"ใครวะ...ดูซ่าเอาเรื่อง" เสียงเอเดนเอ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้ารู้สึกชอบใจหญิงสาวตัวเล็กที่เพิ่งเดินออกไปเป็นที่สุดกับความแสบซ่าของเธอ
"เพื่อนยัยน้ำขิง" เจ้าของใบหน้าหล่อภายใต้กรอบแว่นราคาแพงตอบกลับคนเป็นเพื่อนเสียงนิ่ง
"ชื่อเดียร์น่า?" ดินที่นั่งอยู่เอ่ยถาม
"อืม" ขุนพลก็พยักหน้าตอบกลับไปทำให้เตวินทร์ที่นั่งอยู่หันถามคนตัวสูงขึ้น
"มึงรู้ชื่อน้องเขาได้ไงไอ้ดิน"
"เคยได้ยินวีพูดถึง น่าจะจากน้ำขิง" ริมฝีปากหนาของผู้ชายลุคนิ่งเย็นชาตอบกลับ หลัง ๆ มาดินค่อนข้างที่จะพูดเยอะขึ้นกว่าแต่ก่อนอยู่ไม่น้อย ด้วยความที่ถูกแฟนสาวรุ่นน้องอย่างวีคอยชวนคุยนั่นคุยนี่ทำให้เขาค่อย ๆ ซึมซับการพูดเยอะขึ้นมาบ้าง แต่ก็ไม่ได้หลุดไปจากลุคนิ่งเย็นชาตามประสาของเขาสักเท่าไร
"ชื่อเสียงคงเอาเรื่องอยู่..."
"...ดูโคตรซ่า ฮ่า ๆ ๆ" เอเดนหัวเราะเอ่ยด้วยความอารมณ์ดีที่ได้เห็นเสือสาวใจกล้าพยายามกระตุกหนวดเสือร้ายที่ภายนอกดูเหมือนแมวตัวโตตัวหนึ่งเท่านั้น
"น้องเขาจะรู้ไหม ว่าเขากำลังเล่นอยู่กับอะไร" เตวินทร์พูดขึ้นทำเอาคิน เอเดนที่นั่งอยู่ต่างยักไหล่ส่ายหน้าออกมาด้วยความนึกรู้ไปกับนิสัยที่แท้จริงของชายหนุ่มที่ภายนอกดูเหมือนแมวตัวโต แต่ทว่าภายใน...กลับไม่ใช่แบบนั้นเลย ดินเองก็นั่งนิ่งไม่พูดอะไรตัวเขาเองก็รู้ถึงธาตุแท้ของเพื่อนเช่นกัน
"..." ขุนพลที่ตกเป็นเป้าสายตาของบรรดาเพื่อน ๆ ที่นั่งอยู่ก็เอาแต่นั่งเงียบอยู่อย่างนั้นด้วยท่าทีไม่ใส่ใจกับอะไร
"แต่กูสงสัยอยู่อย่างหนึ่ง แล้วทำไมอยู่ ๆ เพื่อนน้องสาวมึงถึงได้มาท้าทายอะไรมึงขนาดนั้น แม่งดูออกชัดเลยว่าเขาตั้งใจ" คินมองหน้าถามเพื่อนสีหน้าสงสัย
"ก่อนไปเจอพวกมึง กูทิ้งเขาไว้กลางทาง...คงโกรธ"
"ไอ้เหี้ย แล้วมึงไปทิ้งน้องเขาทำไม" เอเดนถามขึ้นเสียงดัง
"ยัยขิงให้กูไปรับเพื่อไปส่งที่มหา’ลัยเพราะรถเพื่อนเสีย กูก็ไปส่งปกติ แต่...อยู่ ๆ เพื่อนยัยขิงก็ไม่ยอมเข้าเรียนแล้วจะไปนัดเดตกับผู้ชาย"
"มึงเลยทิ้งเขาไว้เลย?" เตวินทร์ถาม
"อืม เขาจะให้กูไปส่งที่ห้าง แต่กูไม่ไปแล้วบอกให้ลงจากรถไปเพราะไม่ส่งเด็กไม่มีความรับผิดชอบ" ขุนพลตอบกลับพร้อมกับยกแก้วเหล้าขึ้นมากระดกดื่มสีหน้าท่าทางปกติ
"เออกูเข้าใจแล้ว คงโกรธมาก ฮ่า ๆ" เอเดนหัวเราะบอกด้วยสีหน้าชอบใจเป็นที่สุดกับสิ่งที่ได้ยินรวมถึงเหตุการณ์ความซ่าของร่างบางที่เดินออกไป
"..." ขุนพลก็นั่งนิ่งไม่ตอบ ไม่สนใจ
"น้องเล่นแรงอยู่นะ มึงจะปล่อยไปใช่ไหม" คินถามพร้อมกับมองไปยังซอกคอของเพื่อนที่ยังคงมีลิปสติกที่แดงสดติดอยู่ คนตัวสูงที่ถูกถามก็นิ่งค่อย ๆ วางแก้วเหล้าลงมองหน้าคนเป็นเพื่อน
