"วันนี้แนทช่วยเป็นเด็กเสิร์ฟอีกแรงนะคะป้าจิต" นันทิชาบอกป้าจิตราที่กำลังเช็ควัตถุดิบต่างๆในครัวของร้านอาหาร
"ไปพักผ่อนเถอะลูก เดินทางมาเหนื่อยๆ" จิตราบอกหลานรักอย่างห่วงใย
"อีกตั้งนานกว่าร้านจะเปิด เดี๋ยวแนทหลับสักงีบก็พอค่ะ แนทยึดสำนวนที่ว่า อยู่บ้านป้าจิตอย่านิ่งดูดาย ช่วยป้าจิตเสิร์ฟอาหารแล้วเก็บทิปไว้ไปเที่ยวดีกว่าค่ะ" นันทิชาบอกอย่างมีแผนการ
"ช่วงเย็นลูกค้าเยอะหน่อยนะลูก จะไหวเหรอ"
"สบายมากค่ะ" นันทิชาตอบอย่างมั่นใจ
"โอเคลูก งั้นหนูไปนอนพัก เก็บข้าวของให้เรียบร้อย ป้ากับลุงเบนจะออกไปซื้อของก่อน" เธอหันมามองหลานสาว
"ได้ค่ะ ขับรถดีๆ นะคะ"
บรรยากาศช่วงเย็นของร้านเป็นไปอย่างที่ป้าจิตบอกจริงๆ ร้านอาหารไทยของป้าจิตมีลูกค้ามากถึงขั้นที่ต้องต่อคิวกันเลย นันทิชาดีใจที่ป้าจิตประสบความสำเร็จในการอาชีพที่เธอรัก แถมยังได้อยู่กับผู้ชายน่ารักๆ อย่างลุงเบน เธอเดินเสิร์ฟอาหารโต๊ะโน้นโต๊ะนี้อย่างคล่องแคล่ว และก็เป็นอย่างที่ป้าจิตบอกไว้ ฝรั่งตาน้ำข้าวในร้านแตกตื่นกับพนักงานเสิร์ฟคนใหม่เป็นอย่างมาก นันทิชาเคยชินกับสายตาพวกนี้ดี เพราะเธอจะถูกใจบรรดาหนุ่มตะวันตกเสมอ แต่เมื่ออยู่ในประเทศไทย เธอก็แค่ผู้หญิงผิวสีแทนธรรมดาๆ คนนึงเท่านั้น
"มันจะบังเอิญเกินไปแล้วนะ" เธอไม่สนใจสายตาของผู้ชายคนใดที่จับจ้องมาที่เธอเลย จนกระทั่งผู้ชายที่เธอเจอที่สนามบิน บนเครื่องบิน และในร้านอาหารของป้าตอนนี้เป็นคนๆ เดียวกัน เขาทำให้ใจเธอร้อนผ่าวอย่างไม่ทราบสาเหตุ เขาเดินเข้ามาในร้านด้วยชุดเสื้อเชิ๊ตแขนยาวสีขาวสะอาดและกางเกงแสล็คสีดำเข้ารูป รองเท้าคัทชูขัดเงาวับจนสะท้อนกับแสงไฟในร้าน เขาจ้องมาเธอตาไม่กระพริบ และนั่งลงที่โต๊ะว่าง ซึ่งเธอเพิ่งทำความสะอาดเสร็จเมื่อครู่
"แนท! เหม่ออะไรลูก มาเอาต้มยำกุ้งไปเสิร์ฟ" นันทิชาตื่นจากภวังค์เมื่อป้าจิตเอ่ยชื่อของเธอ บรรยากาศในร้านที่พนักงานเสิร์ฟคนอื่นๆ เดินกันวุ่นวายไปหมด ทำให้เธอก้าวเท้าทำหน้าที่ต่ออย่างรวดเร็ว เธอภาวนาอย่าให้เธอต้องเป็นคนเสิร์ฟอาหารให้เขาเลย ถ้าเธอเผลอทำอะไรหกใส่เขาอีก คราวนี้เขาต้องฆ่าเธอทิ้งแน่ๆ
"ป้าจิต แนทไม่เสิร์ฟโต๊ะนั้นได้ไหมคะ" นันทิชาบอกปฏิเสธ เพราะสิ่งที่เธอกลัวมันเกิดขึ้นแล้วน่ะสิ
"ทำไมล่ะลูก"
"แนทรู้สึกไม่ค่อยถูกชะตากับลูกค้าโต๊ะนั้นค่ะ" เธอยอมรับตรงๆ
"ไม่ได้นะแนท หนูทำงานบริการ หนูเรียนมาทางด้านนี้ด้วย หนูปฏิเสธการบริการเขาเพียงเพราะหนูไม่ถูกชะตากับเขาไม่ได้ เข้าใจไหมลูก" จิตราอบรมหลานสาว เธอแปลกใจไม่น้อย ที่นันทิชามีความคิดแบบนี้ เพราะปกติเธอไม่เคยเกี่ยงงานใดๆ อยู่แล้ว
"ค่ะ" นันทิชาหยิบอาหารสองสามอย่างใส่ถาด และเดินตรงไปที่โต๊ะนั้นทันที เธอไม่ได้คิดไปเองแน่ๆ เขามองเธออยู่ แม้ปากของเขาจะพูดคุยกับเพื่อนร่วมโต๊ะก็ตาม เธอวางจานอาหารลงบนโต๊ะอย่างมั่นใจแม้ข้างในจะประหม่ากลัวว่าทำอะไรหกใส่เขา
