ายมาก ปกติที่เคยเจอลีอองกับครอบครัว เขาไม่ใช่คนแบบนี้เลย ต่อหน้าผู้ใหญ่เขาจะเงียบขรึมถามคำตอบคำ แต่พอออกนอกบ้าน ดูเมื่อวานที่เขาทำกับฉัน และผู้หญิงคนนี้สิมันคนละเรื่องเลย!
เหอะ ผู้ชายที่เดาอารมณ์ยากแบบนี้ฉันขอห่างดีกว่า น่ากลัวชะมัด