"มึงก็รู้...กูไม่เล่นคนใกล้ตัว" สิ้นเสียงทุ้มเอ่ยบอก เพื่อนทุกคนก็ต่างรับรู้ในนิสัยของขุนพลที่มักจะมีอะไรกับผู้หญิงที่ไม่รู้จักอะไรในตัวเขา เขาไม่ต้องการให้ใครมาวุ่นวาย ขุนพลเลยมักจะกินเงียบ...เงียบชนิดที่ใครก็ไม่มีทางรู้ได้เลยว่าตัวตนที่แท้จริงของเขานั้นมันเป็นยังไง
"แต่ก็ดูมึงอยากเล่นอยู่นี่" เตวินทร์ที่นั่งอยู่แสยะยิ้มเอ่ยออกมาทำเอาเจ้าของใบหน้าหล่อที่สวมใส่แว่นอยู่เลื่อนสายตาไปอีกทางนั่งนิ่งไม่พูดอะไรออกมา
"ตอนน้องโน้มตัวเข้าหามึงเมื่อกี้ กูใจหายวาบเลย...กลัวมึงลากไปจัดให้หายซ่า" เอเดนพูดขึ้น
"ไม่ก็คือไม่" ริมฝีปากหนาตอบกลับเพื่อนไปเสียงนิ่ง เพราะเดียร์น่าค่อนข้างใกล้ตัวเขามากเกินไป เป็นถึงเพื่อนสนิทน้องสาวเพียงคนเดียวของเขา เขาจึงเลือกที่จะพยายามเมินเฉยไม่สนใจ
"กูรู้ว่าคืนนี้มึงอะไม่ แต่ถ้าน้องไม่หยุด..." ไม่รอให้เตวินทร์ได้พูดจบ ดวงตาคมก็เงยหน้าหันไปมองหน้าตอบกลับเพื่อนตัวเองเสียงนิ่ง
"ถ้าไม่หยุด แล้วความอดทนกูหมด..."
"...ก็ขอให้ซ่ามากพอที่พยายามท้าทายกูก็แล้วกัน"
สองวันต่อมา...
@มหาวิทยาลัยคิงตัน
"วันนี้ไปหาอะไรกินกันดีไหม" ร่างบางใบหน้าสวยน่ารักหันไปเอ่ยถามเพื่อนสนิทของตัวเองขึ้นหลังจากที่ทั้งสองเดินออกมาจากห้องเรียนตึกคณะ
"รถเธอซ่อมเสร็จแล้วเหรอ" น้ำขิงมองหน้าถามหญิงสาวในชุดนักศึกษารัดรูป
"ยังอะ แต่พ่อให้เอาอีกคันมาใช้ก่อน" ปากเล็กตอบกลับด้วยท่าทีปกติ
"งั้นไปกินไหนดี ห้าง..." ยังไม่ทันที่น้ำขิงจะพูดจบ อยู่ ๆ สองเท้าบางของเดียร์น่าก็ต้องชะงักไปทำให้น้ำขิงที่กำลังพูดอยู่นิ่งตามหันไปมองตามสายตาของคนเป็นเพื่อนก่อนจะเห็นชายร่างสูงหุ่นดียืนมองมายังทั้งสองอยู่ เขาก็คือไทเปนั่นเอง โดยที่น้ำขิงเองก็ได้รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นอยู่บ้างจากปากเพื่อนสนิทที่เล่าให้ฟังด้วยความหัวเสียที่รู้สึกเสียหน้ากับสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งเดียร์น่าก็เล่าทุกอย่างให้น้ำขิงฟังเกือบทั้งหมด เพียงแต่ตอนท้ายช่วงที่เธอเอาคืนเธอไม่ได้เล่าลงรายละเอียดอะไร
"น่ารำคาญชะมัด" เสียงเจ้าของใบหน้าเล็กกลอกตาเอ่ยออกมาด้วยสีหน้าเบื่อหน่ายไปกับความพยายามตื๊อพยายามง้อของไทเปที่ช่วงสองวันที่ผ่านมาหลังจากเหตุการณ์วันนั้น เขาก็พยายามที่จะติดต่อขอโทษเพื่อขอโอกาสจากเดียร์น่าอยู่ทุกวัน
"เดียร์..." คนตัวสูงเดินเข้าหมายจะเอ่ยเรียกต้องการพูดคุย แต่ทว่าหญิงสาวสวยน่ารักก็เลือกที่จะเมินเฉยไม่สนใจ
"อย่ามายุ่งกับฉัน"
"ฟังกันก่อนสิ เดียร์น่า..."
