คนระดับตฤณ วนารมย์ ที่ถูกมรดกพันล้านหล่นทับ แล้วยังมีบริษัทที่เขาสร้างมากับมือแต่เติบโตฟันกำไรจนร่ำรวยติดอันดับนักบริหารหนุ่มไฟแรงหลายปีซ้อน ต่อให้งานวันนี้หมดกี่สิบล้าน เขาก็ต้องได้ทั้งแจกันและไอรดา
ตฤณเห็นสายตามองมาอย่างแปลกๆ ของเพื่อนสนิทพ่อ “เอ่อ คือว่าที่ผมอยากประมูลแจกันเพื่อการกุศล เพราะกำลังคิดว่า แจกันในภาษาจีน คือคำว่า ‘ผิง’ ซึ่งหมายถึงความสงบสุขอันยิ่งใหญ่แล้วยังช่วยเสริมฮวงจุ้ยในห้องทำงาน ถ้าห้องทำงานของผมมีแจกันจีนโบราณไปวางคงเหมาะดี งั้นผมขอตัวไปลงชื่อประมูลแจกันก่อนดีกว่านะครับ”
อาจารย์หมอเจ้าของวันเกิดมองตามแผ่นหลังของลูกบุญธรรมเพื่อนสนิทไป พลางส่ายหน้า
“นายตฤณอยากได้แจกันอะไรขนาดนั้น เพิ่งรู้ว่านิยมสะสมของเก่าด้วย” อาจารย์หมอสุรชัยมองตามอย่างงงงวย
ครึ่งชั่วโมงถัดมา ณ ใจกลางโถงจัดงาน อาจารย์หมอสุรชัยจูงมือภรรยาออกไปตัดเค้ก จากนั้นก็นำเค้กมอบให้กับลูกศิษย์ในงานอย่างไม่ถือตัว จากนั้นเสียงเพลงรัก จังหวะละมุนก็ดังคลอขึ้น
“มาถึงช่วงพิเศษสุดกันแล้ว วันนี้ท่านอาจารย์หมอสุรชัยอยากชวนแขกผู้มีเกียรติทุกท่านร่วมกันบริจาคเพื่อช่วยเหลือเด็กบนดอยที่ยากไร้ ในโครงการคืนสุขให้เด็กบนดอยมีรอยยิ้ม แต่ว่ามีพิเศษกว่านั้นคือใครที่ประมูลแจกันได้ จะได้รับเกียรติเต้นรำกับสาวสวยภายใต้หน้ากาสีทองของเราครับ”
พิธีกรพูดมาถึงตรงนี้ ไอรดาก็เดินมายืนตรงกลางฟลอร์ที่มีแสงจากสปอร์ตไลท์ส่องลงมา ทั้งเขินทั้งประหม่า แต่ว่ายังดีที่มีหน้ากากปกปิดใบหน้าไว้ครึ่งหนึ่ง ทว่ากลับมีสายตาคู่หนึ่งที่จ้องเธอไม่หยุด เหมือนเขารู้ว่าใต้หน้ากากคือเธอ
ตฤณพรึมพรำในลำคอ “โห ลงทุนใส่หน้ากาก นึกว่าผัวจำหน้าไม่ได้หรือไง” ไม่ใช่แค่ใบหน้าภายใต้หน้ากาก แต่หน้าอกคัพอะไร ขนาดเท่าไหร่ตอนนี้ ตฤณจำได้ไม่พลาดแน่
สายตาเขาที่มองจ้องไป ทำให้ไอรดาที่มองมายังกลุ่มผู้ประมูลขนลุกซู่ เหมือนถูกเปลื้องเสื้อผ้าออกจากตัว หญิงสาวร้อนผะผ่าวแม้จะยืนห่างกันเกือบเมตร
“คนบ้าจะมองทำไมนักหนานะ คิดว่าจะไม่เจอเสียอีก” ไอรดาพึมพำ แต่เหมือนคนถูกว่าจะรู้ตัว
ตฤณขยับปากเป็นรอยยิ้มหล่อเหลา พิธีกรเริ่มดำเนินรายการประมูลขึ้นทันที เพราะว่าหนุ่มๆ ในงานเริ่มตื่นเต้นกันยกใหญ่ ต่างหวังจะได้เต้นรำกับสาวสวยของงานเพราะมีบางคนที่รู้คงไปกระจายข่าวให้กับหนุ่มไฮโซ และกลุ่มคุณหมอหนุ่มโสดว่าภายใต้หนากกากคือหนึ่งในทายาทของตระกูลวนารมย์
หนุ่มไอโซดีกรีนักเรียนนอกคนหนึ่งยกป้ายประมูลก่อนใคร
“ห้าแสนบาท”
“ห้าแสนห้า”
จากนั้นคุณหมอหนุ่มรูปร่างสันทัด ผิวพรรณหน้าตาบ่งบอกว่ามีเชื้อสายจีน
“ผมให้เก้าแสน”
“เก้าแสนเจ็ด”
“เก้าแสนเก้า”
ตัวเลขพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ หนุ่มๆ ในงานต่างอยากเป็นคู่เต้นรำกับคนสวยและรวยมากอย่างไอรดากันทั้งนั้น
“หลังหน้ากากต้องเป็นหมอพลอยแน่ๆ ว่ะ” หนุ่มคนหนึ่งในงานออกความเห็น
“ฉันก็ว่าใช่ งั้นฉันบริจาคหนึ่งล้านไปเลยดีกว่า จะได้ขอเบอร์โทร.แล้วจีบหมอไอรดามาเป็นแม่ของลูกซะเลย” ทุกคนตรงนั้นหัวเราะออกมาพร้อมกัน เพราะยังมีคนอีกมากที่ไม่รู้ว่าตอนนี้ไอรดากำลังสวมบทเป็นแฟนกำมะลอกับตฤณ วนารมย์ ที่ยืนกัดกรามแน่น เขามองหน้าคนพูด เห็นว่าเป็นวันเกิดผู้ใหญ่ที่เคารพจึงพยายามสงบอารมณ์ ทว่า ภายในใจกำลังโต้แย้ง
‘หน้าประจวด อย่างมึงนี่นะ’
มือหนากำเข้าหากันแน่น หากเสียงพิธีกรไม่ประกาศอยู่ผู้คนรอบๆ ตัวคงได้ยินเสียงนิ้วลั่นดังกร็อบ
‘พลอยเป็นแม่ของลูกกูโว้ย’
‘เก็บเงินไว้ไปทำหน้าใหม่ ให้หล่อสูสี กับสามีหมอพลอยก่อนเถอะ’
ถ้าเป็นสมัยเรียนวิศวฯ กำปั้นของเขาคงไม่ได้กำเฉยๆ คงเสยคางไอ้พวกหนุ่มไฮโซที่จะหาเมียต่อยอดความร่ำรวยของตัวเองไปแล้ว
“นายกล้าลงทุนขนาดนี้เลยหรือวะเพื่อน”
หนุ่มคนที่หมายตาหมอไอรดามากว่าแจกัน นั้นไม่ตอบแต่ประกาศกลางงานว่า “หนึ่งล้านสองแสนบาท”
“สองล้านห้าแสนบาท”
พลันมีเสียงทุ้มจากคนคนเดิมดังขึ้น เรียกให้สายตาของคนในงานที่เต็มไปด้วยความอยากรู้หันไปมอง แล้วก็เห็นว่าเป็น ตฤณ วนารมย์ คนเดิมที่พิธีกรประกาศว่าบริจาคให้กับโครงการดีๆ ในคืนนี้ด้วยเม็ดเงินถึงสิบล้านบาทกไปแล้ว เขายังมาร่วมประมูลแจกันอีก
เสียงซุบซิบดังขึ้น“มาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงหมดเงินไปสิบกว่าล้านบาทแล้วมั้ง”
ตฤณไม่ได้สนใจคำพูดของใครในงานสักนิด รอให้พิธีกรประกาศว่าเขาคือคนที่ได้แจกันไปครอบครอง เพราะจะได้เป็นคู่เต้นรำของไอรดา
“มีใครให้สูงกว่านี้ไหมครับ”
ตฤณอมยิ้ม รู้ว่าราคาที่เขาประมูลดูจะน่าตกใจ แต่ไม่เป็นไรไตรมาสที่ผ่านมาบริษัทที่เขาสร้างด้วยมันสมองของตัวเองสร้างผลกำไรให้หลายร้อยล้านบาท ซื้อแจกันไปประดับห้องทำงานสักล้านสองล้าน ขนหน้าแข้งเขาไม่ร่วงหรอก ถ้ามันจะร่วงคงไม่ใช่ขนหน้าแข้ง ตฤณจ้องขาเรียวของเมียตาไม่กระพริบ
‘คืนนี้เจอกัน’
เขาแอบคาดโทษไอรดาอยู่ในใจ รอจนพิธีกรประกาศว่าเขาคือผู้ชนะการประมูล ร่างสูงหล่อเนี้ยบกระชากสายตาสาวๆ ในงานก็เดินตรงไปหาไอรดาที่กำลังกัดปากแน่น เธออยากจะถอยหนี แต่ว่าขาก็เหมือนถูกสายตาของตฤณ วนารมย์ ตรึงให้อยู่กับที่
‘ถลุงเงินลุงฉันเล่นตั้งสิบกว่าล้านบาท คงไม่ใช่เงินของนายเองหรอก’
ริมฝีปากนุ่มที่เคลือบด้วยลิปสติกดิออร์เฉดสีชมพูหวานสไตล์คุณหนู “บ้านไม่มีแจกันใช้หรือไง”
“มีแต่ไม่ถูกใจ เลยมาเอาในงาน สวยดี แต่ถ้าให้พูดจริงๆ ถูกใจของแถมมากกว่า” เขากวาดสายตามองเธอ เน้นย้ำสายตาไปที่เดรสสั้น “น่าอุ้มไปเก็บที่ห้อง พร้อมกับแจกัน”
สายตาเหมือนมีมนตร์สะกดให้จ้องไปที่เขาคนเดียว ไอรดากัดริมฝีปากแน่น จะออกอาการมากก็ไม่ได้ เธอกำลังเป็นเป้าสายตาคนในงาน ก่อนจะบอกยิ้มๆ แต่น้ำเสียงจิกกัด
“เข้าใจผิดแล้วค่ะคุณตฤณ ผู้ชนะการประมูล แค่ได้สิทธิ์เป็นคู่เต้นรำภายในงาน ไม่ใช่ได้ฉันเป็นของแถมเอากลับบ้านได้”
“แล้วถ้าผมอยากจะเอาคุณหมอติดมือกลับบ้านด้วยล่ะ ต้องทำยังไง บริจาคเพิ่มอีกเท่าไหร่บอกมาสิครับ”
ทันทีที่เขาเอื้อมมือมาจับมือเธอไว้ ไอรดาก็รู้สึกถึงความร้อนลามเลียไปทั่วหลังมือ เลยมาที่ปลายนิ้ว แล้วเขาก็กระซิบแหบพร่าให้ได้ยินกันสองคนว่า