ท่านประธานผู้เย็นชา สายตาอาบมีดโกน #2

1354 คำ
ณ ดาร์ตันแกรนด์โฮเต็ล กรุงเทพฯ ประเทศไทย ก่อนท่านประธานจะเดินทางมาถึง ชาญ ผู้จัดการดาร์ตันแกรนด์โฮเต็ลสาขาประเทศไทยได้โยกย้ายให้ ‘สิตา’ ไปเป็นผู้ช่วยของอีกฝ่าย หญิงสาวเคยเป็นเลขานุการของเขามาก่อน เนื่องด้วยเขาไม่รู้จะไปหาใครในระยะเวลากระชั้นชิดอย่างนี้ ประกอบกับสิตาก็ถือได้ว่าเป็นงาน ทำงานคล่องแคล่ว เพราะทำตำแหน่งเลขานุการให้เขามาสามปีแล้ว ครั้นจะเปิดรับสมัครใหม่ ท่านประธานก็ไม่ได้มาอยู่ไทยถาวร เขาจึงส่งเลขานุการของเขาไปให้ท่านประธานก่อน ส่วนเขาอาจจะยืมคนของแผนกอื่นมาช่วยทำหน้าที่เลขานุการแทนเป็นการชั่วคราว วันที่ท่านประธานใหญ่เดินทางมาถึง พนักงานที่เกี่ยวข้องต่างไปยืนเข้าแถวรอต้อนรับท่านประธานใหญ่ด้านหน้าอย่างพร้อมเพรียงกัน โลเวลล์เดินเข้ามาพร้อมสาวสวยซึ่งคล้องแขนเดินคู่กันมากับเขา แอรินเป็นนางแบบชื่อดังของอังกฤษ แถมเธอยังเป็นเจ้าของผับชื่อดังที่โลเวลล์และเพื่อนชอบไปใช้บริการบ่อย ๆ “ท่านประธานครับ นี่คือคุณสิตา คนที่จะมาเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของท่านตอนอยู่เมืองไทยครับ” “สวัสดีค่ะท่านประธาน ดิฉันสิตาค่ะ” สิตาเดินมาพร้อมกับพานดอกไม้ซึ่งนำมายื่นให้โลเวลล์ ทว่าคนที่รับไปคือแอริน เพราะโลเวลล์ไม่ได้มีท่าทีสนใจเลขานุการสาวแม้แต่น้อย สายตาคมกริบปานมีดโกนแค่กวาดมองสำรวจ ไร้ซึ่งรอยยิ้มหรือคำทักทาย สิตาหน้าเสียเล็กน้อย เพราะคิดว่าตัวเองสวยที่สุด ไม่อย่างนั้นคงไม่ได้รับคัดเลือกจากคุณชาญให้มาดูแลท่านประธาน เขาโบกมือให้ทุกคนกลับไปทำงาน ส่วนเจ้าตัวเดินเข้าลิฟต์ที่เดม่อนเปิดรอไว้ ครั้นแผ่นหลังของท่านประธานผู้น่าเกรงขามพ้นสายตา เสียงจ้อกแจ้กจอแจก็ดังขึ้นทันควัน “ท่านประธานน่ากลัวมากเลยอะแก ยิ้มก็ไม่ยิ้ม แถมยังไม่พูดอีก คนอะไรจะประหยัดคำพูดขนาดนั้น ฉันเกร็งแทนพี่สิตาเลย ที่จะได้อยู่ใกล้ชิดท่าน” “ใช่คนอะไรก็ไม่รู้หล่อแบบแบดบอยมาก กรี๊ดเลยอะ เท่มากอะแก มือล้วงกระเป๋า หน้านี้เรียบกริบ ลูกน้องที่เป็นบอดีการ์ดก็มีแต่คนหุ่นแซ่บ ๆ ปาดน้ำหมากเลยอะ สายตาอาบมีดโกนชัด ๆ ท่าทางน่าจะดุมาก ถ้าฉันเป็นพี่สิตาฉันคงลาออก” “ฉันเห็นด้วยเลย รีบแยกย้ายกันไปทำงานดีกว่า เดี๋ยวโดนไล่ออก” เพียงครู่เดียวสาว ๆ ก็วงแตกเพราะไม่กล้าเมาท์มาก ถึงกระนั้นข่าวคราวของท่านประธานก็ยังถูกพูดถึงไปทั่ว “แพรพักเที่ยงแล้วไปทานข้าวกันดีกว่า วันนี้มีเรื่องเมาท์ด้วยแหละ” เจ้าของคำพูดยิ้มร่าก่อนจะลดเสียงลงในตอนท้าย หญิงสาวที่ถูกเอ่ยถึงในประโยคมีชื่อว่า แพรไหม ดาเลเนย์ ไวท์ เธอเข้ามาฝึกงานที่โรงแรมตั้งแต่เรียนปริญญาตรี จนตอนนี้ใกล้เรียนจบปริญญาโทแล้ว กำลังทำวิทยานิพนธ์เป็นวิชาสุดท้าย ส่วนคู่สนทนาเป็นเพื่อนสนิทซึ่งมีชื่อจริงว่านาเดีย ชื่อเล่น ‘เจน’ เธอยังมีเพื่อนสนิทอีกคนหนึ่ง เขาเป็นผู้ชายชื่อ ‘อนล’ อนลไม่ใช่ชายแท้ เขาชอบผู้ชายด้วยกัน อนลเป็นคนหน้าตาดี แต่งตัวเนี้ยบ เป็นคนเจ้าระเบียบสุด ๆ ตอนนี้กำลังเปิดโมเดลลิงรับงานให้นางแบบ นายแบบ และงานพริตตี้สาวสวย งานของอนลกำลังรุ่งสุด ๆ เขาเคยชวนเธอไปเป็นนางแบบ แต่เธอเป็นคนไม่ชอบด้านนี้ จึงปฏิเสธไป แพรไหมเป็นลูกครึ่งอิตาลี แด๊ดเจอแม่ตอนเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน พอแต่งงานจึงย้ายมาอยู่ไทย และเปิดรีสอร์ตที่เชียงใหม่ ทว่าความสุขมักแสนสั้นเสมอ เนื่องจากแด๊ดกับแม่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์และเสียชีวิตไปตั้งแต่ที่เธอมีอายุเพียงเจ็ดขวบ เธอจึงอยู่กับป้าตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โดยที่ป้าของแพรไหมคอยรับช่วงดูแลกิจการ ทว่าก็ไม่ค่อยมีกำไรเพราะป้าของเธอไม่ค่อยเก่งเรื่องธุรกิจ ป้ามีลูกชายหนึ่งคน แต่ฝ่ายนั้นไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน แถมยังติดการพนันด้วย สมบัติที่แด๊ดกับแม่ของเธอทิ้งเอาไว้ ป้าก็เอาไปถลุงจนเกือบหมดเพราะทั้งป้าทั้งลูกชายต่างติดการพนัน บางทีไปเล่นไกลถึงฮ่องกงก็มีจนตอนนี้เหลือแต่กิจการรีสอร์ต โชคดีที่เธอได้บรรจุเป็นพนักงานประจำของโรงแรม จึงพอส่งเงินกลับไปเป็นค่าใช้จ่ายของรีสอร์ตได้ กิจการของพ่อแม่ถึงได้ยังไม่ปิดตัวลงไป “เรื่องอะไรเหรอเจน ใกล้เสร็จแล้วขอเรียงเอกสารกองนี้ก่อนนะ วันนี้เราจะกินที่โรงอาหารหรือจะออกไปข้างนอก…?” “ไปร้านส้มตำข้างโรงแรมเราดีกว่า ฉันอยากกินอะไรที่มันแซ่บ ๆ อะ ไปเถอะ เราน่าจะโทรชวนนางแอนนี่มาด้วยเนอะ ไม่เจอมันหลายวันแล้ว” กระทั่งแพรไหมจัดการงานเสร็จสิ้น