รถม้าสองคันวิ่งเข้ามาในจวนลึกเข้าไปจึงเห็นเรือนตั้งเรียงรายไปตามริมกำแพงรั้วอย่างเป็นระเบียบที่จัดได้อย่างลงตัว สวนดอกไม้ด้านหน้าส่งกลิ่นหอมตลบอบอวนเข้ามาในรถม้า ท่านอ๋องถึงกับสูดดมกลิ่นของดอกไม้ที่ลอยตามลมมาสดชื่นจริงๆ
"ถึงจวนแล้วเจ้าค่ะท่านตาข้าไปหาท่านแม่ก่อนนะเจ้าคะไปกันเถอะพี่ใหญ่"
เสียงของเด็กน้อยเรียกพี่ชายพอลงจากรถม้าได้นางก็รีบวิ่งเข้าเรือนหลังใหญ่ไป ท่านอ๋องลงจากรถม้ามายืนด้านล่างแล้วมองไปรอบจวนอย่างสำรวจและมองตามเด็กสองคนที่วิ่งเข้าเรือนไปหามารดา
"ท่านอ๋องเชิญเข้าเรือนก่อนพะยะค่ะ"
อดีตท่านแม่ทัพเชิญราชบุตรเบยเข้าบ้านแล้วเดินนำไปที่ห้องโถงรับ
สาวใช้อีอีกับซีซีเดินออกมาจากในห้องทำงานของคุณหนูของตัวเองที่ทำงานในห้องด้วยกันจนคุณชายน้อยกับคุณหนูน้อยกลับมาถึง จึงพากันออกมาหาของว่างไปให้คุณหนูฟางอี้หลิงที่ทำงานตั้งแต่เช้าพึ่งจะเสร็จพอดีกับนายน้อยกลับมาจากไปเที่ยวกับนายท่านผู้เฒ่าในเมืองมา แต่ต้องตกใจกับแขกที่นายน้อยวิ่งเข้าไปบอกกับมารดาว่ามีคนรู้จักท่านแม่กับท่านพ่อมาหา ตอนนี้ท่านตากำลังต้อนรับอยู่
"เล่อเล่อกับพี่ชายยังเที่ยวไม่ครบทุกที่เลยเจ้าค่ะท่านแม่ แต่ท่านตามีแขกแถมยังบอกรู้จักกับท่านแม่แล้วถามหาท่านพ่อด้วย พอข้ากับพี่ใหญ่บอกว่าท่านพ่อตายไปแล้วท่านลุงคนนั้นบอกว่า อาจจะเข้าใจผิดกันก็ได้ท่านพ่อของพวกข้าอาจจะยังมีชีวิตอยู่เจ้าค่ะท่านแม่ ข้ากับพี่ใหญ่จึงมาบอกท่านแม่ก่อน"
ฟางเย่วเล่อรีบรายงานทุกอย่างให้มารดาฟังอย่างไม่มีตกหล่นสักอย่าง ส่วนพี่ชายนั้นก็ฟังน้องสาวบอกมารดาด้วยความสงบ
"จริงหรือลูกหมิงเอ๋อร์"
ฟางอี้หลิงถามบุตรชายกับเรื่องที่บุตรสาวมาบอกที่ตอนนี้ดื่มน้ำเพราะคอแห้งหลังจากคุยจบแล้ว ปีนขึ้นไปนั่งบนตักมารดากอดคอหอมแก้มมารดาเหมือนทุกครั้งที่ไปเที่ยวกับมา
"ขอรับท่านแม่เหมือนที่น้องเล็กบอกทุกอย่างขอรับ ตอนนี้ท่านตาคงกำลังรับแขกอยู่ขอรับ พอพวกข้าลงจากรถม้าน้องสาวก็วิ่งมาหาท่านแม่ที่ห้องทำงานเลยขอรับท่านแม่"
"งั้นพวกเราก็ออกไปต้อนรับแขกกันเถอะแม่เองก็อยากจะรู้เหมือนกันใครมากับท่านตาของลูก แถมยังรู้จักแม่เสียด้วยสิ"
ฟางอี้หลิงบอกก่อนจะลุกขึ้นจับมือบุตรสาวเดินออกมาด้วยกัน อีกข้างก็จับมือของบุตรชายถึงแม้เขาจะเป็นคนเงียบขรึมแต่ก็ชอบให้แม่เอาใจไม่ต่างกับบุตรสาว เพียงแต่ว่าเขาจะทำตัวโตกว่าน้องสาวไม่ออดอ้อนเหมือนเด็กผู้หญิง ฟางอี้หลิงจะใส่ใจกับลูกน้อยทั้งสองคนมากเพราะพวกเขามีเพียงมารดาที่เลี้ยงดูมาตามลำพัง เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักความรักแต่พอมีลูกฟางอี้หลิงจึงทุ่มเทให้ลูกทั้งสองคน
ชีวิตก่อนมีแต่ต่อสู้กับซอมบี้กินนอนในยานของใครของมันไม่มีครอบครัว โตขึ้นมาก็รู้เพียงว่ามีงานที่ต้องทำคือฆ่าซอมบี้ฝึกร่างกายให้แข็งแก่รงเพียงเท่านั้น ไม่มีสาวใช้ไม่มีพ่อแม่ให้รู้จัก เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่องค์กรฝึกเอาไว้ฆ่าเพียงเท่านั้น
แต่ที่โลกใบใหม่ เธอมีทั้งพ่อ พี่ชายแล้วยังมีลูกอีกสองคนให้ดูแล รวมถึงคนงานบ่าวไพร่ที่ทำงานให้อีกเป็นร้อยชีวิตที่ต้องดูแล
สามแม่ลูกเดินตามกันมาจนถึงห้องรับแขก
ท่านอ๋องหยวนอวิ๋นฉีมองสาวแม่ลูกที่เดินจับมือกันมายืนในห้องโถง ฟางอี้หลิงรับรู้ได้ทันทีว่านี้คือความยุ่งยากที่จะเกิดขึ้นในตอนนี้ ถึงแม้ว่าตัวของนางจะไม่ได้เจอหน้าของสามีของร่างเดิมแต่ก็มีความทรงจำว่านี้คือท่านอ๋องหยวนอวิ๋นฉีบิดาของลูกของนาง
อ๋องหยวนอวิ๋นฉีมองหน้าแม่ของลูกอย่างตกตะลึงในคืนเข้าหอแสงไฟสลัวทำให้มองเห็นใบหน้าของนางไม่ชัดเจนเหมือนตอนกลางวัน แถมตอนเช้าก็ไม่ได้เห็นหน้าพระชายาของตัวเองเพราะโกรธที่นางวางยาทั้งที่ไม่ได้ไตร่สวนก็สั่งให้กงกงจัดการส่งนางออกไปตำหนักร้างนอกเมืองหลวงเสียแล้ว ทั้งรับจางว่านอี้เข้ามาในตำหนักในตำแหน่งว่าที่ชายารองแต่ยังไม่ได้ตบแต่งแต่ออกเดินทางไปชายแดนเหนือเพื่อทำศึกเสียก่อน
"คาระวะท่านอ๋องเพคะ"
นางทำความเคารพท่านอ๋องตามมารยาทของชนชั้นสูงที่เจ้าของร่างเดิมเรียนมาตามแบบคุณหนูในเมืองหลวงทั้งหลาย
ท่านอ๋องพยักหน้าให้พระชายาของตัวเอง
"ไม่ต้องมากพิธีหวังเฟยลำบากเจ้าแล้วที่เลี้ยงลูกตามลำพัง ทำไมไม่ส่งข่าวบอกข้าบ้างละพระชายา"
ท่านอ๋องถามกลับเสียงเรียบ
ฟางอี้หลิงเองก็มองอดีตสามีของเจ้าของร่างเดิมอย่างสำรวจเช่นเดียวกันก่อนจะตอบคำถามพระสวามีไปแบบสบายนางไม่คิดกลัวสักนิด
"เพคะหม่อมฉันสบายดีแล้วไม่เห็นว่าจะต้องรายงานเพื่ออะไรเพราะถึงอย่างไรท่านก็ไม่ได้สนใจพวกข้ทอยู่แล้ว จะเป็นจะตายท่านก็ไม่เคยถามถึง จะใส่ใจไปทำไมเพคะต่างคนต่างอยู่ก็ดีแล้วนี้เพคะ"
นางตอบแล้วมองหน้าของอดีตพระสวามีของร่างเดิมไม่หลบตาเช่นเดียวกัน มีเพียงนางคนเดียวในที่แห่งนี้ที่พอมีตำแหน่งสูงพอที่จะฟาดฟันกับสวามีได้
ท่านอ๋องจ้องตาพระชายาแล้วยกยิ้มมุมปากอย่างถูกใจที่ได้เจอคู่ปรับที่น่าสนใจ ไม่พบกันหกปีทำให้พระชายาของข้าเปลี่ยนไปมากทีเดียวหึท่านอ๋องหัวเราะเบาๆ
"เอ่อหลิงเอ๋อร์" ท่านพ่อของนางมองมาอย่างปรามๆอย่างไรเสียราชบุตรเขยผู้นี้ก็เป็นถึงพระอนุชาในสายเลือดเดียวกับฮ้องเต้องค์ปัจจุบันเกิดผิดใจผิดมาคงเป็นเรื่องยาก
ฟางอี้หลิงจึงพูดกับสองแฝดว่า
" หมิงเอ๋อร์พาน้องไปที่เรือนกับท่านตาก่อนนะลูก แม่มีเรื่องจะคุยกับแขกของท่านตาอีกนานเป็นเด็กดีนะลูก"
นางเอามือลูบหัวเจ้าตัวเล็กที่มองนางตาแป๋วอย่างสงสัย
"ขอรับท่านแม่ข้าจะดูแลน้องเล็กเองขอรับ"
"พ่อจะไปอยู่กับหลานเองเชิญท่านอ๋องคุยธุระกับพระชายาก่อน ไปเถอะหมิงเอ๋อร์เล่อเอ๋อร์ไปที่เรือนกับตาก่อนให้แม่คุยธุระของผู้ใหญ่ก่อนนะลูก"
พูดจบก็เดินไปจูงเอามือหลานทั้งสองคนออกไป ท่านอ๋องพยักหน้าให้คนสนิทออกไปจากในห้องให้หมด รวมถึงคนของนางเองด้วย ฟางอี้หลิงพยักหน้าคนของนางที่คุมเต็มทั้งนอกเรือนในเรือนก็ให้หลบออกไป ท่านอ๋องเองรับรู้ตั้งแต่ที่ลงรถม้าแล้วว่ามียอดฝีมือหลายสิบคนที่คุ้มกันเรือนแห่งนี้
พอทุกคนออกไปจากห้องจนหมดเหลือเพียงท่านอ๋องหยวนอวิ๋นฉีกับฟางอี้หลิงที่กำลังมองหน้ากันเพื่อยั่งเชิงว่า ใครจะเริ่มคุยกันสำหรับรหัส 007 นั้นรับรู้ว่าฝีมือของชายสูงศักดิ์ด้านหน้านางนี้ไม่ธรรมดา