พิษรักมาเฟีย : ตอนที่ 3
ยี่สิบนาทีผ่านไป.
อาหารที่แขกคนสำคัญสั่งได้เสร็จพร้อมเสิร์ฟ ซึ่งฉันก็เข็นรถที่ใส่อาหารไว้อย่างหวั่นใจ ภาวนาว่าไม่ให้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอีก โชคดีที่ก่อนหน้านี้พี่ดาวเจ้าของร้านเป็นคนเสิร์ฟน้ำให้แขกด้วยตัวเองทำให้ฉันไม่ต้องเข้าไปเจอกับทั้งคู่ แต่รอบนี้ไม่มีโชคที่ไหนช่วยอีกแล้ว ขาทั้งสองข้างก้าวเข้าไปในห้องอาหารอย่างระมัดระวัง
บรรยากาศภายในห้องเงียบสนิท ไม่มีแม้แต่เสียงพูดคุย สายตาของทั้งคู่เพ่งเล็งมาที่ฉันรวมเป็นตาเดียวกัน
"ขออนุญาตเสิร์ฟอาหารนะคะ" รอยยิ้มบางๆฉายขึ้นบนใบหน้าหวานพยายามแสดงความเป็นมิตรให้กับแขกเหมือนทุกครั้งที่ฉันทำ ฉันค่อยๆหยิบอาหารออกจากรถเข็นและจัดวางไว้ตรงหน้าของทั้งสองคนด้วยท่าทางอ่อนน้อมและระมัดระวังมากที่สุด ทุกการกระทำของฉันถูกสายตาคมกริบจ้องมองอยู่ตลอดเวลา ถึงจะไม่ได้เงยหน้าขึ้นไปมองแต่ก็รับรู้ได้ว่ามีคนกำลังจ้องอยู่ ส่วนหญิงสาวชุดแดงเพลิงก็มองมาที่ฉันด้วยสายตารังเกียจอย่างเปิดเผยตั้งแต่ฉันเดินเข้ามา
"อ๊ะ" ลินร้องเสียงหลงเมื่อเธอเดินเข้าไปใกล้ๆกับหญิงสาวชุดแดง แต่แล้วเท้าของผู้หญิงคนนั้นที่สวมใส่รองเท้าส้นเข็มก็เหยียบและบดขยี้ปลายเท้าของเธออย่างแรง
"เป็นอะไรจ๊ะ" โซเฟียถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง แต่สีหน้าเธอกำลังเยาะเย้ยอย่างเปิดเผย
"เปล่าค่ะ" และนี่คือคำตอบของหน้าที่ลูกจ้างอย่างฉัน ต้องจำยอมลูกค้าที่ดุจดั่งพระเจ้า แต่ถ้าฉันไม่ได้อยู่ในหน้าที่ก็ไม่ยอมเหมือนกัน ฉันไม่ใช่คนที่จะเสียเปรียบอยู่ฝ่ายเดียว
"ถ้าต้องการอะไรเพิ่มเติมกดกริ่งบนโต๊ะเรียกพนักงานได้นะคะ" ฉันพูดหลังจากวางอาหารจานสุดท้ายลง และโค้งคำนับอย่างเช่นทุกครั้งที่ทำตามแบบฉบับของร้านอาหารแห่งนี้
"เธอควรแจ้งวัตถุดิบของอาหารในตอนที่เสิร์ฟฉัน" น้ำเสียงเข้มพูดขึ้นในตอนที่หญิงสาวกำลังจะหมุนตัวเดินออกไป
"ชาร์ลคะเสียบรรยากาศเปล่าๆ มันจะพานทำให้อาหารเสียรสชาตินะคะ"
"เธอไม่ได้ยินที่ฉันพูดเหรอไง" คิ้วหนาเลิกขึ้น เมื่อเห็นว่าเด็กสาวกำลังจะก้าวเดินออกไป สายตาคมกริบยังคงจับจ้องที่ผู้หญิงตัวเล็กไม่วางตา
"ขอโทษค่ะ ดิฉันจะให้เชฟมาอธิบายให้คุณฟังนะคะ ฉันเป็นแค่เด็กเสิร์ฟเรื่องรายละเอียดของอาหารคงบอกคุณไม่ได้"
เคล้ง…
ครืด....