"หลบไป! ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับนาย" พูดจบ มือเล็กก็เอื้อมไปคว้าแขนเพื่อนสนิทของตัวเองเดินตรงไปยังรถของตัวเองทันทีก่อนจะขับออกไปด้วยความรวดเร็วอย่างไม่ต้องการที่จะพูดคุยอะไรกับอดีตชายหนุ่มที่เธอเกือบเผลอใจไปรู้สึกดีด้วย
"โกรธจริงจังเลยเหรอ" น้ำขิงถามขึ้นขณะที่เดียร์น่ากำลังขับรถอยู่ด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์เป็นที่สุด
"แน่สิ เธอก็รู้...ฉันไม่ชอบยัยป็อปปี้" ริมฝีปากบางชมพูเคลือบด้วยลิปสติกสีแดงอ่อนเอ่ย
"อ่า ๆ แต่เขาดู..."
"ไม่ต้องพูดถึงหมอนั่นเลยขิง ยิ่งพูดถึง ยิ่งหงุดหงิด!" ใบหน้าสวยน่ารักมองหน้าบอกคนเป็นเพื่อน
"โอเค ๆ " น้ำขิงก็พยักหน้ารับรู้อย่างเข้าใจในนิสัยของเดียร์น่าดี ก็คงเสียความรู้สึกอยู่ไม่น้อยกับสิ่งที่เกิดขึ้น
"ว่าแต่ ฉันถามอะไรเธอหน่อยสิ"
"หื้อ?" น้ำขิงหันมองหน้าเพื่อนตัวเองด้วยสีหน้างุนงงไปกับคำพูดของอีกคนที่อยู่ ๆ ก็เอ่ยขึ้นมา
"พี่ชายเธออะ เป็นคนยังไงเหรอ" ปากเล็กถามออกไปด้วยความอยากรู้ ซึ่งคำถามของเดียร์น่าทำเอาน้ำขิงชะงักหันมองหน้าเพื่อน
"ฮะ? เธออยากรู้ไปทำไม"
"ก็แค่สงสัยอะ พี่เขาดู...สุภาพดี" ร่างบางพูดเน้นคำว่าสุภาพออกมาด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเหมือนปกติแต่ทว่าถ้าใครตั้งใจฟังจะรู้ว่า มันเต็มไปด้วยน้ำเสียงความหมั่นไส้ เพราะคนตัวเล็กพูดพร้อมกับนึกถึงเหตุการณ์ที่พี่ชายเพื่อนสนิททิ้งเธอไว้กลางทาง
"อ่อ พี่ขุนก็เป็นแบบนั้นแหละ อ่อนโยน สุภาพ แล้วก็ใจดี ๆ สุดเลย"
"เธอดู...สนิทกับพี่ชายตัวเองดีนะ" เดียร์น่าเอ่ยโดยที่มือเล็กยังคงตั้งใจขับรถ
"สนิทมากสิ พี่ขุนน่ะตามใจฉันทุกอย่างเลยนะ แม้จะมีบ่นบ้าง หวงบ้าง แต่ก็...ใจดีสุด ๆ เลย"
"ก็พอดูออกอยู่หรอก พี่เธอดูเหมือนพวกเด็กเนิร์ดอยู่นะ โกรธเปล่าถ้าพูดแบบนี้" ใบหน้าเล็กรีบหันถามเพื่อนตัวเองในประโยคหลังหลังจากที่พูดจาถึงพี่ชายคนเป็นเพื่อนออกไปตามความคิด
"บ้าดิ จะโกรธอะไร พี่ขุนก็เป็นคนเนิร์ดจริง ๆ นั่นแหละ พี่เขาเป็นเหมือนหนอนหนังสือเลยนะ ชอบหมกตัวอยู่ในห้องอ่านหนังสือเรียนทั้งวัน..."
