ไม่นานนัก รถของภากรก็จอดเทียบยังจุดรอรถเมล์ที่หน้าซอยเข้าบ้านเธอ ทางเดินเข้าซอยค่อนข้างมืดและเปลี่ยว หากแต่ชัยรัมภาอยู่ที่นี่มาหลายปี จึงไม่ได้รู้สึกว่ามันน่ากลัวนัก ต่างจากชายหนุ่มที่ขมวดคิ้วมุ่น ดวงตาจ้องเขม็งเข้าไปในซอย
“บ้านเธออยู่ในซอยนี้เหรอ” เขาเอ่ยถาม
“ใช่ค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่มาส่ง ฉันขอตัว”
หล่อนยกมือไหว้ขอบคุณเขาตามมารยาท ก่อนจะเปิดประตูรถลงมาแล้วเดินเข้าไปในซอย ทว่าเดินไปได้เพียงไม่กี่ก้าว ก็รู้สึกถึงฝีเท้าที่ตามหลังมา ชัยรัมภาหยุดชะงักก่อนหันกลับไปมอง
ภากรที่กำลังเดินตามมา แสร้งทำเป็นหยุดเดินแล้วเงยหน้ามองฟ้า สองมือล้วงกระเป๋า ทำราวกับว่าตนเองลงมาเดินเล่น
“คุณตามฉันมาทำไมคะ” เอ่ยถามออกไป ด้วยไม่อาจทนอึดอัดต่อไปเฉยๆ ได้
คนถูกถาเลิกคิ้วสูงขึ้นหนึ่งข้างก่อนจะชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง
“ตาม? ฉันเหรอตามเธอ เปล่านี่ ฉันก็แค่…” ภากรคิดหาเหตุผล “ยืดเส้นยืดสายน่ะ แบบว่า…ฉันรู้สึกเหมือนกระดูกมันติดๆ คงเพราะต้องเบรกกะทันหันหบายรอบเพราะเธอล่ะมั้ง ทำไม? ซอยนี้เป็นของเธอเหรอ ฉันจะเดินเล่นไม่ได้หรือไง” เขาตอบยียวน
ชัยรัมภาทำได้แค่ถอนหายใจและส่ายหน้าระอาในความกวนประสาทเป็นเด็กของอีกฝ่าย ก่อนจะทำเป็นไม่สนใจแล้วหันหลังเดินต่อไป โดยมีจุดมุ่งหมายคือไปรับต้นกล้าที่บ้านของหมวดเรย์
เมื่อเห็นว่าหญิงสาวไม่ได้มีท่าทีอะไรตอบกลับมา ชายหนุ่มจึงแสร้งทำเป็นเดินยืดเส้นยืดสายตามหล่อนต่อไป ขณะเดียวกัน ชายวัยกลางคนที่กำลังเดินสวนออกมา หันไปมองชัยรัมภาด้วยสีหน้าสนอกสนใจ ทว่าเมื่อเบือนสายตามาพบกับภากรเข้า ก็ต้องสะดุ้งกับสายตาน่ากลัวที่กำลังมองมา
ชายหนุ่มจ้องผู้ชายคนนั้นตาเขียวปั๊ด ทำให้อีกฝ่ายไม่กล้าแม้แต่จะยิ้มให้หญิงสาว จึงได้แต่ก้มหน้าก้มตาเดินผ่านไปโดยเร็ว ชัยรัมภาขมวดคิ้ว ด้วยแปลกใจว่าทำไมชายคนที่เดินสวนไปต้องทำท่าราวกับกลัวหล่อนแบบนั้นด้วย แต่พอหันกลับไปมอง ก็พบแต่ภากรที่เดินผิวปากสบายอารมณ์ชมนกชมไม้ไปเรื่อย
เธอเลิกสนใจเขา รีบเดินไปจนกระทั่งถึงบ้านของหมวดเรย์
“ต้นกล้าครับ” หล่อนตะโกนเรียกลูกชาย
“แม่!” เมื่อได้ยินเสียงมารดา ต้นกล้าก็รีบวิ่งออกมาต้อนรับด้วยความดีใจ
เด็กชายโผเข้ากอดหล่อน ก่อนจะถูกร่างบอบบางอุ้มขึ้นไปกอดไปหอมด้วยความคิดถึง ก่อนจะต้องแปลกใจเมื่อสังเกตเห็นว่าลูกชายสวมชุดใหม่ แถมในมือยังมีของเล่นอีกด้วย
“ต้นกล้า ชุดของลูก…”
“มีซานต้ามาที่โรงเรียนครับ ซานต้าให้ชุดสวยๆ กับของเล่นต้นกล้าเยอะแยะเลย”
