“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉัน”
ธาราทิพย์บอกเสียงแข็ง พยายามปั้นหน้าว่าไม่แคร์ แต่ปฏิภาณดูออก เขาคบธาราทิพย์มานาน ตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยปีสุดท้าย พอรู้อยู่บ้างว่าหญิงสาวเป็นคนจำพวกแข็งนอกอ่อนใน เจอคำหวานจากปากเขาเข้าหน่อย ก็จะอ่อนลงได้ง่ายดายดังเดิม ปฏิภาณยังคงรักธาราทิพย์อยู่ คิดอย่างคนเห็นแก่ตัวว่าธาราทิพย์เองก็น่าจะยังรักเขา ไม่อย่างนั้นเธอจะไม่มีท่าทีอยากตีอกชกหัวตัวเองแบบนี้ เธอจะไม่มีคำพูดแง่งอนหากเธอยังตัดใจจากเขาไม่ขาด หากเป็นไปได้เขาจะตะล่อมให้หญิงสาวรอคอยเขา แต่งงานแล้ว รอจนเด็กคลอดแล้ว เขาจะกลับมาหาธาราทิพย์อย่างแน่นอน
“ซันยังรักธาราอยู่นะ”
“หุบปากเดี๋ยวนี้เลย หยุดพูดคำว่ารักกับฉัน เพราะฉันไม่ได้รักนาย” ธาราทิพย์สวนออกไปทันควัน ใบหน้าหวานเย้ายวนแดงก่ำด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์และโทสะปนกันมากกว่าครึ่งค่อน ปฏิภาณเห็นท่าทีกระด้างของหญิงสาวคน (เคย) รักก็ออกจะตกใจอยู่หน่อยหนึ่ง แล้วเส้นโทสะก็แล่นเป็นริ้วออกมา เมื่อได้ยินว่าเธอไม่ได้รักเขา
“ใช่สิ ธาราไม่เหลือหัวใจให้ซันแล้วนี่ ใช่ไหม ธาราได้ไอ้เสี่ยมาช่วยประคับประคองให้อู้ฟู่ มีเงิน แล้วนี่ ไอ้ธีรัชนั่นใช่ไหมที่ธารารักมันน่ะ”
ธาราทิพย์มองใบหน้าหล่อเหลาขาวสะอาดของปฏิภาณแล้วก็ให้รู้สึกสะใจไม่น้อย เธอยิ้มหวาน ก่อนตอบรับอย่างยั่ว ๆ
“ใช่ แล้วนายจะทำไม”
“ที่แท้ก็เป็นพวกทำงานกะนี่เอง”
“ปฏิภาณ!” เธอกรีดเสียงเรียกชื่ออีกฝ่ายจบก็ผุดตัวลุกขึ้นกำหมัดแน่น ไวกว่าแสงเธอชกเปรี้ยงเต็มแรงเข้าไปที่เบ้าตาข้างขวาของอีกฝ่ายทันที ก่อนจะสะบัดมือออกเพราะเจ็บแปล๊บตรงโคนนิ้วเพราะไม่เคยลงมือลงไม้ทำร้ายใครแบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต
“ฉันทำงานกะ ก็ไม่เกี่ยวกับนายอยู่ดี ไอ้ปีกขึ้นเงา ไหนเอาปีกสีกันให้ฉันดูหน่อยสิ”
ธาราทิพย์เหน็บกลับแล้วยืนกอดอกรอมอง ชายหนุ่มอดีตคนรักมองตอบเธอด้วยสายตาโกรธเคือง ไม่ยอมเอาปีกสีกันให้เธอดู หญิงสาวเลยเดินสะบัดแยกออกไปยังทางด้านข้างบีชบาร์ตรงไปยังไฟเหลือง ๆ ถัดไปไม่ไกลจากนั้น ด้านหลังยังได้ยินเสียงว่ามีคนตามมา หันไปมองก็เห็นว่าเป็นปฏิภาณที่เดินกุมเบ้าตา พร้อมกับร้องเรียกเธอไปด้วย
“หยุดก่อนธารา เราต้องพูดกันให้รู้เรื่องแล้วก็เข้าใจกันมากกว่านี้ก่อน”
เธอไม่หยุดเดินแล้วตรงไปยังบาร์ที่ริมหาดนั่น หันไปมองทางด้านหลังก็พบว่าเขายังตามเธอมาอยู่ถึงบริเวณบาร์ มองไปรอบ ๆ จนสะดุดสายตาของชายต่างชาติคนหนึ่งที่นั่งเอนหลังกอดอกมองมาที่เธออยู่พอดี ใบหน้าของเขานั้นเธอเห็นไม่ชัด บางทีความมืดไม่สว่างจัดแบบนี้ก็อาจทำให้คนหน้าตากลาง ๆ ดูดีได้ แต่ยอมรับล่ะว่ารูปร่างเขาดีไม่น้อยเลยทีเดียว
ความมึนเมาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่สั่งสมมาตั้งแต่ที่เดินทางมาถึงที่นี่ทำให้ธาราทิพย์ใจกล้าเดินตรงไปที่ชายคนนั้นแล้วเอ่ยเสียงหวานกับเขาไปว่า