"...ต่างจากเพื่อน ๆ ที่เขาคบมากอะ" น้ำขิงยังคงยิ้มเอ่ยออกมาเมื่อนึกถึงพี่ชายเพียงคนเดียวของเธอที่มักจะคอยดูแลเธอทุกเรื่องอย่างดีมาโดยตลอด ถึงแม้ขุนพลจะดุบ้างตักเตือนบ้างแต่เขาก็คือพี่ชายที่ดีที่สุดสำหรับน้ำขิงอยู่ดี
"จริง ต่างโคตร" เดียร์น่าตอบกลับอย่างนึกเห็นด้วยไปกับคำพูดของเพื่อนตัวเอง
"หื้อ? เธอรู้ด้วยเหรอ" น้ำขิงหันมาถามทำให้ร่างบางที่ขับรถอยู่ได้สติ เธอไม่ได้บอกคนเป็นเพื่อนว่าเจอขุนพลที่ร้านเหล้าเมื่อสองวันก่อน เธอไม่ได้บอกอะไรเลย สิ่งที่เธอได้ทำไว้เธอก็ไม่ได้บอก
"เดา ๆ เอาอะ"
"อ่อ ไม่อยากจะบอกเพื่อนพี่ชายฉันน่ะแบดบอยตัวพ่อทั้งนั้น ยิ่งพี่เอเดน พี่เตวินทร์นะ..." น้ำขิงเอ่ยพร้อมกับส่ายหัวออกมาเมื่อนึกถึงเพื่อนพี่ชายที่ร้ายกาจราวกับเสือเกือบทุกคน
"แล้วเธอไม่รู้สึกอะไรบ้างเหรอ"
"ฮะ?"
"มีพี่ชายทั้งที เราก็ต้องอยากได้คนที่ปกป้องเราได้ปะ" เดียร์น่าพูดขึ้นอย่างพอเดาอะไรได้หลายอย่างจากความคิดของตัวเองหลังจากที่ได้ฟังคำพูดบอกเล่าจากเพื่อนสนิทเกี่ยวกับพี่ชายลุคเนิร์ดของน้ำขิง
"พี่ขุนก็ปกป้องฉันได้นะ แม้ว่าจะไม่ได้ปกป้องได้เท่ากับพี่ชายคนอื่น..."
"คือยังไงอะ" ใบหน้าสวยน่ารักถามขึ้นด้วยสีหน้าสงสัย
"ครั้งหนึ่งฉันเคยโดยเด็กนิสัยไม่ดีมาไถเงินตอนสมัยเรียนมัธยมต้นได้มั้ง ฉันกำลังจะเดินกลับบ้านหลังจากแอบหนีไปเที่ยวเล่นที่ห้างมา ทีนี้ก็ซวยดันเจอเด็กกลุ่มนั้น ตอนนั้นจำได้ว่าฉันกลัวมากอะ เพราะเป็นผู้หญิงคนเดียวถูกล้อมด้วยเด็กผู้ชายประมาณห้าคนได้ ฉันร้องไห้แบบกลัวมาก...โคตรกลัวเลย จนเสียงพี่ชายฉันวิ่งเข้ามาช่วย พอเห็นพี่ขุน ฉันก็แบบร้องไห้ออกมาเลย พี่ขุนก็รีบวิ่งเข้ามากอดปลอบฉันไว้ ตอนนั้นฉันรักพี่ชายฉันมาก พี่ขุนจะพาฉันเดินออกไปแต่พวกเด็กเกเรพวกนั้นไม่ยอมเพราะฉันยังไม่ได้ให้เงินพวกมัน พี่ขุนก็ไม่สนใจยังคงจะพาฉันเดินกลับจนหนึ่งในนั้นมันเข้ามาต่อยพี่ขุนแล้วก็รุมพี่ชายฉันต่อหน้าต่อตา พี่ขุนก็คือพยายามปกป้องดันฉันออกยอมโดนพวกนั้นต่อยตีอยู่คนเดียว"
"โอ้โห แล้วทำไมไม่สู้ไปล่ะ"
"พี่ชายฉันไม่ใช่คนสู้คน"
"เฮ้อ!" เดียร์น่าก็กลอกตาไปมากับคำตอบที่ได้ยินจากเพื่อนสนิท
"แต่เธอเชื่อไหม เวรกรรมมันมีจริง ๆ นะ"
"คือ?"