"ขอน้ำเปล่าเพิ่มอีกขวดด้วยครับ" เธอหันไปตามเสียงของผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงข้ามผู้ชายที่ชื่อจัสติน
"คะ?" เธอสติหลุด เพราะตกใจที่เขาพูดภาษาไทยได้ชัดเจน แต่หน้าตาของเขากลับไม่ได้บ่งบอกความเป็นไทยหรือความเป็นคนเอเชียเลยแม้แต่น้อย
"น้ำเปล่าหนึ่งขวดครับ" เขายิ้มให้เธอ พร้อมกับเขย่าขวดน้ำเปล่าที่หมดแล้วให้เธอดู
"อ๋อ ได้ค่ะ สักครู่นะคะ" นันทิชายิ้มตอบ และเดินกลับมาพร้อมกับน้ำดื่มตามที่เขาสั่ง
"เพิ่งมาทำงานหรือครับ ไม่คุ้นหน้าเลย" เขาเงยหน้าถามเมื่อนันทิชาวางขวดน้ำลงบนโต๊ะและกำลังจะหันหลังกลับ ขณะที่ปากก็รีบกลืนอาหารลงคอไปด้วย
"ค่ะ มาทานที่นี่บ่อยเหรอคะ" เธอถามกลับตามมารยาท
"ครับ มาทุกอาทิตย์เลย ในแอลเอไม่มีอาหารไทยร้านไหนอร่อยเท่าร้านป้าจิตแล้วครับ" นันทิชาพยายามตั้งใจฟังให้มากที่สุด เพราะสมาธิของเธอมันดันล่องลอยไปหาผู้ชายอีกคนที่นั่งเงียบไม่พูดจาอะไรซักคำ
"สวัสดีครับป้าจิต มีพนักงานสวยๆ มาใหม่ไม่บอกผมเลยนะครับ" เขาทักทายป้าจิตราที่เพิ่งเดินมาถึงโต๊ะ
"ไม่ใช่พนักงานใหม่อะไรหรอก หลานป้าเอง ชื่อแนท แนทนี่คริส แล้วก็นี่พี่ชายของคริส จัสติน" นันทิชายกมือไหว้ลูกค้าทั้งสอง แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นลูกวีไอพีซะแล้ว คริสรับไหว้อย่างลังเล ส่วนจัสตินทำเพียงแค่สบตาเธอเท่านั้น
"ไม่รู้จะรับไหว้ดีหรือเปล่า แนทอายุเท่าไหร่เหรอ" คริสถามเพราะมีความรู้สึกว่าเธอน่าจะอายุใกล้เคียงกัน
"22 ค่ะ"
"เฮ้ย! เท่ากันเลย ดีนะเราไม่รับไหว้" นันทิชาประทับใจที่เขารู้ว่าคนไทยมีความเชื่อว่าการไหว้คนที่อายุน้อยกว่าหรือเท่ากันจะทำให้อายุสั้น
"แล้วมาอยู่นานไหมอ่ะ มีคนพาเที่ยวหรือยัง คริสว่างนะ ช่วงนี้ปิดเทอมพอดี" เขายิ้มให้นันทิชาจนเห็นฟันขาวครบสามสิบสองซี่
"ไปเที่ยวแบบเพื่อนป้าไม่ว่าหรอกนะคริส แต่แนทจะมาทำงานที่โรงแรม ชื่อโรงแรมอะไรนะลูก ป้าลืมตลอดเลย" จิตราหันไปถามหลานสาว ทั้งที่เธอเป็นคนแนะนำให้นันทิชามาสมัครงานด้วยซ้ำ
"The Heaven ค่ะ"
"เฮ้ย! จริงดิ โรงแรมพี่จัสตินนิ" คริสหันไปบอกพี่ชายด้วยท่าทางตื่นเต้น แต่ผู้เป็นพี่กลับมีสีหน้าเรียบเฉยเหมือนเดิม แต่เมื่อจิตราเอ่ยถาม เขาก็ตอบเธอทันที
"เอ้อ... ใช่เลย ป้าก็ลืมไปเลยว่าจัสตินย้ายมาบริหารที่นี่แล้ว บังเอิญจริงๆ ฝากใช้งานน้องหนักๆ เลยนะลูก"
"ครับป้าจิต" นันทิชาได้ยินเสียงจากปากเขาแล้ว เธอตาโตอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
"ป้าขอตัวไปดูแลโต๊ะอื่นก่อนนะ มีอะไรเรียกแนทได้เลยนะ" สองหนุ่มยกมือไหว้ป้าจิตราที่เดินจากไป
"ขอตัวนะคะ" เธอหันไปบอกคริส โดยพยายามไม่สนใจจัสติน เธอไม่ได้คิดไปเองแน่ๆ ว่าเขาแอบมองเธออยู่
"หวังว่าได้เจอกันบ่อยๆ นะแนท" คริสยิ้มให้เธออย่างอารมณ์ดี
เพล้ง!