“นั่งด้วยนะคะ”
ชายหนุ่มคนนั้นหันมามองเธอ แววตาเขาดูดุไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไรนักแต่ถึงอย่างนั้นแล้วก็ยังอุตส่าห์ส่งสายตามองลงที่เก้าอี้ข้างตัวเขา ทำนองตอบรับและเชื้อเชิญในคราวเดียวกัน ธาราทิพย์จึงได้เห็นใบหน้าของเขาชัดขึ้น หล่อใช้ได้เลยนี่นา ถ้าเฌอตามมาด้วยจะต้องเข้ามานั่งแทนที่ แล้วเบียดเธอจนกระเด็นไปทางอื่นแน่นอน
“ธารา” เสียงของชายที่กำลังจะเข้าพิธีวิวาห์เรียกเธอเสียงเขียวเมื่อเห็นว่าเข้าไปนั่งคุยกับชายอื่นต่อหน้าต่อตาตน
“ฉันจะนั่งดื่มกับผู้ชายคนใหม่ของฉันตรงนี้! และคืนนี้คงไม่ต้องบอกนะว่าฉันจะเข้ากะไหน”
ธาราทิพย์บอกเสียงหยันแล้วกระแทกตัวลงนั่ง จงใจเบียดชายแปลกหน้าเพื่อให้ปฏิภาณเห็นว่าเธอเป็นอย่างที่เขาว่าจริง จะได้เลิกมาวอแวกับเธอเสียที ยิ่งมาทำอาลัยอาวรณ์ เธอยิ่งตัดใจไม่ได้
“โน่น เมียคุณมาตามแล้ว” บอกเขาไม่ถึงนาทีดีด้วยซ้ำ ว่าที่เจ้าสาวก็เดินหน้าบึ้งตึงถมึงทึงตรงมาทางนี้แล้ว
“ซัน” เจ้าหล่อนเสียงเขียวทีเดียวขณะเปิดปากเรียก ทั้งยังเดินเร็ว ๆ เข้ามาหาราวกับกลัวว่าแฟนหนุ่มจะถูกธาราทิพย์จับปล้ำเสียตรงนั้นเลย
“มาทำอะไรที่นี่คะซัน”
ชายเจ้าของชื่อไม่ตอบ ตามองนิ่งไปที่ธาราทิพย์ จนอรนุชรู้สึกเดือดจัดมากกว่าเดิมอีกร้อยเท่าพันเท่า “เรากลับเข้าไปข้างในกันเถอะค่ะ เพื่อน ๆ รอถ่ายรูปอยู่นะ”
“ธาราดื่มเยอะอย่างกับจะเมา ผมจะรอดูธาราก่อน”
“ไม่ต้องเลยนะซัน” อรนุชเสียงดังขึ้นในทันที ก่อนบอกต่อจากนั้นว่า “เดี๋ยวบอกเฌอมาดูก็ได้ เราไปกันเถอะค่ะ” พูดจบแล้วลากแขนสามีโดยพฤตินัยที่รอวันเปลี่ยนสถานะทางกฎหมายให้หันกลับไปยังวิลลาหลังใหญ่อีกครั้ง ปฏิภาณจะไม่ไปแต่พอเห็นสายตาของอรนุชก็จำต้องผ่อนแรงต้านตามกันไปในที่สุด คล้อยหลังจากสองคนนั่นแล้ว ธาราทิพย์ค่อยพ่นลมหายใจออกอย่างเซ็ง ๆ บอกชายแปลกหน้าเมื่อนึกได้ว่ามีเขาอยู่อีกคน
“เขาเพิ่งมาง้อฉันเองนะคุณตั้งแต่มีเรื่องกันมาน่ะ”
“ควรพยายามมากกว่านี้”
“ใช่ อย่างน้อยก็น่าจะสัก…” ธาราทิพย์ร้องตอบรับอย่างเห็นด้วย เบ้ปากบอก ขอบตาออกร้อนอีกครั้ง เธออยากร้องไห้อีกแล้ว หลังจากหยุดร้องมาได้ตั้งหลายวัน คว้าแก้วมายกดื่มพรวดเดียวจนหมดกลบอาการเศร้าของตัวเอง แล้วก็ไม่ได้สังเกตเลยว่ามันถูกเปลี่ยนจากพนักงานที่หลังบาร์เครื่องดื่มไปแล้วช่วงที่กำลังมีวิวาทะกับอดีตคนรัก
“สามครั้ง” เสียงจากชายคนนั้นบอกออกมาพร้อมกันกับเธอเลยแล้วพากันนั่งเงียบกันไป
“คุณพูดถูก ตรงใจฉันเป๊ะเลย” ธาราทิพย์พูดขึ้นลอย ๆ คล้ายคุยกับตัวเองมากกว่าจะเอ่ยปากคุยกับเขา “ขอบคุณมาก”
เขามองเธอนิ่งก่อนถามกับด้วยเสียงแบบคนไม่ค่อยอยากคุยด้วย “เรื่องอะไร”
“ช่างเถอะ ฉันไปล่ะ”
แต่แล้วชายคนที่เธอนั่งเบียดเมื่อครู่กลับยึดข้อมือของเธอเอาไว้ สายตาที่บัดนี้ธาราทิพย์มองสบด้วยแปรเปลี่ยนไป
“อยากไปก็ไปง่าย ๆ เลยหรือไงคุณ”
เขายังพูดไม่จบดีเลยด้วยซ้ำ ร่างเย้ายวนของธาราทิพย์ก็ฟุบหน้าลงที่ตรงเคาน์เตอร์นั่นแล้ว