"ก็หลังจากที่เด็กพวกนั้นซ้อมพี่ชายฉันอะ เชื่อไหม ผ่านไปไม่กี่วัน เด็กพวกนั้นก็โดนอันธพาลเจ้าถิ่นกระทืบปางตายเลย บางคน...จมูกหักเลยนะ โหดมากอะ แต่ก็...สมควรโดน" น้ำขิงยิ้มเอ่ยบอกด้วยสีหน้าอดจะรู้สึกพอใจไม่ได้กับสิ่งที่เด็กเกเรโดนเพราะภาพที่พวกเขาทำร้ายพี่ชายของเธอยังคงชัดเจนอยู่ในความทรงจำของหญิงสาว
"แต่พี่เธอก็เกินไปอะแทนที่จะสู้กลับ" คนตัวเล็กที่นั่งขับรถอยู่ส่ายหัวบอกด้วยความรู้สึกที่ว่าพี่ชายน้ำขิงดูอ่อนปวกเปียกเกินไปสำหรับเธอ
"พี่ขุนก็แบบนี้แหละ แต่ฉันชอบพี่ชายฉันในแบบนี้นะ ดูเป็นพี่ชายในอุดมคติฉันเลย ฉันชอบที่ตัวเองมีพี่ชายที่สุภาพอบอุ่น~"
"จืดชืด" ใบหน้าสวยน่ารักหันไปพูดใส่หน้าคนเป็นเพื่อนทำเอาน้ำขิงมองหน้าตอบกลับร่างบางอีกคนท่าทีไม่จริงจัง
"ชิ! เงียบไปเลย เธอน่ะไม่รู้หรอก..." ขณะที่น้ำขิงกำลังจะพูดจาปกป้องพี่ชายตัวเองอยู่นั้น
ครืดดด ครืดดด ~
เสียงโทรศัพท์ของหญิงสาวก็ดังขึ้นทำให้คนตัวเล็กชะงักก้มลงมองดู
แม่
"โอ๊ะ แม่ฉันโทรมา"
ติ้ด นิ้วเรียวจัดการกดรับสายไปทันทีอย่างไม่คิดรีรอ
"ว่าไงคะคุณนายยย"
(ยัยน้ำขิงตัวแสบ อยู่ไหนลูก)
"กำลังจะไปห้าง M ค่ะคุณนาย มีอะไรหรือเปล่าคะ"
(วันนี้พี่ชายเรากลับมานอนบ้าน ถ้าลูกสะดวกมากินข้าวด้วยกันสิ พี่ขุนให้แม่ทำกับข้าวไว้เยอะมาก)
"พี่ขุนกลับบ้านเหรอ"
(อืม)
"แง อยากไป..." แล้วดวงตากลมก็หันไปมองหน้าร่างบางอีกคนที่ขับรถอยู่ ซึ่งเดียร์น่าเองก็พอที่จะเดาเหตุการณ์จากที่ได้ยินได้อยู่
"ก็ไปสิ" ริมฝีปากบางตอบกลับเพื่อนตัวเองไปเสียงเบาทำให้น้ำขิงที่ได้ยินแบบนั้นยิ้มร่าออกมาด้วยความดีใจ
"โอเคค่ะแม่ เดี๋ยวขิงไปกินข้าวที่บ้านด้วย ยังไงรบกวนแม่เตรียมเผื่อเดียร์น่าด้วยนะคะ"
(อ้าว อยู่กับเดียร์น่าเหรอลูก)
"ใช่แล้วค่ะ ยังไงฝากแม่เตรียมไว้ให้ด้วยนะ"
(จ้า)
"เจอกันค่าา" น้ำขิงยิ้มเอ่ยบอกปลายสายไปด้วยความอารมณ์ดีหลังจากที่จะได้กลับบ้านไปกินข้าวฝีมือคนเป็นแม่และได้เจอกับครอบครัวที่แสนน่ารักของตัวเอง ผิดกับหญิงสาวใบหน้าน่ารักอีกคนที่ค่อย ๆ แสยะยิ้มออกมาด้วยความพอใจกับบุคคลที่เธอตั้งใจจะไปเจอในวันนี้ เพราะคนอย่างเดียร์น่า...ไม่ปล่อยผ่านอะไรไปง่าย ๆ อยู่แล้ว