แก้วน้ำของจัสตินตกลงสู่พื้น จนน้ำและเศษแก้วกระเด็นเต็มพื้น นันทิชาหันไปสบตาเจ้าของแก้วอย่างอารมณ์เสีย เพราะเธอเห็นว่าเขาตั้งใจปัดมันให้ตกลงมา เธอกำลังจะอ้าปากต่อว่าเขา แต่ก็หยุดลงซะก่อนเพราะไม่อยากให้ทำให้ลูกค้าคนอื่นๆเสียบรรยากาศในการรับประทานอาหาร เธอเดินกลับมาพร้อมอุปกรณ์เก็บกวาด และจัดการมันอย่างรวดเร็ว เธอเห็นสายตาคมของเขามองเธอทุกการกระทำอย่างเลือดเย็น
"โรคจิตชะมัด!" เธอยืนพิงผนังอยู่ในมุมแคบๆ ด้านข้างห้องน้ำของร้าน
"อื้อ!" นันทิชาหยุดหายใจ เมื่อตัวของเธอถูกดันให้ชิดผนังมากว่าเดิม และยังถูกมือใหญ่เชยคางให้สูงขึ้น พร้อมกับริมฝีปากอุ่นที่ประกบอยู่ที่ปากของเธอ ผู้บุกรุกหยุดชั่วขณะและออกแรงกดที่ปากแรงขึ้นอีกครั้ง
"อื้อ... อ่อย อื้อ" นันทิชาพูดไม่ชัด และเบือนหน้าที่สุดแรง แต่ก็ถูกมือใหญ่สองข้างกอบกุมหน้าของเธอไว้
"ปล่อย!... อื้อ อุด อะ หยุด" เธอทุบอกเขาแรงๆ แต่เขากลับใช้จังหวะที่เธอร้องห้าม แทรกลิ้นเรียวเข้ามาในปากเธอ
"อื้อๆ" นันทิชาสะบัดหน้าหนีและร้องห้าม แต่ยิ่งออกเสียงมากเท่าไหร่ ลิ้นของเธอก็ไปสัมผัสกับลิ้นของเขามากขึ้นเท่านั้น เธอตัดสินใจหยุดสั่งเขาทันที ผู้บุกรุกหยุดเคลื่อนไหวลิ้นเพียงเสี้ยววินาที แล้วใช้ลิ้นกวาดไปรอบโพรงปากของนันทิชา จนเมื่อมีเสียงเรียกของป้าจิตราดังขึ้น เธอจึงใช้โอกาสนี้ผลักอกเขาออกห่างอย่างรวดเร็ว
"แนทอยู่นี่ค่ะป้า" เธอมองเขาด้วยความโกรธ ก่อนจะเดินไปหาป้าจิตราที่เสียงดังใกล้เข้ามาทุกที
"ไปนานจังพี่ คิดว่าหลับคาห้องน้ำไปแล้วเนี่ย" คริสถามจัสตินอย่างสงสัย
"แกกลับบ้านก่อนเลยนะ ฉันมีธุระต้องไปทำต่อ" จัสตินบอกน้องชาย ก่อนที่เขาจะเดินออกจากร้านไป
"ธุระอะไรเยอะแยะ ตั้งแต่ลงเครื่องก็เห็นทำแต่งาน" เขาถามตัวเอง แต่ก็ไม่ได้คำตอบอยู่ดีนั่นแหละ