ตอนที่2

2418 คำ
ตอนที่ 2 เจี่ยอวี้หลันหลับและตื่นสลับกันไปมา แต่มิอาจทราบได้ว่าวันเวลาผ่านไปกี่วันกี่คืนแล้วกันแน่ นางรู้เพียงเจ็บทุกครั้งที่นางหายใจเป็นเช่นไรนางซาบซึ้งแล้วในคราวนี้ แต่ถึงจะเจ็บปวดถึงเพียงนั้นในใจอยากยอมแพ้อยากตายไปเสียจะได้ไม่ต้องรับรู้ถึงความเจ็บปวดแสนสาหัสนี้แม้แต่น้อย ภาพของจางหมัวมัวกับสองสาวใช้ เสี่ยวหมิ่นกับเสี่ยวเจี๋ยนั้นยังคอยกระตุ้นเตือนในใจของนางให้ไม่ยอมแพ้ ไม่ยอมตาย เพราะหากนางรอดไปได้ต่อให้ต้องขายตัวขายชีวิต นางก็จะยอมทั้งหมดขอเพียงให้นางได้แก้แค้น ให้นางได้เอาคืนสามแม่ลูกพวกนั้น กับอีกหนึ่งบุรุษใจดำเช่นมู่หรงจิ่ง นางอยากจะสั่งสอนให้เขารู้ว่าสตรีมิใช่ของตายไม่ใช่เครื่องมือให้เขาหลอกใช้ได้โดยง่าย หากนางไม่ยินยอมไม่ว่าใครก็อย่าได้คิดมาหลอกใช้นางเป็นเครื่องมือให้สมหวังเด็ดขาด! กับอยากจะมีโอกาสสักครั้งไปถามบิดากันต่อหน้าว่าเหตุใดจึงไม่ช่วยเหลือนางปล่อยให้นางถูกหลอกและเกือบถูกสองแม่ถูกจับกรอกยาพิษได้อย่างไร?! นางอยากทราบจากปากของบิดาจริงๆ "ฟื้นแล้วหรือ?" เสียงทุ้มต่ำดังขึ้น อยู่ไม่ไกลนี้นี่เองถึงจะยากเย็นแต่เจี่ยอวี้หลันนั้นก็พยายามกัดฟันฝืนลืมตาขึ้นมาจนได้ แล้วภาพใบหน้าของบุรุษผู้หนึ่งที่รูปงามราวกับหยกสลักก็ปรากฏแก่สายตาของนาง คิ้วเข้มและยาวราวกับกระบี่ปลายหางคิ้วเชิดเฉียงชี้ขึ้นเล็กน้อยนั้นขมวดอยู่แค่พองาม รับกับดวงตาหงส์ อย่างพอเหมาะพอดีกำลังจับจ้องตรงมาที่นางเขม็ง คล้ายกับเขากำลังพิจารณาสีหน้าของนางอยู่ว่านางคิดหรือต้องการสิ่งใด แต่เพราะเจี่ยอวี้หลันสติยังไม่มั่นคงจึงไม่แน่ใจว่าบุรุษตรงหน้านี้มีอยู่จริง หรือแท้จริงนางกำลังฝันเห็นจอมมารร้ายผู้ควบคุมขุมนรก หรือไม่ก็อาจเป็นราชาปีศาจร้ายมาล่อลวงนางกันแน่ เนื่องจากนางได้กลิ่นคาวเลือดจากบุรุษด้านข้างนี้รุนแรงอย่างยิ่ง มนุษย์ปกตินางเกิดมาสิบเจ็ดปียังไม่เคบพบเคยเห็นมาก่อนเลย "พญายม?" พอสามคำนี้หลุดออกจากปากจิ้มลิ้มที่แห้งและแตกจนเป็นขุยเท่านั้นคิ้วกระบี่ของบุรุษที่นั่งอยู่บนเก้าอี้จากแค่ขมวดเล็กน้อยแค่พองามพลันขมวดจนหัวคิ้วทั้งสองแทบจะชนกันที่ตรงหน้าผากของเขาขึ้นมาทันควัน "อันใดนะ?" ซ่างกวนไท่ถามออกไปเพราะไม่แน่ใจว่าคนป่วยที่นอนกึ่งหลับกึ่งตื่นมาหกวันหกคืนนั้นได้สติหรือนางแค่ละเมอเท่านั้น แต่ฟื้นขึ้นมาคำแรกนางเอ่ยปากถามว่าเขาคือพญายมมันออกจะแปลกไปสักหน่อยกระมัง "ท่านคือพญายมหรือเป็นผู้มีพระคุณเจ้าค่ะ" เป็นครั้งแรกในชีวิตยี่สิบสามปีของซ่างกวนไท่เลยก็ว่าได้ที่เขารู้สึกหัวเราะไม่ได้จะร้องไห้ก็ไม่ออกเช่นนี้ อาจเพราะเขาหน้าตาคล้ายอดีตฮองเฮาผู้เป็นมารดามากกว่าพี่ชายเขาจึงรูปงามมาตั้งแต่ยังเด็กรูปงามราวกับเป็นราชาปีศาจ เคยถูกชื่นชมมาไม่น้อยจากสตรีแต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาถูกสตรีเข้าใจผิดว่าเขาคือพญายม "คงเป็นเจ้ากรรมนายเวรของเจ้ากระมังแต่ความจริงคนส่วนมากเรียกเปิ่นหวางว่าปีศาจขาวน่ะนะ ผู้ใดอยู่ด้านนอกไปเรียกท่านหมอหยวนมาให้เปิ่นหวางหน่อย แจ้งกับเขาว่าคนป่วยได้สติแล้ว" ประโยคแรกกล่าวประชดคนป่วย ประโยคต่อๆ ไปคือการเรียกหาท่านหมอเทวดาฝีมือฉกาจเช่นหยวนหย่งฉี แต่ประชดใครไม่ประชด ดันไปประชดคนป่วยเพิ่งฟื้น เจี่ยอวี้หลันจึงคิดว่าตนเองกึ่งฝันกึ่งตื่นอยู่เท่านั้น กว่าจะรู้ว่า ท่านพญายมหน้าหยกนั้นพูดประชดก็ผ่านไปอีกสองวันนั่นแหละ "วันนี้รู้สึกเป็นอย่างไรบ้างแม่นาง" หลังจากมาถึงเสียนหยางได้เพียงหนึ่งวันของขบวนชินอ๋องซ่างกวนไท่ ข่าวใหม่และใหญ่ที่สุดในเสียนหยางจะเป็นเรื่องใดไปได้ หากมิใช่ข่าวที่ว่าเจ้าสาวของเฉินกั๋วกง มู่หรงจิ่งหนีงานวิวาห์แล้วไปกระโดดหน้าผาราวกับจะปลิดชีพตนเองและเพราะหน้าผาแห่งนั้นสูงชันยิ่งนักจึงคาดว่าคุณหนูรองหลู่น่าจะตายมากกว่าอยู่ ทว่าจนป่านนี้ก็ยังไม่ได้ข่าวคราวว่านางตายจริงรอดตายแล้วหลบหนีไปที่ใดเสียแล้วกันแน่ แต่เรื่องนี้กลับทำให้จิ้งหนานโหว หลู่ฮั่นเหลียง นั้นถึงกับล้มป่วยติดเตียงพูดไม่ได้เดินยิ่งไม่ได้เลยทีเดียว คงไม่ต้องเอ่ยถึงฝ่ายเจ้าบ่าวเฉินกั๋วกงที่อับอายขายหน้าจนแทบไม่กล้าออกจากจวน เช่นนี้ทั้งซ่างกวนไท่และคนสนิทของเขารวมไปถึงเว่ยกั๋วกงมีหรือคาดเดาไม่ได้ว่าคนป่วยที่ได้ช่วยเอาไว้คือผู้ใดแต่รู้ก็ส่วนรู้จะพูดออกมาหรือเปล่ามันก็ออกเรื่อง "ไม่เจ็บมากแล้วเจ้าค่ะท่านหมอ" ถึงจะยังเจ็บปวดอยู่มาก และนางยังหายใจได้ไม่เต็มท้อง ทว่าอาการโดยรวมสำหรับเจี่ยอวี้หลันนั้นก็ดีขึ้นมากแล้วจริงๆ ไม่เจ็บทุกครั้งที่หายใจเข้าออกอีกแล้ว "ช่วงนี้แม่นางต้องพยายามนั่งให้นาน ระหว่างนั่งและเดินให้ฝึกหายใจเข้าลึกและปล่อยออกสุด หรือเรียกว่าหายใจเต็มท้องให้บ่อยที่สุด สภาพภายในจะได้แข็งแรงโดยเร็ว" ด้วยอาการซี่โครงหักทิ่มปอดถึงจะปลอดภัยระบายเลือดออกหมดแล้วแต่ปอดก็ยังไม่หายดี "ขอบคุณท่านหมอมากนะเจ้าค่ะที่ช่วยชีวิตของข้าเอาไว้" เจี่ยอวี้หลันขอบคุณท่านหมอผู้นี้จริงๆ หากไม่ได้เขานางที่บาดเจ็บหนักเพียงนั้นเช่นไรก็คงตายแน่นอน "หากคิดขอบคุณคิดว่าแม่นางขอบคุณผิดคนแล้ว เพราะคนที่ช่วยแม่นางขึ้นมาและพามาให้ข้ารักษานั้นคือชินอ๋อง" หยวนหย่งฉีเอ่ยเสียงเรียบแต่ภายในใจก็อดจะสงสารสตรีตรงหน้าเสียมิได้หนีจากคนชั่วมาเจอปีศาจโดยแท้ยิ่งช่วงนี้มีเรื่องใหญ่และสตรีตรงหน้าอาจจะสามารถช่วยได้เขายิ่งเห็นใจนางจริงๆ ชินอ๋อง?!... ฝ่ายเจี่ยอวี้หลันนั้นนางยังไม่รู้เรื่องรู้ราวอันใดลึกซึ้งนักดังนั้นนางย่อมมิคาดมาก่อนเลยว่าผู้มีพระคุณของตนเองนั้นจะเป็นถึงชินอ๋อง ก่อนจะนึกไปถึงชื่อเสียงของชินอ๋องผู้นั้น ช่วงที่นางอายุเพิ่งจะเต็มสิบสามนั้นก่อนมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อยู่สองเหตุการณ์ในเสียนหยาง นั่นก็คืออดีตฮ่องเต้และหยวนฮองเฮานั้นถูกลอบปลงพระชนม์โดยองค์ชายรองหวังยึดครองราชบัลลังก์ และเหตุการณ์ที่สองไม่ห่างกันเพราะองค์ชายรองยังไม่ทันได้สมหวังเขาและพรรคพวกก็ถูกองค์ชายเจ็ดในขณะนั้นร่วมมือกับองค์ไท่จื่อที่เป็นพี่ชายแท้ๆ มีบิดาและมารดาเดียวกันจับกุมและประหารสิ้นในเวลาหนึ่งวันกับหนึ่งคืนหลายตระกูลใหญ่สูญสิ้น หลายพันชีวิตหรืออาจถึงหนึ่งหมื่นตายตก โลหิตเนืองนองที่หน้าประตูพระราชวังทิศตะวันตกซากศพมากมายกองสูงราวภูเขาจนใช้เวลาเผานานนับสิบวันจึงหมดสิ้น ถึงจะเป็นการปราบกบฏองค์ชายรอง แต่การสังหารคนไม่เว้นแม้แต่เล็กแรกเกิดหรือสตรีตั้งครรภ์ก็ออกจะโหดเหี้ยมอยู่มาก ดังนั้นต่อให้นับจากนั้น ไท่จื่อซ่างกวนโทวได้ขึ้นเป็นฮ่องเต้และองค์ชายเจ็ดซ่างกวนไท่นั้นถูกแต่งตั้งเป็นชินอ๋อง แต่ชื่อเสียงด้านความเหี้ยมโหดนั้นกลับมิได้จางหายไปนับเป็นฮ่องเต้และชินอ๋องที่เหยียบซากศพและเลือดเนื้อคนขึ้นไปยืนบนจุดสูงส่งมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ของต้าเซี่ยเกือบห้าร้อยปีเลยก็ว่าได้ ในสายตาชาวบ้านจึงแอบตั้งฉายาให้ทั้งสองว่าคู่ปีศาจดำขาวนับแต่นั้นเป็นต้นมา แต่เมื่อสองปีก่อนตอนที่เจี่ยอตอนหลันอายุครบสิบห้าปีและเพิ่งจะสูญเสียท่านปูและท่านย่าไปนางจำได้ว่าชินอ๋องพากองทัพเฮ่ยหลงของเขาที่มีกำลังคนมากกว่าแสนนายนั้น เดินทางไปยังแคว้นเป่ยฉีเพื่อปราบปรามกบฏเผ่าหูและเผ่ากั๋วเซ่าที่คิดฉวยโอกาสในขณะที่แผ่นดินต้าเซี่ยเปลี่ยนฮ่องเต้ใหม่คิดจะแยกตัวออกไปเป็นอิสระแล้วมิใช่หรือ และเขานั้นยังคงรั้งอยู่ที่เป่ยฉีหลังศึกปราบกบฏสองชนเผ่าจบลงมิใช่หรือ เหตุใดเขาจึงโผล่มาช่วยชีวิตของนางได้ ทว่าจะอย่างไรสุดท้ายชินอ๋องปีศาจขาวผู้นั้นเขาก็เป็นผู้มีพระคุณของนางอยู่ดีมิใช่หรือหากไม่ได้เขานางจะรอดชีวิตจนได้พบหมอเทวดาแช่หยวนผู้นี้ได้อย่างไร ดังนั้นเจี่ยอวี้หลันนั้นจึงคิดว่าหากพบหน้าชินอ๋องผู้นั้นนางจะต้องขอบคุณเขาให้ดีถึงเขาคือปีศาจนางก็จะกราบปีศาจเป็นเจ้านาย เพราะพอนางรอดชีวิตมาได้แน่นอนว่าต้องคิดถึงความแค้นก่อนเป็นอันดับแรกเพราะตั้งแต่ที่ตัดสินใจกระโดดหน้าผา ก็คิดเอาไว้แล้วว่าหากจบชีวิตไปความรักความแค้นจะจบลงเพียงแค่นางจากไป แต่หากนางรอดชีวิตมาได้แน่นอนแค้นนี้นางย่อมคืนไปให้ทั่วทุกตัวคน! และในอีกหลายวันต่อมาเจี่ยอวี้หลันก็ได้พบหน้าชินอ๋อง ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดคราวที่นางเพิ่งได้สติจึงสับสนว่าอีกฝ่ายคือคนจริงๆ หรือพญายมอยู่ในขุมนรก ก็เพราะซ่างกวนไท่ผู้นี้มีกลิ่นอายสังหารเข้มข้นไม่พอเขายังมีกลิ่นคาวของโลหิตลอยอยู่รอบกายสูงใหญ่อ่อนๆ ตลอดเวลา ไม่รู้ว่าเจี่ยอวี้หลันคิดไม่เองหรือไม่แต่นางคล้ายจะเห็นวิญญาณคนตายอยู่ข้างกายชินอ๋องอยู่นี้อีกด้วยเมื่อยามเขามาทรงนั่งลงบนเก้าอี้หน้าเตียงของตนเองจึงแอบหวาดกลัวอยู่บ้าง "ผู้แซ่เจี่ยขอบคุณชินอ๋องที่ช่วยชีวิตเพคะ" แต่ครู่เดียวนางก็มองข้ามสิ่งที่เห็นไปเสีย ผลนี้อาจเกิดจากนางเกือบตายกระมังจึงบังเอิญได้เห็นวิญญาณคนตายแต่ก็แค่ผีล่องลอยไปมานอกจากน่ากลัวก็ทำอันตรายนางมิได้อยู่ดี "ผู้แซ่เจี่ย? เจ้ามิใช่แซ่หลู่หรอกหรือ?" ซ่างกวนไท่เอ่ยเรียบๆ ไม่ได้แสดงอารมณ์ใดออกไป แต่คนถูกถามแค่เขาเปิดปากเจี่ยอวี้หลันก็พลันกระจ่าง เขารู้แจ้งถึงตัวตนที่แท้จริงของนางนานแล้วหรืออาจรู้แต่วันแรกๆ ก็เป็นไปได้ สมกับเป็นชินอ๋องปีศาจขาวผู้พิทักษ์ฉางตี้ฮ่องเต้ซึ่งเป็นปีศาจดำจริงๆ "หลู่อวี้หลิงผู้นั้นตายจากไปตั้งแต่เมื่อสิบกว่าวันก่อนที่หน้าผาแห่งนั้นแล้วเพคะ ที่อยู่ตรงหน้าชินอ๋องนี้ จึงเป็น เจี่ยอวี้หลัน นั่งไม่เปลี่ยนชื่อยืนไม่เปลี่ยนแซ่" นางกล่าวออกไปด้วยน้ำเสียงแน่วแน่แววตามั่นคงยิ่ง "ดี!" ซ่างกวนไท่คิดเอาไว้แล้วว่าช่วยชีวิตซากศพวันนั้นเขาจะต้องได้ใช้ประโยชน์ ทว่าก็ไม่คิดว่าตนเองจะได้ใช้ประโยชน์จากนางเร็วถึงเพียงนี้รางสังหรณ์ของเขาช่างแม่นยำเกินไปแล้ว… "เปิ่นหวางจะไม่อ้อมค้อม ชีวิตของเจ้าเปิ่นหวางเป็นคนช่วย ดังนั้นเปิ่นหวางจึงเป็นดังเจ้าชีวิตของเจ้า แต่เปิ่นหวางมิใช่คนใจคอคับแคบ หากเจ้าช่วยงานของเปิ่นหวางนับจากนี้ นอกจากจะได้ตอบแทนบุญคุณแล้ว หากเจ้ามีแค้นที่อยากชำระเปิ่นหวางจะช่วยเจ้าให้สมหวังเอง" ซ่างกวนไท่เป็นคนประเภทใดนอกจากตัวของเขาคงมีเพียงพี่ชายที่อายุมากกว่าเขาอยู่สามปีที่รู้ ดังนั้นก่อนจะมาพบ เหยื่อ ของเขาในวันนี้ย่อมศึกษามาดิบดี จึงเอ่ยออกไปอย่างใจกว้าง หึ! คนเช่นชินอ๋องปีศาจขาวแห่งต้าเซี่ยเคยใจกว้างหรือไม่ล้วนมีแต่เขาเท่านั้นที่รู้แจ้ง! ตอบแทนบุญคุณอย่างนั้นหรือ?… แน่นอนว่าเจี่ยอวี้หลันคิดเอาไว้แล้วสำหรับตอบแทนบุญคุณปีศาจขาวตรงหน้าของนางผู้นี้ แต่มิคาดว่าชินอ๋องจะหยิบยื่นโอกาสให้นางได้ชำระแค้นมาด้วย คำว่าชำระแค้นนี้ทำเอาดวงตาเมล็ดซิ่งแวววาวด้วยความยินดีขึ้นมาทันใด เพราะที่นางอดทนจนผ่านประตูผีมาได้ล้วนมาจากแรงแค้นที่ตนเองถูกคนที่รักและไว้ใจหักหลังทั้งสิ้น! แค้นยิ่งกว่าแค้นอัดแน่นอยู่ภายในหัวอก เช่นนี้พอได้ฟังว่าตนเองจะได้ชำระแค้นเร็วกว่าที่นางคาดเอาไว้ ต่อให้งานทดแทนบุญคุณที่ชินอ๋องจะเรียกร้องนั้นสุดท้ายเป็นการให้นางสละชีพ เจี่ยอวี้หลันก็ยินดีอย่างยิ่ง! "เชิญชินอ๋องกล่าวสิ่งที่ประสงค์จะให้ผู้แซ่เจี่ยทดแทนบุญคุณได้เลยเพคะ" เจี่ยอวี้หลันถามออกไปเสียงอ่อน แต่ในใจของนางนั้นเตรียมรอรับเอาไว้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเรียกร้องค่าตอบแทนเป็นการให้นางไปตาย แลกกับการที่เขาจะแก้แค้นแทน นางก็ยินยอมแล้วจริงๆ "แต่งงานเป็นพระชายาเอกของเปิ่นหวาง" "!!!"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม