SOMEBODY 21
*****************************
“มาแล้วเหรอคะพี่ลิซ”
จัสมินเดินเข้ามาทักฉัน มุมปากของเธอยกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อยเหมือนต้องการที่จะเยาะเย้ยกันยังไงไม่รู้ ฉันอดแปลกใจไม่ได้ที่เธอมองฉันด้วยท่าทีที่ต่างไปจากทุกครั้งที่เราได้เจอกัน
เธอที่เคยน่ารักทำตัวนอบน้อมไปไหนทำไมถึงได้ทำตัวก้าวร้าวแบบนี้ ฉันมองหน้าจัสมินที่มองฉันกลับมาด้วยสายตาเย่อหยิ่ง
ไม่นานพี่คิณณ์ก็เดินเข้ามาหาเราสองคนแต่เขาไม่ได้เดินมาหาฉันหรอกนะ เพราะเขาเดินผ่านฉันไปยืนข้างจัสมินแทน จัสมินกอดแขนพี่คิณณ์และซบหน้าลงที่ไหล่ของเขาอย่างออดอ้อน
นี่มันอะไรกันเขาเป็นแฟนฉันไม่ใช่เหรอเขาต้องอยู่ข้างฉันสิไม่ใช่ไปอยู่ข้างคนอื่นแบบนั้น แล้วสายตาที่พี่คิณณ์มองมาที่ฉันนั้นเหมือนว่าฉันเป็นคนอื่นสำหรับเขาไปแล้ว
เห็นแบบนั้นขอบตาฉันก็ร้อนผ่าวขึ้นมาเหมือนมันจะร้องไห้ที่เขาไม่ได้เลือกฉัน พอหมดรักกันก็ทำกันแบบนี้เลยเหรอ
ใจร้ายเกินไปหรือเปล่าผู้ชายคนนี้
“นี่มันอะไรกัน?” ฉันร้องถามขึ้นมาอย่างไม่เข้าใจ นี่พวกเขากำลังหลอกฉันอยู่เหรอ ทำแบบนี้ได้ยังไง ฉันทั้งรักทั้งเป็นห่วงแต่สุดท้ายโดนสวมเขาแบบนี้ “พี่คิณณ์ไปยืนข้างจัสทำไมคะ?”
“เลิกขึ้นเสียงได้แล้ว พี่ลิซไม่มีสิทธิ์ที่จะมาทำแบบนี้อีกต่อไป”
จัสมินผลักไหล่ฉันให้ออกห่างจากพี่คิณณ์ พี่คิณณ์เองก็ไม่มีทีท่าว่าจะเข้ามาห้ามเลย เขาปล่อยให้จัสมินรังแกฉันอยู่ฝ่ายเดียว
นี่เขาเป็นอะไรไปบทจะหมดรักก็หมดรักเสียดื้อๆ เลยเหรอ
แล้วเรื่องของเราที่ผ่านมาล่ะมันไม่มีความหมายอะไรกับเขาเลยเหรอ เขาไม่คิดสักนิดเหรอว่าตอนที่เขาลำบากใครที่อยู่ข้างเขา ใครอยู่กับเขาในวันที่เขาไม่มีอะไรเลย
“พี่คิณณ์เขาเป็นของหนู เราสองคนรักกัน พี่จำใส่หัวเอาไว้ด้วย”
“ไม่จริง”
“เป็นเรื่องจริงลิซพี่หมดรักลิซแล้ว” น้ำเสียงที่เย็นชาของพี่คิณณ์ทำให้ฉันรับไม่ได้จนทรุดตัวนั่งร้องไห้กับพื้น
ทำไมล่ะทำไมพวกเขาสองคนถึงทำกับฉันได้ลงขนาดนี้ ฉันไปทำอะไรให้ทำไมต้องมาทำร้ายฉันด้วย ฉันมันไม่ดีตรงไหนบอกฉันมาสิฉันพร้อมจะปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้นนะ
“เธอมันเอาแต่ใจ ไม่เคยนึกถึงคนอื่น เธอบังคับให้พี่ชอบเหมือนอย่างที่เธอชอบ เธอไม่เคยถามพี่ว่าพี่ชอบอะไร ชอบสิ่งไหน อยากทำอะไร ไม่อยากทำอะไร เธอไม่เคยถาม”
“...”