สองสาวถึงได้เดินควงกันออกไปข้างนอก “นี่แกรู้หรือเปล่าว่าวันนี้ท่านประธานใหญ่ของพวกเรามาเมืองไทยแล้ว ได้ยินข่าวว่าจะมาอยู่นานเลยอะ เห็นเขาเมาท์กันว่าดุยิ่งกว่าอะไร พนักงานพูดกันให้แซดเลย บอกวันนี้หน้างี้เรียบยิ่งกว่าเตารีด” “ขนาดนั้นเลยเหรอ เว่อร์ไปไหมอะ แล้วทำไมรอบนี้ท่านจะอยู่นานล่ะ ปกติไม่เคยได้ยินข่าวว่าท่านจะมาเอง มีแต่ส่งลูกน้องคนสนิทมา” แพรไหมถามอย่างสงสัย “ก็โครงการที่กำลังเร่งตกแต่งอยู่นี่ไงล่ะ ท่านจะมาอยู่คุมจนเสร็จ จากนั้นจัดงานเปิดตัวแล้วท่านถึงจะกลับ” เจนชี้มือไปทางสิ่งก่อสร้างที่มองเห็นในอาณาเขตกว้างใหญ่ ถ้าจะให้เดินก็เดินถึง แต่ต้องเสียเหงื่อโชกแน่ละ ฉะนั้นถ้าอยากไปถึงเร็วและประหยัดเวลาต้องนั่งรถไป “โครงการนี้ใหญ่มากเลย คงลงทุนเยอะมากแน่ ดูสิมีครบทุกอย่างเลย ทั้งคอนโดกับชอปปิงมอลล์” แพรไหมมองไปตามมือของนาเดียที่ชี้ให้ดู เธอเห็นโครงการก่อสร้างดำเนินงานมาตั้งแต่สองสามปีก่อน และตอนนี้ก็ใกล้เสร็จแล้ว แค่ดูจากข้างนอกยังรู้เลยว่ามันสวยงามมาก แพรไหมนั่งฟังนาเดียเล่าอย่างเมามัน เธอไม่ค่อยได้ไปพูดคุยกับใคร เลยไม่ค่อยทันข่าว หญิงสาวสนใจแต่งานของตัวเองเสียมากกว่า แม้จะคุ้นชินกับงานเป็นอย่างดีเพราะทำมาหลายปีตั้งแต่ฝึกงาน ทว่าเธอก็ยังอยากตั้งใจทำในทุกวัน “แล้วแกรู้ไหมว่าพี่สิตาได้รับเลือกให้ไปเป็นผู้ช่วยส่วนตัวท่านประธาน แต่เห็นเขาบอกขนาดหน้าพี่สิตาท่านประธานยังไม่มองเลย นางอุตส่าห์ไปคุยโม้ไว้ว่าท่านประธานเลือก แถมแต่งหน้าแต่งตัวจัดเต็มเลยละ หน้าแตกหมอไม่รับเย็บเลยวันนี้” พูดพร้อมกับเบ้ปากใส่อารมณ์เต็มที่ สีหน้าเหมือนไม่ค่อยชอบคนที่ถูกพูดถึงในประโยคสักเท่าไรนัก ทว่าแพรไหมกลับคิดไปอีกอย่าง “คนอะไรจะน่ากลัวขนาดนั้น ดีแล้วละที่เราทำคนละแผนก จะได้ไม่ต้องไปยุ่งวุ่นวาย” “ใช่ ๆ ข้อนี้ฉันเห็นด้วยที่สุดเลย แถมที่เด็ดสุดท่านควงมากับนางแบบตัวท็อปของวงการอังกฤษเลยล่ะ เห็นเขาบอกว่าสวยมาก” “รู้ดีจริงนะ” “จริง ฉันก็แอบไปเมาท์กับเขามาก่อนวงแตก ตายแล้วยายแพร! มัวแต่คุยเวลาพักของเราหมดแล้ว ไป! รีบเข้าไปดีกว่า เดี๋ยวโดนตัดคะแนนโบนัสปลายปีฉันยิ่งวางแผนว่าจะไปเที่ยวญี่ปุ่นอยู่”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม