“ไปได้เลยนะ คุณเขาให้เริ่มวันนี้เลย” ส้มป่อยรวบรัดกับเธอเสียอย่างนั้น
ปทุมมาถอนลมหายใจยาว ๆ บอกอย่างเกรงใจ “แต่ว่าบัว…”
“ไม่ต้องมีแต่อะไรทั้งนั้นแหละ แล้วก็ไม่ต้องไปประจำที่ไหนแล้วนะบัว ประจำที่ห้องของคุณเขาน่ะสบายที่สุด ห้องเล็กเท่านั้นเองทำเดี๋ยวเดียวก็เรียบร้อย ที่เหลือก็คอยว่าคุณจะเรียกให้ทำอะไร นี่พี่สนับสนุนบัวเลยนะ จะได้ไม่เหนื่อยมากไง พวกอู้งานจะได้รู้จักขยันกันบ้าง”
“จะดีหรือคะ”
“ดีสิจ้ะบัว ทำไมจะไม่ดีล่ะ งานสบาย ๆ แบบนี้ ต้องดีอยู่แล้ว”
เธอไม่ได้หมายความว่าแบบนี้ ที่บอกว่าจะดีหรือนั่นคือจะดีหรือหากแม่บ้านสักคนจะต้องอยู่ตรงจุดไหนสักจุดหนึ่ง เพราะแม่บ้านแต่ละคนมีหน้าที่ดูแลความสะอาดทั้งอาคาร และทีมแม่บ้านที่มาทำที่นี่ก็รับผิดชอบงานกันเป็นแผนก บางทีมก็รับหน้าที่เป็นชั้น ไม่ใช่แค่ห้องใครเพียงห้องเดียว หากจำกัดให้เธอทำตรงนั้นตรงนี้เพียงคนเดียว คนอื่นอาจมองว่าถูกเอาเปรียบอยู่ก็เป็นได้ นึกเห็นใจคนอื่น ๆ ด้วยที่อาจทำงานกันหนักมากขึ้น
ยังไม่ทันได้ตัดสินใจเลย หญิงสาวร่างสูงโปร่งในชุดสูทสวยสง่าก็เดินฉับ ๆ เข้ามาจับแขนเธอ ก่อนปรายตามองไปยังส้มป่อยถามจี้อย่างต้องการให้ได้คำตอบตอนนี้เดี๋ยวนี้เลย
“ไงคะ บอกน้องแม่บ้านให้มิวหรือยัง”
“บอกแล้วค่ะคุณมิว”
หญิงสาวเจ้าของชื่อเล่น ‘มิว’ ได้คำตอบที่ต้องการก็ยิ้มน้อย ๆ แล้วหันมาบอกกับเธอว่า“เรียบร้อยแล้วก็ไปประจำรอที่หน้าห้องฉันเลยนะ”
ปทุมมามองหัวหน้าของตัวเองด้วยสายตาแบบที่มองออกแจ่มชัดว่าไม่ใคร่สบายใจเท่าไรนัก แล้วคิดไปว่าจะลองพูดกับหัวหน้าของตนดูอีกทีว่าไม่ขอประจำที่ห้องไหนเฉพาะห้องเลยได้หรือไม่ ไม่อยากนั้นงานจะตกไปยังคนอื่น ๆ จนทำไม่ไหวกันเสียก่อน
“บัว ฉันรบกวนหน่อย เดี๋ยวสักสิบโมง บัวลงไปรอข้าวที่ตรงคาเฟหน้าตึกให้ฉันที ได้ยินพี่ ๆ เขาบอกว่าร้านนี้พอกินได้แต่ตอนเที่ยงคนจะเยอะหน่อย แล้วฉันน่ะก็ต้องกินข้าวตรงเวลาด้วยสิ ไม่อย่างนั้นท้องจะปวดแล้วก็จะคลื่นไส้เพราะกินไม่ตรงเวลาน่ะจ้ะ”
เธอยังไม่ทันพูดหรือรับปากอะไรออกไปเลยสักคำ อีกฝ่ายก็หยิบธนบัตรและรายการอาหารที่ต้องการใส่ในมือของเธอแล้วส่งเสียงหวานหยดเรียกคนในบริษัทคนหนึ่ง แล้วเดินเลี่ยงจากเธอตรงไปหาทางนั้นราวกับต้องการปรึกษาเรื่องอะไรด้วย
ปทุมมามองรายการของและเงินในมือ ก่อนเหลือบตามองเวลาเห็นว่าใกล้สิบโมงตามที่อีกฝ่ายบอกก็เดินลงบันไดมาที่ด้านล่าง เจอเข้ากับหัวหน้าของเธอเข้าพอดี