ชาร์ลโยนช้อนให้กระทบกับจานเสียงดัง และเลื่อนเก้าอี้ออกก่อนจะลุกขึ้นอย่างไม่พอใจ
"กลับ!"
"ชาร์ลคะ แต่เรายังไม่ได้ทานเลยนะคะ"
"เธอควรดีใจนะโซเฟีย ที่เด็กคนนี้จะรับผิดชอบค่าเสียหายทุกอย่างในวันนี้" ใบหน้าคมคายหันไปพูดคุยกับหญิงสาวข้างกาย แต่คำพูดของเขาก็ทำให้เด็กสาวอีกคนได้ยิน
"งั้นกลับกันดีกว่าค่ะ เพราะยังไงเงินเดือนของเธอทั้งเดือนคงไม่มีปัญญาจะจ่ายแน่นอน ชาร์ลนี่เก่งจังเลยนะคะ ไม่ต้องออกแรงสักนิด" รอยยิ้มเยาะเย้ยฉายขึ้นบนใบหน้าของหญิงสาวชุดแดงด้วยความพึงพอใจ
ตึก ตึก ตึก
ชายหนุ่มร่างสูงเดินเข้ามาใกล้ๆเรื่อยๆ จนเธอต้องก้าวถอยหลังหนีโดยอัตโนมัติ ใบหน้าคมคายไร้ซึ่งความรู้สึก ไม่มีแม้แต่รอยยิ้มหรือแสดงออกทางสีหน้าแต่อย่างใด แววตาเย็นยะเยือกคู่นั้นทำเอาเธอเริ่มหายใจไม่ทั่วท้อง จนสุดท้ายแผ่นหลังบางชนกับผนังกำแพงไม่มีทางหนีอีกต่อไป
"กลัว?" ชาร์ลพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งเมื่อมาหยุดอยู่ตรงหน้าเด็กสาวตัวเล็ก
"ฉันไม่ได้กลัว แต่ฉันเสียดายอาหารที่พวกคุณสั่งแล้วไม่ได้ทาน ทุกคนเตรียมร้านรอคุณตั้งแต่เช้า คุณควรจะเห็นใจพนักงานคนอื่น เห็นใจเจ้าของร้าน ถ้าฉันทำให้พวกคุณไม่พอใจก็มาลงที่ฉันคนเดียว อย่าเอาคนอื่นมาเกี่ยวด้วย ส่วนเรื่องที่ฉันเผลอพูดไปก่อนหน้าก็ขอโทษไปแล้ว คุณต้องการรู้เรื่องอาหารฉันก็จะไปตามเชฟให้มาอธิบายให้คุณฟัง คุณยังต้องการอะไรจากฉันอีก " อลินดาพยายามข่มน้ำเสียงตัวเองไม่ให้สั่น
"ปากเก่งใจกล้าดีนิ...แต่มันคือการกระทำของคนโง่"
เมื่อเขาพูดจบก็เดินออกจากห้องอาหารไป ตามด้วยหญิงสาวข้างกายที่มาด้วยกัน โดยไม่สนใจอาหารมากมายที่ตั้งอยู่บนโต๊ะสักนิดเดียว ดวงตากลมโตมองอาหารตรงหน้าด้วยแววตาวูบไหว อาหารแต่ละอย่างมีราคาแพงทั้งนั้นรวมๆแล้วน่าจะหลายหมื่น
"คุณชาร์ลกับคุณโซเฟียทานอิ่มแล้วเหรอคะ" เจ้าของร้านวัยกลางคนรีบเดินเข้ามาหาแขกคนสำคัญด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แต่ก็แปลกใจที่อาหารพึ่งเข้าไปเสิร์ฟได้ไม่ถึงสิบนาทีทำไมแขกถึงออกกันมาเร็วแบบนี้
"ไม่ได้ทานสักอย่างค่ะ พอดีเด็กของร้านทำให้ชาร์ลเสียอารมณ์ หวังว่าเจ้าของร้านคงให้เด็กคนนั้นรับผิดชอบความเสียหายนะคะ" โซเฟียเชิดหน้าขึ้นราวกับเหนือกว่า
"เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ มีอะไรแจ้งดาวได้นะคะ จะให้ปรับเปลี่ยนอาหารยังไงแจ้งได้เลยค่ะ ร้านพร้อมรับผิดชอบ"
"ไม่ต้องหรอกค่ะพี่ดาว เรื่องนี้ลินผิดเอง ลินจะรับผิดชอบเรื่องนี้เองค่ะ ปล่อยให้คุณสองคนเขากลับเถอะค่ะ เพราะยังไงเขาต้องการแบบนี้อยู่แล้ว" ฉันเดินออกมาพอที่จะได้ยินสิ่งที่หญิงสาวชุดแดงพูดจีบปากจีบคออย่างน่าหมั่นไส้ ได้แต่ข่มอารมณ์ความโกรธตัวเองไว้ข้างในทั้งที่อยากจะระเบิดออกมา
ฉันจ้องไปที่ชายหนุ่มร่างสูงด้วยความไม่พอใจ และฉันเชื่อว่าเขาก็รู้ถึงสายตาที่ฉันมองเขาเช่นกัน มือบางกำหมัดแน่นด้วยความโกรธ
"ไหนๆก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ก่อแล้ว ก็ขอพูดอะไรหน่อยเถอะ ฉันไม่รู้ว่าคุณใหญ่โตมาจากไหน แต่มารยาททางสังคมควรมีมากกว่านี้ คุณจะคิดว่าฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟธรรมดาที่ไม่สามารถเทียบชนชั้นกับพวกคุณได้เลย คุณเลยกดขี่ข่มเหงได้ทุกอย่าง แต่ทุกคนก็เป็นคนเหมือนกับพวกคุณ ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน การกระทำของคุณทั้งสองคนวันนี้มันบ่งบอกถึงการอบรมสั่งสอนของครอบครัวพวกคุณเหมือนกันค่ะ"
เพี๊ยะ
ฝ่ามือของหญิงสาวชุดแดงกระทบเข้าที่ใบหน้าของอลินดาอย่างจัง ทำให้ใบหน้าหวานหันไปตามแรงกระแทก เรียกเสียงฮือฮาของพนักงานในร้าน แต่กลับไม่มีใครกล้าที่จะเข้ามาช่วยเพราะอำนาจของชายหนุ่มสามารถทำให้ร้านนี้ถูกปิดได้อย่างง่ายดาย
"หึ" เสียงหัวเราะในลำคอของชายหนุ่มที่ยืนมองเหตุการณ์ดังขึ้นพอที่จะให้คนที่ยืนอยู่ตรงนั้นได้ยิน ริมฝีปากหนายกยิ้มมุมปาก
"อีนี่ แกกล้าว่าพวกฉันไม่มีพ่อแม่สั่งสอนเหรอไง"
"ลินเข้าไปข้างในก่อน เดี๋ยวพี่เคลียร์เอง อย่าให้เป็นเรื่องใหญ่ไปมากกว่านี้" หญิงวัยกลางคนพูดกับเด็กสาวด้วยความเป็นห่วง เธอพอมองออกว่าใครจ้องหาเรื่องก่อน
ฉันต้องจำยอมเดินเข้ามาหลังร้านตามคำสั่งของพี่ดาวเจ้าของร้าน ทั้งๆที่ฉันอยากจะสวนกลับไปเหมือนกัน ฉันได้แต่ยืนแอบมองกับพนักงานคนอื่นไม่รู้เลยว่าเจ้าของร้านคุยกับอะไรกับแขกอยู่นานสองนาน สีหน้าของพี่ดาวเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่แขกทั้งสองคนจะยอมเดินขึ้นรถคันหรูโดยมีลูกน้องนับสิบคนยืนรออยู่ด้านหน้าร้าน