SAENDI TALK.
ประมาณเกือบๆ6โมงเย็นเรากลับมาถึงบ้านแล้วเข้าไปเก็บเสื้อผ้าและของใช้ที่จำเป็นใส่กระเป๋า เราตัดสินใจที่จะหนีไปอยู่ที่อื่นสักพัก โชคดีที่ตอนนี้ไม่มีใครอยู่บ้านไม่งั้นคงต้องมาตอบคำถามดันให้ปวดหัวอีก
และที่หนีไปก็ไม่ใช่ว่ากลัวอีเสี่ยโรคจิตมันจะมาตามมาลากเราไปอีกหรอกนะ อีเสี่ยมันคงไม่มาเสียเวลาอะไรกับเราขนาดนั้น แต่ที่ต้องหนีเพราะเรากลัวว่าน้าจิตมันจะเที่ยวยกเราให้ไปขัดดอกใครต่อใครอีกน่ะสิ คงไม่ได้มีแค่อีเสี่ยคนเดียวแน่ๆที่เป็นเจ้าหนี้มัน
เราเก็บของเสร็จกำลังจะออกจากบ้าน แสงดาวก็กลับมาจากโรงเรียนพอดี บอกก่อนว่าเรากับแสงดาวไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่ สำหรับเราอ่ะไม่ได้อะไรกับน้องหรอก ยังไงก็น้อง แต่น้องนี่สิได้เชื้อแม่มันมาเต็มๆ
"จะไปไหนน่ะพี่แสนดี"
แสงดาวเอ่ยถามเราที่กำลังหิ้วกระเป๋าเดินลงบันไดมา
"พี่จะไปอยู่ที่อื่นสักพักน่ะ ช่วงนี้กิจกรรมเยอะไหนจะออกงานอีกมันไปมาลำบาก"
เราโกหกแสงดาวไป แล้วถามมันกลับแทน
"ว่าแต่เราเถอะ ทำไมพึ่งกลับบ้านโรงเรียนเลิกนานแล้วนี่"
คำถามของเราเหมือนไปจี้ถูกจุดของแสงดาวเข้าล่ะมั้ง เพราะมันหันมามองเราตาขวางทันที แถมยังพูดใส่อารมณ์อีกต่างหาก
"ไปทำรายงานบ้านเพื่อนมา พี่จะมายุ่งอะไรกับดาวเนี่ย แม่ก็ไม่ใช่ !"
"ใช่ ! อีดาวน่ะมันลูกกู มึงไม่ต้องสาระแนมายุ่งหรอกอีแสนดี"
แล้วน้าจิตก็โผล่เข้ามา จากที่คิดว่าจะไปเงียบๆก็คงไม่เงียบละ
"ลูกกูน่ะมันเด็กดี ไม่เหมือนมึงหรอก. . ."
น้าจิตมันพูดค้างไว้แค่นั้นแล้วมันก็มองเราไล่ตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างดูถูก ก่อนจะพูดต่อ
"เอาตัวเองยังไม่รอดอย่าสะเออะมาสอนลูกกู"
"แล้วที่หนูเป็นแบบนี้เพราะใครล่ะ !"
ปรี๊ดสิแบบนี้ นี่ถ้าไม่ติดว่าเป็นเมียพ่อกูตบคว่ำไปละ
"มึงอย่ามาเถียงกูนะอีแสนดี ! แล้วนี่มึงกลับมาทำไม คงถูกเขาเขี่ยทิ้งมาล่ะสิ"
". . . ."
เราเงียบไม่ตอบคำถามของน้าจิต ปล่อยให้มันเข้าใจว่าเราถูกเขี่ยทิ้งน่ะดีแล้ว ถ้าบอกว่าหนีมามันคงจับเราไปประเคนอีเสี่ยนั่นอีกแน่
"แล้วนี่เสี่ยเขาให้เงินมึงมาเท่าไหร่ แบ่งมาให้กูด้วย ข้าวสารก็หมด ค่าเทอมอีดาวอีก ค่าน้ำค่าไฟก็ยังไม่ได้จ่าย เอามาให้กูเลย"
น้าจิตถามพร้อมกับแบมือตรงหน้าเรา
"จะเอาที่ไหนมาให้ หนูไปขัดดอกเขานะไม่ได้ไปขายตัวถึงจะได้มีตังค์กลับมาอ่ะ"
เราสวนกลับอย่างเริ่มหมดความอดทน เอะอะก็แบมืออย่างเดียว กูจะไปหาจากไหนมาให้นัก
"โว้ยยย ! อีโง่ !!"
น้าจิตมันตวาดเราเสียงดังพร้อมกับยกนิ้วขึ้นจิ้มมาที่หน้าผากเราแรงๆจนหน้าหงาย
"มีผัวเสี่ยรวยๆแทนที่จะเอาอกเอาใจ เสือกโง่ให้เขาเฉดหัวทิ้งมา แถมเงินยังไม่ได้สักบาท เลี้ยงมึงนี่เปลืองข้าวสุกจริงๆ มึงไปเลยนะจะไปตายที่ไหนก็ไป ไป๊ !"
