บ้านอิมเมจ....
"พึ่งแต่งเมื่อวาน วันนี้จะกลับมานอนบ้านได้ไงยัยอิมลูก" นวรีบ่นลูกสาวหัวรั้น เธอกลับมาบ้านออดอ้อน ถึงไม่มีกระเป๋าเสื้อผ้าคงเดาไม่ยาก เพราะอาการแสดงออกทางสีหน้าแล้ว
"โถ่ว..ม๊า ลูกสาวคนนี้ห่างอกไม่ได้นี่หน่า" อิมเมจสวมกอดแม่ โดยที่ท่านกำลังอาหารอยู่ แล้วส่งยิ้มหวานกว้าง พยามให้พ่อเห็นใจตาม
"พอๆ...พี่เขาก็รับปากจะดูแลเราแล้วนี่ อย่าเอานิสัยเด็กๆมาใช้กับผู้ใหญ่" สุนทรมั่นใจ จากที่เห็นวันแต่งงาน มาเฟียหนุ่มในฐานะลูกเขย ย่อมมีคนเคารพนับหน้าถือตาไม่น้อย รวมไปถึงผู้ใหญ่อายุมากกว่ายังเกรงกลัวเขา คงไม่มีนิสัยเล่นเป็นเด็กตามลูกสาวแน่
"ผู้ใหญ่?" คิ้วเรียวสวยเลิกขึ้น
"ตาชาร์คน่ะโตกว่าเราตั้งกี่ปี ต่อให้เป็นผัวเมียก็ต้องนับถือกันนะอิม" สุนทรพูดปรามลูกสาว ชีวิตคู่คงไม่พ้นการให้เกียรติความสบายใจของทั้งสองฝ่าย เขากับนวรีต่างเป็นแบบอย่างได้
"ไอทะลึ่งนั่นน่านับถือตรงไหน" เสียงหวานพึมพำพอที่คนด้านข้างจะได้ยิน ในพื้นที่ของตัวเอง เธอไม่ควรต้องเกรงใจใครทั้งนัน้
"อิม/อิมลูก!!!!" เสียงเรียกชื่อ ลนลานตกใจของพ่อแม่ที่มาพร้อมกัน
"คะ...อิมว่าอิมพูดถูกนะม๊า ไม่มีความน่าเชื่อถือเลยแม้แต่น้อย" อิมเมจเน้นถ้อยเน้นคำชัดเจน รวมถึงการแสดงสีหน้าจริงจังต่อคำพูด ไม่มีเหตุผลเลยต้องรู้สึกผิดนั่นคือความจริงจากใจ
"หรอจ๊ะเมียจ๋า" น้ำเสียงเข้มเย็นเยือก ทำคนฟังขนลุกตาม เขามาตั้งแต่เมื่อไหร่ ถึงได้มายืนกระซิบข้างหูขนาดนี้ ความว่องไวที่เธอไม่อาจสัมผัสได้
"พี่ชาร์คคคค!" เธอรีบหันหลังดูให้แน่ใจ แทบจะล้มทั้งยืนเมื่อคนถูกนินทา มีสีหน้ายิ้มแย้มต่อพ่อแม่เขา แต่แววตาแทบเฉือดเฉือนคนมอง
"กลับบ้านดูจะได้รู้ว่าไม่น่าเชื่อถือตรงไหน" ยังไม่พอ เขาก้มลงมาบอกให้หูเล็กซ้ำ พาลให้นึกภาพตาม ชวนผวาเสียแล้ว แค่เรื่องเมื่อคืนเธอเกือบจะเอาตัวเองไม่รอด แล้วคืนนี้จะเอาแผนไหนต่อ
"มาได้ไงชาร์ค งานยุ่งไม่ต้องเสียเวลามาหรอก" สุนทรพูดขึ้น มองลูกสาวที่ยืนนิ่งคล้ายถูกสาป จะหัวเราะออกก็เกรงจะตอกย้ำลูกสาว
"ผมมารับน้องกลับบ้านครับ" ชาร์คเลือกหันมาพูดคุยกับพ่อของเธอต่อ หากหยาดอรุณไม่ไปที่บ้าน แล้วไม่เจอเธอ คงไม่ต้องมาทำเป็นเหมือนห่วงใยในตัวภรรยาออกหน้าออกตา
"อยู่ทานข้าวเย็นกันแล้วค่อยกลับนะชาร์ค" นวรีเอ่ยชวน เธอเองเอ็นดูในตัวลูกเขยเช่นกัน ในสายตาผู้ใหญ่ชาร์คเองวางตัวได้ดี แถมยังดูเอาใส่ใจลูกสาวทั้งที่พึ่งจะเจอกัน
"ครับ"
บ้านชาร์ค.....
รถสปอร์ตหรูจอดเทียบลานกว้าง ชาร์คเปิดประตู โยนกุญแจให้ลูกน้อง ซึ่งพวกเขาจะขับไปจอดในโรงรถเอง ส่วนอิมเมจรีบเปิดประตูรถลง หวังวิ่งเข้าบ้านให้เร็วที่สุด
"เหมือนอิมจะหิวๆ พี่ชาร์คขึ้นบ้านก่อนเลยเนอะ" เธอแสร้งใช้การแสดง เดินเลี่ยงไปทางครัว
"ข้าวตั้งสองจานยังไม่อิ่มหรือไง เบ๋บี๋จะตุนแรงไว้เยอะทำไมกันน้า" ทำไมเขาเองจะไม่สังเกตุ ภรรยาสาวทานข้าวที่บ้านอย่างตะกละตะกลาม ไม่รักษาภาพลักษณ์ต่อเขาสักนิดเดียว แอบสงสัยมิได้ ร่างบางขนาดนี้ เธอเองเอาไปซ่อนตรงไหนกัน
"หยุดทะลึ่งสักทีเถอะพี่ชาร์ค" เธอยกมือขึ้นสองข้าง เมื่อสามีพยามจะเดินมาชิด มองหน้าสบตาอย่างเอาเรื่อง
"ทำหน้าที่เมียสักทีสิ แล้วตรงไหนที่ฉันไม่น่านับถืออิมเมจ" เขายังก้าวขาเดินหน้า ยิ่งเห็นเธอแอบกลัวตัวสั่น ยิ่งอยากจะกำราบให้อยู่หมัด
"อิมว่าคนอื่นไม่ได้ว่าพี่ซะหน่อย" เสียงหวานยังเถียงกราน ดวงตากลมแข็งกร้าว ต่างจากนัยย์สั่นไหวชัดเจน
"ขอพิสูจน์ก่อนแล้วกัน ค่อยอธิบาย"
"คะคือ..อิมยังไม่พร้อม" ชาร์คใช้แขนแกร่งตวัดโอบอิมเมจอุ้มขึ้นในท่าเจ้าสาว ดูสีหน้าเจื่อนอ่อนลงกว่าเมื้อกี้หลายเท่า น้ำเสียงตะกุกตะกักบ่งบอกความรู้สึก จนเดินขึ้นมาถึงหน้าห้องส่วนตัว
"ฉันทำหน้าที่ตัวเองสมบูรณ์นะบี๋ว่าไหม" ประตูเปิดอัตโนมัติเมื่อแสกนเจ้าของผ่าน เขาวางร่างบางลงบนเตียงขนาดคิงไซส์ ซึ่งรอบนี้สติสัมปชัญญะครบ ไม่มีเหตุการณ์แบบเมื่อคืนซ้ำอีกแน่นอน
"พี่ชาร์คอย่าทำไรเลยนะอิมกลัว" สายตาร้อนผ่าว ในตอนร่างกำยำกำลังปลดเปลื้องเสื้อผ้าอาภรณ์ แม้จะดูเขาใจเย็น ต่างกันกับจิตใจกระวนกระวายของเธอมาก ร่างกายสมบูรณ์แบบเปล่าเปลือย ในช่วงล่างแท่งเอ็นร้อนดีดแข็งชูขึ้น
เขาไม่ให้คำตอบ นอกจากดึงกระชากข้อเท้าเล็กเขยิบตัวลงมา แหวกขาเรียวกว้างแล้วขึ้นคล่อมทับร่างบาง มือเล็กรีบดันแผงอกแกร่งทันที ใบหน้าหนาเรียบนิ่งไม่แสดงออก บีบเข้าคางมนให้เผชิญหน้าจ้องตา
"คราวนี้ฉันดูทะลึ่งพอหรือยัง" ไม่พูดเปล่า เขายังกระชากชุดเดรสจนกระดุมกระเด็นกระดอน เผยสัดส่วนงดงามด้านใน ถลกเพนตี้ตัวบางดึงออก ถีบไล่ลงให้พ้นทาง
"พะพอก่อน...ขออิมทำใจก่อนไม่ได้หรือไง..อื้อ" นิ้วยาวเริ่มถูกไถกลีบดอกไม้กลางกายสาว ล้วงขยี้ติ่งเกสรรุนแรง จ่อปากทางที่คับแน่น มือเล็กรีบปัดจิกกำเข้ามือใหญ่รุกราน เขายังก้มมองใบหน้าสวย แววตาเฉียบคมพาลให้เธอเกือบลุ่มหลงตาม
"คิดว่ายังทันอยู่ไหมล่ะ"
..............................................................
ไรท์ตอบเลยว่าไม่ทัน555 ปักหมุดรอncเฮียชาร์คเลยจ้าา