“แต่จัสเธอเป็นทุกอย่างให้พี่แล้ว เพราะเราสองคนชอบอะไรที่เหมือนกัน เวลาไปไหนมาไหนก็สบายใจไม่ต้องลำบากใจทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ แต่กับเธอพี่แม่งโคตรเบื่อเลยว่ะที่ต้องมาตามใจอยู่ตลอดเวลา เราเลิกกันเหอะพี่ไม่ได้รักเธอแล้ว”
“ถ้าอยากจะไปไม่ต้องมายกความผิดให้หนูหรอกค่ะ เรื่องที่พี่พูดมาทั้งหมดมันไม่ใช่เรื่องจริงเลยสักนิด”
ที่เขาจะไปเป็นเพราะเขาอยากไปมากกว่ามันไม่ใช่ความผิดของฉันเลย และฉันจะไม่ยอมให้ใครมากล่าวหาฉันแบบนี้ด้วย ฉันร้องตะโกนขึ้นมาว่าตัวเองไม่ได้เป็นอย่างที่เขาพูด
"ลิซไม่ได้เป็นแบบนี้ มันไม่จริง"
“มันเป็นเรื่องจริงพี่ลิซเป็นผู้หญิงที่เห็นแก่ตัว”
“...”
“เป็นผู้หญิงที่ไม่มีผู้ชายอยากคบด้วย ถ้าเขาจะคบเขาก็คบกับพี่เพราะเงินเท่านั้น”
“ไม่จริง เธอโกหก ไม่จริงงงงงงงงงงงง”
...
...
...
“ไม่จริงงงงงงงงงงงงงงงง”
ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมามองไปรอบๆ ตัวพบว่านี่มันห้องของตัวเอง และเมื่อกี้ฉันฝันไปเท่านั้น มันเป็นแค่ความฝัน แต่เป็นความฝันที่เหมือนจริงมาก
นี่ฉันคงคิดมากเรื่องพี่คิณณ์มากไปสินะถึงเอาเก็บไปฝันได้เป็นตุเป็นตะแบบนี้ บ้าจริงๆ เลย
ฉันปาดเหงื่อตัวเองที่ผุดขึ้นมาบนใบหน้าทั้งที่ห้องเปิดแอร์ทิ้งไว้แต่ทำไมฉันถึงรู้สึกร้อนขนาดนี้นะ
พี่คิณณ์ลุกขึ้นมาอย่างตกใจเมื่อได้ยินเสียงร้องของฉันที่ดังลั่นห้อง ฉันพ่นลมหายใจอย่างโล่งอกที่เหตุการณ์เมื่อกี้มันเป็นแค่ความฝันไม่ใช่เรื่องจริง
ฉันหันไปมองหน้าพี่คิณณ์ก่อนจะสวมกอดเขาเอาไว้แน่นเหมือนกลัวว่าถ้าปล่อยอ้อมกอดนี้ไปอาจจะมีคนมาแย่งเขาไปจากฉันก็ได้
"ไม่เป็นไรนะลิซพี่อยู่นี่"
"อย่าทิ้งหนูนะคะ"
"ครับ"
ความฝันของฉันที่เหมือนจริงนั้นมันทำให้ฉันนอนไม่หลับทั้งคืน ฉันตื่นมาอาบน้ำแล้วแต่งตัวเพื่อเตรียมตัวไปเรียน
พี่คิณณ์ยังไม่ตื่นเพราะเขาก็อยู่เป็นเพื่อนฉันทั้งคืนมันเลยทำให้เขาไม่ได้นอนไปด้วย ฉันเองก็ไม่อยากปลุกอยากให้เขาพักผ่อนเยอะๆ ช่วงนี้เขาไม่ค่อยได้พักผ่อนเท่าไหร่
เขาเอาเวลาพักผ่อนของเขาไปทุ่มเทให้กับการทำงานเป็นส่วนใหญ่ ฉันเลยจะไปเรียนเองและเขียนโน้ตบอกเขาเอาไว้เพื่อไม่ให้เขาเป็นห่วง
ฉันเดินลงมาชั้นล่างก็เห็นลูกน้องของคุณพ่อมายืนรอฉันอยู่ ฉันตกใจเล็กน้อยที่จู่ๆ พ่อก็สั่งให้คนมาดักรอฉันแบบนี้ เพราะฉันเคยสั่งห้ามไปแล้วว่าไม่ต้องให้คนมาดักรอแบบนี้ฉันไม่ชอบ
และไม่ต้องมาคอยสะกดรอบตามฉันเพื่อเอาไปรายงานพ่อ ฉันมองหน้าพวกเขาสองคนและหนึ่งในนั้นก็เป็นคนที่ฉันสนิทด้วยสมัยเด็ก
แต่ตอนนี้เขาไม่เหมือนเดิมแล้วเพราะเขาเปลี่ยนไปจนฉันไม่คิดเลยล่ะว่าเขาจะเปลี่ยนไปมากขนาดนี้
“คุณหนู”
หนึ่งในนั้นพูดขึ้นมาเมื่อเห็นว่าฉันกำลังจะเดินเลี่ยงไปทำให้ฉันหยุดเดินแล้วหันกลับไปมองอย่างหาเรื่อง
ก็รู้นี่ว่าไม่ชอบให้มาเฝ้าแบบนี้ ครั้งก่อนก็เคยบอกไปแล้วแต่ก็ยังจะมาอีก มาเพื่ออะไรมาเพื่อเอาเรื่องของฉันไปรายงานพ่อน่ะเหรอ
“มาทำอะไรที่นี่?” ฉันมาหยุดยืนตรงหน้าคนที่เคยสนิทกัน เขาก้มหน้าลงเพราะไม่อยากมองสบตากับฉัน
เห็นมั้ยเขาเปลี่ยนไปจริงๆ ด้วย เพราะถ้าเขายังเหมือนเดิมกับฉันเขาจะไม่ทำตัวห่างเหินกับฉันแบบนี้ เขาทำเหมือนฉันไม่ใช่คนที่เคยสนิทกันแล้ว
“นายท่านบอกให้ผมมาดูแลคุณหนูครับ”
“ฉันไม่ได้สั่ง” ฉันปฏิเสธทันทีเรื่องอะไรจะยอมให้พ่อมาบงการชีวิตฉันล่ะ
ฉันเคยบอกแล้วนะว่าปล่อยให้ฉันได้ตัดสินใจทำอะไรด้วยตัวเองบ้าง อย่ามาบังคับฉันให้ทำในสิ่งที่ฉันไม่อยากทำ ถ้าสิ่งที่ฉันเลือกทำหรือตัดสินใจมันผิดฉันพร้อมที่จะยอมรับมัน
“กลับไปได้แล้ว ฝากบอกคุณพ่อด้วยนะว่ารอบตัวฉันไม่มีอะไรที่เป็นอันตรายนอกจากนาย”
“ไม่ได้ครับ”
ทั้งสองคนเดินเข้ามาขวางฉัน และกางแขนไม่ยอมให้ฉันได้เดินหนีไป ฉันยืนเท้าเอวอย่างโมโหจะอะไรกับฉันนักหนาก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้สั่งให้มาดูแลแล้วจะมาทำเพื่ออะไร หรือเกิดอยากเป็นลูกน้องที่ดีขึ้นมางั้นเหรอ
“ลิซทำตามที่นายบอกเหอะ”
“...” หนึ่งในลูกน้องของพ่อเรียกชื่อฉันเหมือนว่าเราสนิทกันมาก
นี่เขารู้ตัวแล้วเหรอว่าเขาเคยสนิทกันมาแค่ไหน พอตัวเองเข้าไปทำงานกับพ่อฉันเขาก็เปลี่ยนไป
เขาทำเหมือนฉันไม่ได้สำคัญกับเขาอีกแล้ว ก็เหมือนเมื่อกี้ไงเพราะคำพูดและแววตาที่มองฉันมันเหมือนว่าฉันเป็นแค่ลูกเจ้านายเขาเท่านั้น
เมื่อก่อนเราสองคนโคตรสนิทกันเลยล่ะ ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดจนกระทั่งพ่อเรียกให้เขาไปทำงานกับพ่อตอนนั้นเขาก็เริ่มตีตัวออกห่างจากฉัน
ไม่ยอมมาเล่นกับฉัน
ไม่ยอมมองหน้าฉันทำเหมือนฉันไม่มีตัวตน
เขาทำให้ฉันเสียใจมากในตอนนั้นและมันก็ทำให้ฉันไม่พูดกับเขาอีกเลย และหนีออกมาอยู่คนเดียวตอนที่ขึ้นมหาลัยเพื่อที่จะไม่เจอกับเขาแล้วทำให้ตัวเองทำใจง่ายขึ้น
เรื่องราวของเราสองคนมันวกกลับเข้ามาในหัวของฉัน ภาพบรรยากาศที่มีแค่เรามันทำให้ฉันไม่อยากนึกถึงมันอีก
กว่าฉันจะตัดใจจากเขาได้มันใช้เวลานานมากเลยนะ และตอนนี้ฉันก็มีแฟนแล้วด้วย
พี่คิณณ์เข้ามาตอนที่ฉันต้องการหาใครสักคนเข้ามาแทนที่ผู้ชายใจร้ายอย่างเขาพอดี มันก็เลยทำให้ฉันลืมเขาง่ายขึ้นและเลือกที่จะมองแต่พี่คิณณ์ที่ดูแลฉันมาตลอด
ยอมรับก็ได้ว่าตอนนั้นฉันรักเขาและฉันก็รู้ว่าเขาเองก็รักฉันเหมือนกัน แต่ฉันไม่รู้ว่าเพราะอะไรที่ทำให้เขาเปลี่ยนไปมากขนาดนี้
จากคนที่มีความรู้สึกดีๆ ให้กันต้องกลายเป็นคนที่ไม่รู้จักกันแบบนี้ทั้งที่ฉันก็ไม่ได้ทำอะไรให้เขาไม่พอใจหรือโกรธเลย ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะลืมฉันง่ายขนาดนี้
ฉันยังจำได้เลยนะวันที่ฉันพาพี่คิณณ์ไปเปิดตัวกับครอบครัวของฉันเขาทำหน้ายังไง เขายิ้มเหมือนแสดงความยินดีกับฉัน
เขาไม่มีทีท่าว่าจะหวงฉันสักนิดเขาทำเหมือนคนที่หมดรักกันอย่างง่ายดายจนฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนเรามันจะเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้ มันเลยทำให้ฉันโกรธเขามากกว่าเดิมจนไม่อยากพูดด้วย
และตอนนี้เขากลับมาพูดเหมือนว่าเราสองคนยังสนิทกันอยู่ ทั้งที่สี่ปีที่ผ่านมาเขาเรียกฉันว่าคุณหนูมาตลอด เขาทำตัวเป็นลูกน้องที่เชื่อฟังคำสั่งเจ้านายมาตลอด แล้วเมื่อกี้คำพูดของเขามันทำให้ฉันรู้สึกเจ็บที่ใจขึ้นมา
รู้มั้ยว่าฉันต้องการให้เขาพูดกับฉันเหมือนเดิมอยากให้เขากลับมาเป็นเหมือนเดิมนานแค่ไหนแต่เขาก็ไม่เคยทำให้ฉันได้เลย
พอได้ยินประโยคแรกที่เหมือนเรายังเป็นเหมือนเดิมแบบนี้มันก็ทำให้ขอบตาฉันร้อนผ่าวขึ้นมา
“นายไม่ได้หูหนวกหรอกใช่มั้ย ฉันบอกว่าไม่”
ฉันผลักไหล่เขาแล้วเดินหนีออกมาแต่เขาก็คว้าข้อมือฉันเอาไว้ก่อนจะกระชากตัวฉันให้เข้าหาเขา
แรงของเขาทำให้ฉันเซถลาเข้าไปแนบชิดกับอกแกร่งเขาเข้าอย่างพอดีเลย เลยกลายเป็นว่าตอนนี้ฉันอยู่ในอ้อมกอดของเขาไปแล้ว
อ้อมกอดที่ฉันไม่ได้รับมันมานานหลายปี ตอนนั้นฉันต้องการมากแค่ไหนเขาก็ไม่คิดที่จะมอบมันให้ฉันเลย แต่ตอนนี้เขากลับกอดฉันเอาไว้แน่นมากเหมือนไม่อยากปล่อยฉันไป
“ปล่อยฉันนะชินต์”
“เรียกพี่ชินต์ถึงจะถูกนะ”