หกปีต่อมา
“วิวาห์สายฟ้าแลบ แว่วมาว่าป่องก่อนแต่ง อักษรย่อ ทก อล คิดอย่างไรกับข่าวนี้คะ” นักข่าวบันเทิงกำลังจ่อไมค์ถามดาราที่ตกเป็นข่าวฉาว
“ผมว่ามันเป็นคำพูดที่รุนแรงเกินไปสำหรับหนึ่งชีวิตที่กำลังเกิดมานะครับ ถ้าเขาโตขึ้นแล้วมาเจอข่าวแบบนี้คงรู้สึกแย่”
“แบบนี้ทิกเกอร์จะฟ้องเพจที่พาดหัวข่าวไหมคะ”
“ผมยังไม่อยากให้ถึงขั้นนั้นครับ ขอร้องนะครับ อย่าพาดหัวข่าวที่กระทบจิตใจอลินนักเลย อลินก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ทางเราไม่ได้มีเจตนาปิดครับ และเรากำลังทำให้ถูกต้องตามขนบธรรมเนียมไทย อาจจะข้ามขั้นตอนไปบ้าง หวังว่าพี่ ๆ จะให้โอกาสเราทั้งคู่นะครับ”
พรึบ!
“ฮื้อ! ปิดทำไม” ฉันร้องทักเมื่อเพื่อนกดปิดทีวีที่ฉันกำลังดูอย่างตั้งใจ
“จะดูหน้ามันทำไม” น้ำเสียงฉุนเฉียวของเพื่อนพูดอย่างจงเกลียดจงชัง
“ก็แค่นึกถึง” เอ่ยเสียงเศร้าไปสิทิชา
“นึกถึงเพราะวันนี้ครบรอบ 10 ปีหรือไง ทิชาเอ๊ย เรื่องของแกกับมันจบไป 6 ปีแล้ว ตอนนี้มันกำลังจะมีลูก กำลังจะแต่งงาน แกเลิกรักเลิกคิดถึงมันได้แล้ว คนเลว ๆ แบบนั้นไม่มีค่าพอให้แกคิดถึงสักนิด”
“ฉันก็แค่อยากเห็นว่าเขา...สบายดี”
“มันสบายดีและรวยมาก สบายกว่าเราเป็นร้อยเท่า แถมเลวมากด้วย ไม่อย่างนั้นมันไม่ไปเอากับผู้หญิงคนนั้นระหว่างที่คบกับแกหรอก”
“…”
“ทิชา เมื่อไหร่แกจะทำใจได้สักที ไอ้ทิกเกอร์แฟนแกเพื่อนฉันมันตายไปแล้ว ตอนนี้มีแค่ทิกเกอร์ซุปเปอร์สตาร์เมืองไทย ไอ้ทิกเกอร์คนนั้นของแกมันไม่กลับมาแล้วทิชา” เพื่อนพูดด้วยความโมโห สงสาร เวทนา สมเพชที่ฉันยังเพ้อถึงเขา
บางทีฉันก็สมเพชตัวเองเหมือนกัน
“ฉันแค่อยากตอกย้ำตัวเองให้ใจมันเจ็บ จะได้จำเอาไว้ว่าเขาใจร้ายมากขนาดไหน”
“ผ่านมา 6 ปีแล้วทิชา ไม่มีมันแกก็ยังไม่ตาย แกเก่ง แกแกร่งอยู่แล้ว แกต้องสู้นะ ฉันเข้าใจวันครบรอบทีไรแกก็เป็นแบบนี้ตลอด แต่พรุ่งนี้แกต้องเข้มแข็งรู้ไหม แกจะอ่อนแอนาน ๆ ไม่ได้”
“ฉันรู้ แกก็รู้ว่าฉันลำบากแค่ไหนมิ้น” เพื่อนของฉันเธอชื่อมิ้น เราเป็นเพื่อนกันมาหลายปีแล้ว สมัยเรียนมิ้นเป็นคนที่ทิกเกอร์ไม่ชอบหน้า เพราะเขาหาว่ามิ้นทำให้ผู้ชายคนอื่นมาวอแวกับฉัน
“รู้สิ ก็ฉันอยู่ข้างแกมาตลอด ลืมมันเถอะทิชา ถ้ามันใช่ มันใช่ไปนานแล้ว แกกับมันก็แค่คนที่ผ่านมาแล้วผ่านไป”
“ถ้ามันลืมได้ง่าย ๆ อย่างที่แกพูดคงจะดี แกก็รู้ว่าหนึ่งเหตุผลที่ฉันไม่ลืมเพราะอะไร”
“อืม ฉันเข้าใจ” มิ้นขยับเข้ามาปลอบด้วยการกอด และเราหันไปมองเสียงเจี๊ยวจ๊าวที่กำลังดังมาจากทางหน้าบ้าน