“ไปไหนบัว” ส้มป่อยถามด้วยสายตาสงสัยเมื่อเห็นว่าเธอไม่ได้ประจำที่ห้องของหญิงสาวสวยคนที่ออกปากขอเธอไปประจำที่ห้อง
“คุณมิวให้บัวลงไปซื้อข้าวให้ค่ะ”
“ไปเถอะไป เอาใจคุณเขามาก ๆ หน่อย ได้ยินมาว่าคุณมิวกับคุณเธียรเขาดูตัวกันอยู่ ท่าทางก็สวยหล่อสมกันดี ถ้าไม่มีปัญหาอะไรก็ว่าคงมีข่าวดีไว ๆ นี้แล้วล่ะ บัวมาถูกทางแล้วรู้ไหม เอาใจว่าที่หวานใจของท่านดร. เผลอ ๆ อาจได้ตำแหน่งของที่นี่ก็ได้นะ พนักงานที่นี่เงินดีจะตาย สวัสดิการก็ดี ได้ดิบได้ดีแล้วเอาพี่มาทำงานด้วยนะคะคุณบัว” อีกฝ่ายบอกด้วยท่าทีหยอกล้อแบบที่เธอไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นตามไปด้วยเลย ทำได้แต่ยิ้มรับเท่านั้น
ปทุมมาเดินออกจากตึกตรงไปยังร้านที่ได้รับคำสั่งมา ทันทีที่ผลักประตูกระจกเข้าไปก็พบว่ามีลูกค้าเต็มร้าน แล้วเดินไปยื่นกระดาษให้พนักงาน เธอยืนรอตรงนั้นอย่างไม่รู้ว่าจะทำอะไรดีจึงเดินเลี่ยงไปยังมุมร้าน รู้สึกได้ในทันทีว่าที่แบบนี้ไม่ใช่สถานที่ของตัวเอง คนในร้านแต่งตัวดูดีกันแทบทั้งนั้นเลย และเธอก็เป็นแม่บ้าน ยังอยู่ในชุดทำงานอีกด้วย ก้มมองชุดแล้วก็ถอนใจเบา ๆ ไม่ได้ดูถูกตัวเอง ภูมิใจด้วยซ้ำไปที่ได้ทำงานตรงนี้ แล้วมองเลยออกไปด้านนอก รอคอยรายการของอย่างเงียบ ๆ ต่อไป
“มองอะไรพี่เธียร”
ภัทรจำต้องถามพี่ชายเมื่อตนสะกิดก็แล้วอีกฝ่ายยังคงนิ่ง มองตรงไปยังเบื้องหน้า แล้วถึงได้กวาดสายตามองตามพี่ชายไปก็เห็นเพียงหญิงสาวในชุดแม่บ้านที่กำลังยืนหลบอยู่ตรงอีกมุมของร้าน
“พนักงานนั่น” เธียรเอ่ยตอบออกมาแล้วเงียบไป ภัทรไม่ได้สนใจมองหญิงสาวคนนั้นแล้ว ตอนนี้เขาสนใจพี่ชายของเขามากกว่า เอ่ยถามยิ้ม ๆ กลัวไปว่า “สวยหรือครับ”
เธียรจ้องมอง ปากก็เอ่ยตอบน้องชายไปว่า “อาจใช้มนต์บังตาแบบนาย”
ภัทรเข้าใจว่าตัวเองกำลังถูกพี่ชายพูดเหน็บเข้าให้ก็หัวเราะออกมาดัง ๆ แบบที่คิดว่าหล่อที่สุด ก่อนขยิบตาให้หญิงสาวโต๊ะข้าง ๆ แล้วยื่นหน้าลงบอกพี่ชายของตัวเอง “ไม่มีใครทำได้แบบเราหรอกครับ”
แล้วหันไปมองที่หญิงสาวในชุดแม่บ้านอีกครั้งแล้วเอ่ยอย่างจับผิดออกไปว่า “แล้วนี่เวลาทำงาน ทำไมแม่บ้านถึงได้ลงมาคาเฟในเวลาแบบนี้ คงจะเป็นพวกชอบอู้งานมั้งครับ”
ดร.เธียรไม่ได้ฟังเลยว่าน้องชายพูดอะไร ชายหนุ่มลุกออกจากโต๊ะตรงไปที่เคาน์เตอร์ แต่น้องชายคว้ามือเอาไว้เสียก่อน
“ผมบอกพี่หรือยัง”