น้าจิตมันก็เอ่ยปากไล่เราด้วยความโมโห ซึ่งมันเข้าทางเราพอดีเพราะเราตั้งใจที่จะไปอยู่แล้ว
"ไปอยู่แล้วไม่ต้องไล่หรอก"
เราบอกแล้วสะบัดหน้าเดินออกจากบ้านไป ไม่คิดที่จะหันไปมองบ้านที่อาศัยอยู่มาตั้งแต่เด็กนั่นอีก
บ้านที่มีแต่ความทรงจำเลวร้ายมันจะไปมีอะไรน่าจดจำ. . .
เราต่อรถเมล์ไปที่หออีแก้มแถวๆอ่อนนุช จริงๆอีแก้มมันชวนเราหลายรอบแล้วแหล่ะว่าให้เราไปอยู่กับมัน แต่เราไม่อยากรบกวนมันไงเลยปฏิเสธไป แต่มาเกิดเรื่องแบบนี้คงต้องเปลี่ยนใจไปรบกวนมันก่อน เอาไว้หาทางขยับขยายได้แล้วค่อยว่ากัน
ปัง ! ปัง ! ปัง !
ไปถึงเราก็เคาะประตูเรียกมันอยู่หน้าห้อง พักเดียวอีแก้มมันก็เปิดประตูออกมา
"แสนดี !?" มันเรียกเราพร้อมกับทำหน้างงๆ
"เออกูเอง"
เราบอกก่อนจะโยนกระเป๋าเสื้อผ้าให้มันรับไปถือไว้ แล้วเบียดตัวเข้าไปในห้อง อีแก้มมันเอื้อมมือไปปิดประตูห้องแล้วมันก็เดินตามเรามาติดๆ
"เกิดอะไรขึ้น แล้วทำไมมึงเดินแบบนั้น!?"
มันถามอย่างสงสัย สมควรที่มันจะสงสัยอยู่หรอกก็ตอนนี้เราเดินขาถ่างเพราะแสบตรงน้องสาวเรามาก อีเสี่ยมันทำเราเข็ดจนตายเลยจริงๆ
"กูขอมาอยู่ด้วยคนนะ"
เรารีบเปลี่ยนเรื่อง จะให้ตอบยังไงบอกว่าโดนข่มขืนเหรอ หึ ! ไว้พร้อมเดี๋ยวค่อยเล่า แต่คนอย่างอีแก้มมีหรือที่มันจะปล่อยผ่าน
"มึงเล่ามาเดี๋ยวนี้ถ้ายังเห็นว่ากูเป็นเพื่อน"
นั่นไง. . .
เจอประโยคนี้เข้าไป ไม่เล่าก็ไม่ได้อีก. . .
แล้วเราก็เล่าทุกอย่างให้มันฟังไปจนหมด พอเล่าจบอีแก้มก็ด่ากราดออกมาทันที
"แม่งโคตรเหี้ย ! กูนึกอยู่แล้วเชียวว่าสักวันวันต้องมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น จิตใจแม่งทำด้วยอะไรวะ กูนึกว่าแม่เล้าทีเถอะ อย่าให้กูเจอนะทั้งแม่เลี้ยงมึง ทั้งไอ้เสี่ยนั่นน่ะ กูจะ. . ."
"มึงจะอะไรอีแก้ม?"
เราถาม เมื่อเห็นมันพูดค้างไว้แค่นั้น
"กูยังนึกไม่ออก. . ."
หืมมมม ทำเหมือนมึงหล่อ. . .อีเวร. . .
"มึงมาอยู่กับกูอ่ะดีแล้ว กูชวนตั้งไม่รู้กี่ครั้งเป็นไงล่ะมึงต้องรอให้เกิดเรื่องซะก่อน"
แล้วมันก็บ่นนู่นนี่นั่นของมันไปตามประสา เราไม่สนใจคำพูดมันหรอก เพราะรู้ว่าที่มันบ่นเพราะเป็นห่วง และจะว่าไปขนาดพ่อแท้ๆยังไม่ห่วงเราเท่ามันเลย
"ขอบใจมึงมากนะอีแก้ม"
เราบอกขอบใจแล้วยิ้มให้มัน แต่อีแก้มแม่งเสือกหันมามองตาขวาง แล้วมันก็พูดในสิ่งที่ตรงดันข้ามกับการกระทำออกมา แต่เป็นคำพูดที่ทำให้เรายิ้มได้
"มึงเป็นเพื่อนกู ถ้าไม่ช่วยมึงกูจะไปช่วยหมาที่ไหนล่ะ"
คำพูดแม้ไม่สวยหรู แต่ก็รู้ว่าจริงใจ. . .
SAENDI END.