ธาราทิพย์เดินเร็ว ๆ จนแทบจะเป็นวิ่งอยู่แล้ว แต่กระนั้นก็ไม่วายกลับไปมองที่ด้านหลัง แล้วหันขวับไปยังเบื้องหน้าอย่างรวดเร็ว
หญิงสาวแอบหลบออกจากบ้านหลังที่ใช้กักตัวเธอไว้ได้ในจังหวะที่เรียกว่าฉิวเฉียดพอดิบพอดี ที่นั่นมีชายฉกรรจ์ห้าคนเดินยามรอบบ้านร้างในป่ารกที่ไม่รู้พิกัดแน่ชัด ในสมองของเธอยังคงว่างเปล่านึกไม่ออก ไม่รู้ว่าขณะนี้ตนเองอยู่ในบริเวณใดของประเทศกันแน่ หยุดขาลงเพราะเหนื่อยและกระหายน้ำ แหงนมองต้นไม้สูงที่แทงยอดขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างหวาดหวั่นในหัวใจ หรือบางทีเธออาจไม่ได้ยืนอยู่บนประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของตนเองอยู่ก็เป็นได้
อย่าเสียเวลาคิดอะไรอยู่อีกเลย
ต้องไปให้พ้นจากตรงนี้ให้ได้เสียก่อน แล้วเดินลัดเลาะไปยังเบื้องหน้าด้วยเท้าเปล่าเปลือยปราศจากรองเท้าห่อหุ้ม หญิงสาวเหยียบลงบนพื้นที่มีทั้งกรวดกลมมนหยาบแหลมเล็กบ้างใหญ่บ้างตลอดหนทางหลบหนี จนบัดนี้เท้าของเธอเจ็บแปลบเหมือนถูกบาดและน่าจะมีเลือดออกมาด้วย แต่จะให้หยุดเพื่อดูว่าอาการเจ็บนั่นมากน้อยเพียงใดก็ใช่ที่ เธอต้องไปให้พ้นจากตรงนี้ให้ได้ เรื่องปฐมพยาบาลนั่นเล็กไปเลยหากเทียบกับการต้องเอาชีวิตให้รอดจากคนพวกนั้น
ฉับพลันขณะคิดมาได้ถึงตรงนี้ เบื้องหลังของเธอก็ปรากฏร่างหนาใหญ่เดินแหวกต้นไม้ข้างทางโผล่ออกมาดักหน้าเธอ พร้อมเสียงทุ้มแฝงไปด้วยความดุดัน “บอกแล้วใช่ไหมว่าหนีคราวนี้อีกจะให้ไอ้พวกที่เฝ้าอยู่นั่นเวียนกันขึ้นมารุมคุณให้หมดทุกคนแบบเรียงหน้ากระดานเลยน่ะ”
ธาราทิพย์ชะงัก บัดนี้ใบหน้าซีดเผือดไร้ซึ่งสีเลือด อกใจกระหน่ำเต้นไม่เป็นส่ำจนแทบทะลุออกมานอกอก ในบรรดาชายฉกรรจ์ที่เฝ้าอยู่รอบบ้าน เธอกลัวเขาที่สุด หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น ถามเสียงแทบจะเป็นกระซิบ
“ไม่รวมคุณใช่ไหม”
หญิงสาวเห็นรอยยิ้มมุมปากของเขาจุดขึ้นชั่วครู่ ยิ้มที่ไม่ใช่ยินดีใดๆแต่เป็นยิ้มหยันให้เธอเสียมากกว่า แล้วถึงได้ยินเขาตอบกลับมา
“จะถือว่าเป็นคำชวนก็แล้วกัน” เขาบอกมาแบบนั้นแล้วแย้งด้วยเสียงหงุดหงิด “แต่เห็นจะไม่เพราะผมไม่ชอบใช้ของรวมกับใคร”
เขาว่าอย่างเย้ยหยัน ดวงตาสีฟ้าเกือบเทามองเธออย่างหยาบกระด้างจาบจ้วง และเพิ่งสังเกตเห็นว่าท่อนบนของเขาเปลือยเปล่าไม่สวมเสื้อจึงเผยให้เห็นแผงอกตึงแน่นกำยำที่เธอต้องรีบเบือนหน้าหนี ส่วนท่อนล่างของเขาสวมเพียงกางเกงยีนสีซีดขาดตรงหน้าขาทั้งสองข้างบดบังกายท่อนล่างของเขาเอาไว้เพียงเท่านั้น
ใช้ของอะไรรวมกับคนอื่น ตานี่บ้าหรือไง บอกว่ายังซิงยังโสดก็หาว่าแอ๊บ
คิดพร้อมกับเลิกสำรวจเขาไปด้วย แต่แล้วชายตรงนี้เดินเข้ามาตวัดช้อนร่างของเธอที่เล็กจ้อยกว่าเขาเกือบครึ่งต่อครึ่งที่ตอนนี้อ่อนเปลี้ยเพลียแรงลงทุกที เอาขึ้นอุ้มพาดบ่าแล้วพากระเตงกลับไปยังบ้านไม้ที่เขาใช้กักตัวเธอมาได้หลายวันแล้ว จะว่าไปแล้วเธอก็พร้อมจะถูกเขาลากกลับเพราะเหนื่อย หิวน้ำและเจ็บร้าวไปหมดทั้งฝ่าเท้าแล้วด้วย ไม่รู้จะหนีอย่างคนสิ้นคิดแบบนี้ไปทำไม หนีมากี่ครั้งแล้วเคยหนีสำเร็จที่ไหนกัน คิดแล้วปล่อยลำตัวทาบลงไปกับบ่าไหล่ของเขาอย่างหมดเรี่ยวแรง
แรงของเขานุ่มนวล ทะนุถนอมราวกับบนทับอยู่บนฟูกที่เคลื่อนที่ได้
ธาราทิพย์หมดแรงต่อต้าน อดคิดต่อไปไม่ได้ เธออยากรู้นักว่าเขาทำงานให้ใคร แล้วเรื่องพวกนี้มันเกิดขึ้นมาได้อย่างไรกัน
ธาราทิพย์คิดจนหัวแทบแตกก็นึกไม่ออกว่าใครที่อยู่เบื้องหลังเรื่องพวกนี้