วันนี้ไม่ได้เป็นวันที่ฉันต้องมาดูรุ่นน้องซ้อมเต้นหลีดแต่ฉันเลือกที่จะมา ตุ๊กตายังตกใจเลยที่ฉันอาสามาแบบนี้เพราะทุกทีฉันจะปฏิเสธการอยู่เฝ้าน้องๆ ซ้อมกัน
แต่วันนี้พิเศษหน่อยเพราะฉันอยากรู้ว่าจัสมินจะเล่นหูเล่นตาตอนที่พี่คิณณ์มารับฉันหรือเปล่า
ถึงว่าล่ะเมื่อวานตอนที่ฉันถามเธอว่าชอบพี่คิณณ์หรือเปล่าเธอถึงได้หน้าแดงอย่างเขินอายแบบนั้น เธอคงไม่ได้ชอบแค่นิสัยพี่คิณณ์แล้วล่ะแต่คงชอบอย่างอื่นด้วย
ก็ไม่ได้อยากจะทำแบบนี้หรอกนะแตสิ่งที่เธอทำมันทำให้ฉันต้องทำแบบนี้ ฉันจะไม่ยอมให้ใครมาสวมเขาให้ฉันแน่ๆ
ถ้าฉันจับได้ว่าจัสมินคิดที่จะมาแย่งพี่คิณณ์ไปจากฉันฉันก็คงไม่สามารถที่จะทำหน้าที่เป็นรุ่นพี่เธอได้อีกต่อไป
จริงอยู่ที่ผ่านมาเธอดีและน่ารักกับฉันแต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าเธอจะดีตลอดไปนี่ คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจหรอก
อีกอย่างเธอก็เพิ่งเข้ามาตีสนิทกับฉันช่วงพักหลังๆ มานี้เองตั้งแต่ที่รู้ว่าเป็นแฟนกับพี่คิณณ์ งั้นก็เอาให้รู้ไปเลยว่าเธอคิดที่จะแย่งคนของฉันไปอย่างที่ฉันคิดไว้หรือเปล่า
จัสมินเดินมากับเพื่อนๆ ของเธอเพื่อที่จะมาซ้อมตามปกติพอเห็นหน้าฉันเธอก็ทำหน้าแปลกใจที่ฉันมาอยู่ซ้อมด้วยแบบนี้ ฉันเป็นคนที่ชอบปฏิเสธเรื่องกิจกรรมตลอด
เคยมีอยู่วันหนึ่งที่ฉันทะเลาะกับตุ๊กตาเรื่องมาซ้อมน้อง มันบอกให้ฉันมาดูน้องช่วยมันแต่ฉันบอกว่าฉันจะมาดูแค่อาทิตย์ละครั้งหรือสองครั้งเท่านั้น เราก็เลยทะเลาะกันเสียงดังทำให้รุ่นน้องได้ยินด้วย
“วันนี่พี่ลิซมาซ้อมด้วยเหรอคะปกติเห็นมาอาทิตย์ละครั้ง”
"อื้อ พอดีพี่คิณณ์จะมารับน่ะก็เลยแวะมาดูได้” ฉันพูดยิ้มๆ จัสมินยิ้มดีใจที่ฉันมาดูเธอเธอกอดแขนฉันแล้วบอกว่าเธอดีใจมาก
เธออยากให้ฉันมาดูเธอซ้อมทุกวัน หน้าตาใสซื่อของเธอมันเริ่มทำให้ฉันคิดว่าบางทีเธออาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่ฉันคิดก็ได้ เด็กผู้หญิงที่มีความน่ารักแบบนี้จะกล้าแย่งแฟนรุ่นพี่ตัวเองได้เหรอ
หลังจากซ้อมรุ่นน้องเสร็จพวกเราต่างก็แยกย้ายกันกลับ ก็คงจะมีแต่จัสมินที่ไม่ยอมไม่ไหนเหมือนจะรอใครสักคนให้ผ่านมาทางนี้
ฉันเดินเข้าไปหาเพื่อที่จะถามว่าเธอรอใครหรือเปล่า เพราะวันนี้ฉันเห็นว่าเธอเอารถมาเอง พอเห็นฉันเดินมาหาเธอก็รีบเก็บมือถือเข้ากระเป๋าเหมือนกลัวว่าฉันรู้ว่าเธอกำลังคุยกับใคร
ฉันไม่ใช่คนอยากรู้อยากเห็นเรื่องของคนอื่นหรอกนะ มันไม่ได้สำคัญอะไรกับฉันสักนิดเลย นอกจากว่าคนที่เธอคุยด้วยคือคนที่เธอไม่อยากให้ฉันรู้อ่ะนะ
“ยังไม่กลับอีกเหรอเพื่อนๆ กลับกันหมดแล้วนะ?”
“ค่ะ คือหนู...”
จัสมินเลิ่กลั่กเหมือนหาคำตอบไม่ได้ก่อนที่เธอจะมองผ่านฉันทำให้ฉันต้องมองตามแล้วเห็นว่าพี่คิณณ์ขี่รถมาจอดรอฉันแล้ว
“หนูรอเป็นเพื่อนพี่ลิซไงคะ นี่มันดึกแล้วไม่อยากให้พี่ลิซรอคนเดียว”
“ตอนนี้ก็กลับได้แล้วล่ะเพราะพี่ก็จะกลับเหมือนกัน” ฉันเดินไปหาพี่คิณณ์แต่ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินตามหลังมาใกล้ๆ ทำให้รู้ว่าจัสมินเดินตามฉันมาทั้งที่รถของเธอจอดอยู่อีกฝั่งซึ่งไม่ใช่ทางนี้ที่เธอเดินมา “มีอะไรกับพี่คิณณ์เหรอ?”
“เปล่าค่ะหนูแค่อยากมาทักทาย”
พี่คิณณ์พยักหน้าทักทายน้องสาวนอกไส้ของตัวเองอย่างสนิทสนม นี่ถ้าฉันไม่อยู่ตรงนี้คงกระโดดกอดคอกันไปแล้วมั้ง ฉันพยายามที่จะไม่คิดอะไรแล้ว
พยายามคิดว่าจัสมินแค่อยากมาทักพี่ชายต่างสายเลือดตัวเองเท่านั้น แต่สายตาที่เธอมองแฟนฉันมันทำให้ฉันคิดว่าเธอคิดกับพี่คิณณ์มากกว่าพี่ชายหรือเปล่า
“คืนนี้พี่คิณณ์ได้ไปทำงานส่งของมั้ยคะ?”
“เปล่าหรอกวันนี้เป็นวันของลิซเขาน่ะ” พี่คิณณ์พูดแล้วยิ้มให้ฉัน
ที่เขาพูดว่าเป็นวันของฉันก็เพราะทุกอาทิตย์จะมีอยู่หนึ่งวันที่เขาจะอยู่นอนกับฉันที่ห้องเพื่อไม่ให้ฉันเหงา และวันนี้ก็มาถึง จัสมินยิ้มดีใจเหมือนว่าเธอได้เป็นคนนอนกอดพี่คิณณ์เอง
“รู้ป่ะรุ่นพี่จัสน่ะขี้อ้อนสุดๆ เลยว่ะ วันไหนถ้าพี่ไม่อยู่ด้วยจะงอนหนักมากแล้วถ้าไม่ง้อก็หนีกลับบ้าน เพราะรู้ว่ามันเป็นที่เดียวที่พี่ไปไม่ได้”
“ก็พี่ลิซรักพี่คิณณ์นี่คะ คิคิ”
ก็ไม่รู้ว่าเธอได้พูดจากใจจริงหรือเปล่าแต่ดูเหมือนเธอจะไม่ได้แสดงความไม่พอใจเลยนะ ดูดีใจมากกว่าเสียใจซะอีกหรือว่าฉันกำลังคิดมากไปเอง
บางทีสองคนนี้อาจจะไม่ได้มีอะไรก็ได้ เพราะพี่คิณณ์ก็พูดเหมือนไม่ได้ใส่ใจจัสมินเท่าไหร่ด้วย เขาพูดเหมือนว่าเขารักฉันมาก
“งั้นหนูกลับก่อนนะคะ แค่อยากมาทักทายพี่ชายของหนู”
“อื้อ ขับรถกลับดีๆ ล่ะ”
พี่คิณณ์โบกมือลาจัสมิน ฉันมองท่าทางของทั้งสองก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไรให้ฉันจับพิรุธได้เลย ฉันคิดว่าตัวเองคิดมากเกินไปแล้วล่ะ มันคงไม่มีอะไรให้ฉันต้องเป็นกังวลหรอก
“ยืนทำไรขึ้นรถดิ”
“ค่ะ” พี่คิณณ์สวมหมวกกันน็อกให้ฉัน
น้อยครั้งเลยนะที่เขาจะเป็นคนสวมหมวกกันน็อกให้ฉันแบบนี้ เขาก็เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้วล่ะฉันเลยไม่ได้คิดมากกับการกระทำของเขาเท่าไหร่
เขาไม่จำเป็นต้องพูดคำหวานๆ เหมือนคนอื่นแต่ขอแค่เขายังรักฉันเหมือนเดิมก็พอแล้วล่ะที่ฉันต้องการจากเขา
[JASMIN : SAID]
ฉันแอบมองพี่คิณณ์และพี่ลิซที่ขับรถออกไปจากรั้วมหาลัย พี่ลิซโชคดีนะที่มีพี่คิณณ์เป็นแฟน ถึงเขาจะไม่ได้รวยแต่เขาก็ใส่ใจดูแลคนที่เขารักได้ดีมากเลยล่ะ
วันที่พี่ลิซเป็นลมและฉันช่วยมาส่งพี่คิณณ์ตกใจมากที่สภาพแฟนของเขาเป็นแบบนั้น ดูเขาจะรักพี่ลิซมากเลยนะ และฉันก็ดีใจที่พี่คิณณ์รับฉันเป็นน้องสาวของเขา เพราะเขาเองก็ไม่มีน้องสาวเหมือนกัน
ฉันอยากมีพี่ชายให้คอยปกป้องเวลาที่ฉันมีปัญหาบ้างก็เท่านั้นเอง อีกอย่างฉันก็อยากมีพี่สาวที่แสนดีอย่างพี่ลิซด้วย
“ฉันรู้นะว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่จัสมิน”
ฉันหันไปมองด้านหลังก็เห็นพี่ตุ๊กตายืนกอดอกจ้องมองฉันตาขวาง ฉันตกใจที่เธอยังไม่กลับแล้วเมื่อกี้ที่เธอพูดหมายความว่าอะไร ฉันยังไม่ได้คิดอะไรเลยนะ ฉันก็แค่มองพี่ลิซกับพี่คิณณ์เท่านั้นเอง
“พี่ตุ๊กตาพูดเรื่องอะไรคะหนูไม่เข้าใจ?”
ฉันถอยห่างจากพี่ตุ๊กตาเมื่อเธอเดินเข้ามาใกล้ฉัน พี่ตุ๊กตาน่ะเป็นรุ่นพี่ที่ใจร้ายมากไม่เหมือนพี่ลิซเลยที่อ่อนโยนและแสนดีกับฉัน
และท่าทางของพี่ตุ๊กตาก็เหมือนไม่ชอบฉันด้วย นี่ฉันก็ไม่รู้นะว่าไปทำอะไรให้เธอเธอถึงไม่ชอบขี้หน้าฉันแบบนี้
“จ้องจนตาแทบถลนแบบนี้อย่าบอกนะว่าไม่ได้คิดอะไรกับแฟนของลิซ?”
ฉันตาเบิกกว้างด้วยความตกใจที่พี่ตุ๊กตาคิดแบบนั้น ฉันยังไม่ได้คิดอะไรอย่างที่เธอพูดเลยนะและไม่ได้จ้องพี่คิณณ์ขนาดนั้นด้วย เธอเอาอะไรมาพูด
“ปากบอกรักพี่ลิซอย่างนั้นอย่างนี้แต่สุดท้ายก็หวังที่จะตีท้ายครัวเพื่อนฉันสินะ”
“พะ...พี่ตุ๊กตา”
“ฉันเองก็ไม่ได้ชอบพี่คิณณ์อะไรนั่นหรอก แต่ฉันก็ไม่อยากให้เพื่อนฉันมีปัญหาเพราะคนนอกอย่างเธอเหมือนกัน”
พี่ตุ๊กตาบีบต้นแขนฉันจนฉันร้องออกมาด้วยความเจ็บแต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ยอมปล่อย
“จำเอาไว้นะว่าพี่คิณณ์เป็นของลิซ อย่าคิดที่จะมาทำให้เพื่อนฉันเสียใจ”
ฉันยืนร้องไห้มองแผ่นหลังของพี่ตุ๊กตาเดินจากไป ทำไมต้องทำรุนแรงกับฉันแบบนี้ด้วย ฉันไม่เคยคิดที่จะทำให้พี่ลิซเสียใจเลยนะเพราะพี่ลิซเป็นคนที่ฉันชอบมาก ที่ฉันเข้าเรียนคณะนี้ก็เพราะเธอเลยนะฉันอยากเป็นเหมือนเธอก็เท่านั้นเอง ทำไมพี่ตุ๊กตาถึงได้คิดว่าฉันจะทำร้ายพี่ลิซล่ะ
ฉันปาดน้ำตาตัวเองออกก่อนจะเดินไปที่รถของตัวเองแล้วขับออกไปจากมหาลัยด้วยความน้อยใจที่ไม่มีใครเข้าใจฉันเลย
ฉันกำพวงมาเลยแน่นด้วยความน้อยใจในโชคชะตาของตัวเองที่พยายามเป็นเหมือนพี่ลิซยังไงก็เป็นไม่ได้
เคยมีคนพูดถึงฉันนะว่าต่อให้ฉันพยายามให้เหมือนพี่ลิซยังไงก็ไม่มีทางเหมือนเพราะระหว่างฉันกับเธอมันเทียบกันไม่ได้ ฉันพยายามลบคำสบประมาทของคำพูดพวกนั้นทิ้งไป และฉันก็ต้องทำให้ได้ด้วย
[JASMIN : SAID END]