โรงพยาบาลฮ่องกงดรากอน ย่านวิกตอเรีย ฮ่องกง
ชานป๋อเสียนเดินนำมารดามายังห้องพักวีไอพีที่ชานป๋อหลินแอดมิทอยู่ เขาเคาะประตูแล้วเปิดเข้าไปแบบไม่ทันให้ใครในนั้นได้ตั้งตัวเพื่อจับผิด...
นั่นไงล่ะ
เขาคิดเมื่อเดินเข้าไปแล้วเห็นน้องชายนอนอยู่ ท่าทางก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก เมื่อก่อนหนักกว่านี้มันยังบ้าระห่ำไปบู๊ต่อแต่ตอนนี้นอนหลับอยู่บนเตียงคนไข้โดยมีหญิงสาวคนหนึ่งนั่งหลับอยู่ข้างเตียงและจับมือของน้องชายเขาเอาไว้...
หญิงสาวเหมือนเพิ่งรู้สึกตัวตื่นเมื่อเขากับมารดาเข้าไป หล่อนลุกขึ้นและทำท่าตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นพวกเขา แต่ก็ยังยกมือไหว้แล้วก็ยิ้มเจื่อนๆ ให้
“เอ่อ ดิฉันขอตัวไปตามแพทย์เจ้าของไข้มาให้ข้อมูลพวกคุณนะคะ” หล่อนบอกแล้วคว้ากระเป๋าและเดินแยกออกไป เขากับมารดามองตามไปแต่ไม่ได้เรียกเอาไว้เพราะหญิงสาวออกไปอย่างรวดเร็ว
“ผู้หญิงคนนี้หรือเปล่าที่ทำให้ชานป๋อหลินออกมาประกาศเลิกกับคู่หมั้นจนพ่อหนูเพ่ยอิงหัวฟัดหัวเหวี่ยง”
มาดามเผิงมองตามไปแล้วถามลูกชาย
“ไม่รู้สิครับ” ชานป๋อเสียนมองตามหญิงสาวไปสุดสายตา ตอนแรกเขาเห็นหล่อนแล้วไพล่นึกถึงคนอีกคน
“หน้าตาสะสวยดี สวยธรรมชาติด้วยไม่ค่อยเห็นในสาวๆ สมัยนี้แล้ว พูดจีนแปร่งๆ ไม่น่าจะใช่คนจีน ลักษณะอย่างนี้คุ้นจริงๆ หรือว่าเราเคยเจอมาก่อน”
“ที่คุ้นๆ คงเพราะเขาหน้าเหมือนผู้หญิงที่คุณแม่บังคับให้ผมไปนัดพบด้วยคนนั้นครับ ผมว่าสองคนนี้หน้าคล้ายๆ กัน”
“ใช่จริงด้วย” มาดามเผิงทำท่าคิดออก “หน้าเหมือนหนูน้ำ พูดถึงหนูน้ำแล้วแม่ก็ชักคิดถึง ติดต่อไม่ได้เลย อยากรู้นักว่าตอนที่ไปเจอกันลูกไปทำอะไรให้เขาไม่พอใจ เขาถึงพาลโกรธมาถึงแม่ติดต่อไม่ได้เลยจนตอนนี้”
“ผมไม่ได้สั่งเก็บเขาหรอกครับ สบายใจได้”
“ดูพูดเข้า” มาดามเผิงมองลูกชายคนโตโกรธๆ เพราะเขาช่างไม่ได้ดั่งใจยิ่งนัก ประตูห้องคนป่วยถูกเปิดเข้ามาอีกครั้ง สภาพนายแพทย์หนุ่มที่เป็นทายาทตระกูลดังที่รู้จักกันดีในกลุ่มซูเปอร์คอนเน็กชันในฮ่องกงเดินเข้ามาในห้องพร้อมรอยยิ้ม... เขาทักทายมาดามเผิงอย่างสนิทสนมรวมทั้งกอดทักทายแพทย์รุ่นพี่อย่างชานป๋อเสียนก่อนจะรายงานอาการของน้องชายและรู้โดยทั่วกันว่าไอ้น้องชายมันแอดมิทเพราะมีนัยซ่อนเร้นจริงๆ
เพราะตอนที่ทุกคนพูดกันแล้วเสียงเริ่มดัง ชานป๋อหลินก็ตื่นขึ้นมาแล้วทำหน้าเซ็งๆ ที่พวกเขาถามว่าทำไมมานอนสำออยที่โรงพยาบาลไม่ยอมกลับบ้าน แม้คนเป็นน้องชายจะไม่รับปากตรงๆ ว่าที่ทำเป็นอ่อนแออยู่นี้เพราะผู้หญิงแต่ทุกคนก็เข้าใจตรงกัน โดยเฉพาะมาดามเผิงที่ดีใจกว่าใคร
ในตอนที่ชานป๋อหลินกำลังจะเตรียมตัวกลับ เจ้าน้องชายก็อาละวาดเพราะผู้หญิงคนนั้นกลับเมืองไทยแล้ว!
ขณะที่น้องชายยังวุ่นวายกับเรื่องของตัวเอง ผู้เป็นมารดาก็เดินมาเรียกเขาเข้าไปคุยเป็นการส่วนตัว
“ผู้หญิงที่เราเห็นเมื่อเช้า เป็นน้องสาวของหนูน้ำ” ท่านรีบบอก
“จริงเหรอครับ” ชานป๋อเสียนคิ้วขมวด เขาไม่แปลกใจว่าสองคนนั้นเป็นพี่น้องกันเพราะเขายังรู้สึกว่าเหมือนกัน แต่ที่แปลกใจนั้นคือความบังเอิญมากกว่า เขากับมารดารู้จักคนพี่ที่อเมริกา ส่วนคนนี้องมารู้จักกับชานป๋อหลินที่ฮ่องกง สมองอันชาญฉลาดของนายแพทย์หนุ่มคิดถึงประวัติของครอบครัวชลนทีที่ได้อ่านผ่านตามาเขาเลยเล่าเรื่องที่สรุปได้ให้มารดาฟัง...
น้องสาวของชลนทีมาทำงานร้องเพลงที่ฮ่องกงเพื่อหาเงินเลี้ยงครอบครัว และบังเอิญมาเป็นผู้หญิงของน้องชายเขา หมอนั่นจริงจังกับอลินแต่ว่ายังไม่ทันได้เจรจาอะไรกัน อลินเจอเขากับมารดาเลยตกใจและหนีกลับเมืองไทยแล้ว แต่น้องชายเขาต้องจัดการกับเรื่องที่นี่ยังไปตามกลับทันทีไม่ได้ แต่เห็นว่าส่งคนไปเฝ้าประกบหญิงสาวเอาไว้ไม่ให้คลาดสายตาก่อนจะหนีไปไหนอีก...
“ป๋อหลินไม่เคยจริงจังกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน... คนนี้เป็นน้องสาวของหนูน้ำก็จริงแต่ว่ามาร้องเพลงที่เลาจน์แล้วก็เป็นผู้หญิงของป๋อหลิน” ผู้เป็นมารดานิ่วหน้า...
คนที่รู้มาว่าบ้านนี้คนน้องทำงานส่งเงินให้พี่สาวให้เสวยสุขที่อเมริกากำลังจะถูกเทียบกับพี่สาวรีบบอกมารดา ท่านควรยอมรับอลินและมองชลนทีในมุมใหม่ มากกว่าที่จะหลงชลนทีแบบไม่ลืมหูลืมตาและมองอลินในแง่ลบ
“แม่ตามผมมาดูเอกสารอะไรบางอย่างดีกว่าครับ” เขาให้คนของเขาโหลดข้อมูลที่สืบได้ลงในไอแพดและปรินท์ไปให้ชลนทีดูแต่ข้อมูลเก่าเขายังเก็บไว้ เขาเลยเลือกเปิดทุกอย่างให้มารดาดูจะได้รู้ว่าอะไรจริงอะไรไม่จริง...
“ไม่ต้องคลางแคลงอลินหรอกครับ ผมว่าเธอเป็นคนดี อลินมีป๋อหลินคนเดียวตลอดระยะเวลาที่มาร้องเพลงที่ฮ่องกง ตอนอยู่ไทยก็ประวัติขาวสะอาด อันนี้ป๋อหลินเคยให้เหวินเล่อสืบให้ แล้วอันนี้เป็นข้อมูลที่ผมสืบเองก่อนจะไปเจอคนที่แม่ชื่นชมนักหนาว่าเป็นคนดีแต่จริงๆ แล้วไม่ใช่... ครอบครัวเธอที่ไทยล้มละลายพ่อป่วยเป็นหนี้โรงพยาบาลบีเจซีเป็นล้าน อลินทำงานคนเดียว และแบ่งเงินมาจ่ายหนี้และบางส่วนส่งให้ชลนทีทุกเดือนในลักษณะการส่งเสีย ชลนทีรับเงินนั้นทั้งที่ตัวเองก็มีทรัพย์สินมากมายงอกเงยขึ้นจากการเล่นหุ้นทุกปีทั้งที่อาชีพหลักตอนอยู่อเมริกาคือเรียนและวิจัย แม่คิดดูนะครับว่าคนหนึ่งหาเงินส่งเสียทั้งครอบครัวกับอีกคนรับอย่างเดียวไม่เคยช่วยเหลือครอบครัวเลย”
เขาชี้ให้มารดาดูเอกสารประกอบสิ่งที่เขาบอกหลายๆ แผ่น แต่มารดาไม่เห็นด้วยกับเขา
“แม่คิดว่าหนูน้ำน่าจะไม่รู้มากกว่านะ เอ๊ะ ข้อมูลนี้ ลูกรู้แล้วบอกกับหนูน้ำวันที่ไปเจอกันหรือเปล่า”
ชานป๋อเสียนพยักหน้า “ผมคิดว่าเธอรู้ พอไปบอกเธอก็ตกใจและยอมรับเธอถึงไม่ยอมเซ้าซี้ผมและก็กลับไปง่ายๆ ไม่กล้าอยู่สู้หน้าผมกับแม่ยังไงล่ะ” ชานป๋อเสียนบอกเสียงหยันเล็กน้อย
มาดามเผิงนิ่วหน้า...
“แต่หนูน้ำกลับเมืองไทยเลย แม่ว่าหนูน้ำเพิ่งรู้เรื่องครอบครัวล้มละลายกับเรื่องหนี้ที่บ้าน เลยบินกลับไทยทันที”
“อาจจะตกใจที่มีคนรู้ เลยรีบบินกลับมาใช้หนี้ให้ที่บ้าน จะได้ไม่มีใครมาว่าใจร้ายยังไงล่ะครับ”
“ไม่จริง ลูกมองหนูน้ำในแง่ร้ายได้ขนาดนี้ แปลกใจจริงๆ ทำไมมองหนูอลินในแง่ดี”
“ก็หลักฐานมันมีให้เห็นๆ อยู่นี่ครับ”
“มันก็จริงแต่แม่ไม่คิดเหมือนลูก”
“ตามใจแม่ครับ แต่ผมเชื่อในความคิดของผม แล้วก็ไม่มีวันมองผู้หญิงคนนั้นเปลี่ยนไป แม่อย่ามายัดเยียดเธอให้ผมอีก ยิ่งต่อไปถ้าป๋อหลินไปตามอลินจนตกลงกันได้ อย่าคิดจับคู่ผมกับน้ำเลยนะครับ มันไม่สำเร็จแน่ๆ”
มาดามเผิงมองลูกชายที่บอกด้วยเสียงมั่นอกมั่นใจและเด็ดขาดจนนางไม่ปริปากอะไร...
“ตามใจลูกแล้วกัน”
ชานป๋อเสียนค่อยโล่งใจที่ผู้เป็นมารดาไม่ได้บังคับอะไรเขา...
“แม่ว่าเดี๋ยวเราเคลียร์ทางนี้เสร็จแล้วรีบบินไปไทยด้วยกันดีไหม ลูกไปดูเรื่องโรงพยาบาลบีเจซีรอก่อนแม่จะไปหาเพื่อนๆ กับญาติๆ ของเราที่เมืองไทย เตรียมตัวไว้ก่อน รอป๋อหลินตามเราไปที่ไทยแล้วจะได้ไปสู่ขอลูกสาวเขา”
“สู่ขอลูกสาวใครนะครับ”
“อ้าวก็หนูอลินไง”
“อ้อ” เขาทำท่าโล่งใจ “ก็เมื่อกี้แม่พูดอยู่ว่าคลางแคลงเรื่อง อลิน”
“แม่แค่คิด แต่ลูกรักใครแม่ก็รักคนนั้นล่ะ”
“แม่เข้าใจโลกดีนะครับ เป็นแบบนี้ผมก็ดีใจด้วย” บอกกับมารดายิ้มๆ แล้วจึงตามด้วยประโยคที่เน้นหนักในทุกคำ “แต่แม่อย่าลืมนะครับว่าผมไม่ได้รักชลนที แม่ไม่จำเป็นต้องไปรักเธอมากและไม่ต้องยัดเยียดเธอให้ผม”
“รู้แล้วน่า” มาดามเผิงเอาพัดที่มือตีต้นแขนลูกชายที่ย้ำนักย้ำหนา... แม้ว่าทางจะดูมีอคติและต่อต้าน แต่คนเป็นแม่แอบกระหยิ่มยิ้มย่องในใจ คนที่ไม่เคยสนใจใครอย่างชานป๋อเสียนพูดถึงชลนทีบ่อยที่สุด เรียกว่าปีนี้ชื่อผู้หญิงที่หลุดจากปากเขามากที่สุดน่าจะเป็นชลนที... ถึงแม้ว่าจะแง่ลบแต่ชลนทีก็กำลังซึมเข้าไปในความรู้สึกนึกคิดของลูกชายนางมากขึ้นทุกขณะ อย่างนี้จะไม่ให้คนเป็นแม่แอบหวังได้ยังไงกัน....