ต้นกล้าเล่าให้ฟัง ชัยรัมภาแทบไม่อยากจะเชื่อว่าจะเป็นความจริง หล่อนยิ้มอย่างดีใจแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เมื่อรับรู้ได้ว่าลูกชายดีใจแค่ไหน
ภากรที่ยืนมองอยู่ไม่ไกลก้มหน้าเศร้าอย่างลืมตัว เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าหล่อนจะมีลูกแล้ว หมายความว่าชัยรัมภาเคยผ่านการมีสามีมาก่อนอย่างนั้นสินะ แต่พอนึกขึ้นได้ว่าทำไมตนเองจะต้องรู้สึกเศร้าใจด้วย เขาก็รีบสั่นศีรษะเพื่อไล่ความรู้สึกแปลกๆ พวกนี้ออกไปจากความคิด
“กลับบ้านกันดีกว่าครับ ขอบคุณมากนะคะป้าล้อมที่ช่วยดูต้นกล้าให้ แล้วนี่พี่เรย์ไปไหนหรือคะ”
“ออกไปสืบคดีน่ะ เห็นว่าช่วงนี้มีคดียุ่งยากเข้ามา นี่ถ้าไม่ได้เจ้าต้นกล้า ป้าคงอยู่บ้านคนเดียวแบบเหงาๆ ไปแล้ว เอ้าๆ ดึกมากแล้ว พาต้นกล้ากลับบ้านนอนเถอะลูก” ป้าล้อมลูบหัวต้นกล้าอย่างเอ็นดู
ชัยรัมภารับถุงเสื้อผ้าและถุงของเล่นของต้นกล้ามาถือเอาไว้ ก่อนจะเดินจับมือกับลูกชายไปทางบ้านของตน ภากรรีบเดินตามไปด้วยต้องการจะส่งหล่อนให้ถึงบ้านอย่างปลอดภัย ร่างสูงกวาดตามองไปรอบๆ สภาพแวดล้อมของที่นี่ดูจากการใช้ชีวิตของหญิงสาวเมื่อแปดปีก่อนราวฟ้ากับเหว เขาไม่เข้าใจเลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับหล่อนในช่วงเวลาที่ไม่ได้เจอกัน
สองแม่ลูกเดินมาจนถึงบ้านหลังเล็กของตัวเองแล้วพากันเข้าบ้านไป ภากรยืนมองบ้านตรงหน้าที่ขนาดของมันยังไม่เท่าห้องน้ำเขาเลยเสียด้วยซ้ำ ภาพความจำเกี่ยวกับชัยรัมภาเมื่อแปดปีก่อนเข้ามาในหัว ถึงหน้าตาจะยังสะสวยไม่เปลี่ยนแปลง แต่วิถีชีวิตของหล่อนแทบจะพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ
ครืดๆ ครืดๆ
โทรศัพท์มือถือของเขาสั่นขึ้น ภากรหยิบมือถือขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นบิดาโทรเข้ามาจึงกดรับสาย
“ครับคุณพ่อ”
[ส่งหนูภาเสร็จหรือยัง] ปลายสายถามด้วยความเป็นห่วง
“เรียบร้อยครับพ่อ ผมเดินมาส่งถึงหน้าบ้านตามที่พ่อสั่งไว้เลย”
[ดีมาก ถ้าเสร็จแล้วก็รีบกลับมา พ่อมีเรื่องจะคุยกับแก]
“สำคัญไหม ถ้าไม่ผมขอไปปาร์ตี้ก่อน นัดเพื่อนๆ ไว้ครับ”
[สำคัญ สำคัญมาก และแกต้องกลับมาเดี๋ยวนี้” คงเดชยื่นคำขาด
ภากรได้แต่ถอนหายใจก่อนจะรับปากแล้ววางสายไป เขามองไปที่บ้านของชัยรัมภาอีกครั้งก่อนจะเดินกลับออกมา
ด้านชัยรัมภา
“หลังจากนั้น ทั้งสองคนก็ครองรักกันอย่างมีความสุข…ตลอดไป”
หนังสือนิทานเล่มเก่าที่มีอยู่เพียงเล่มเดียวของต้นกล้าถูกปิดลงเมื่ออ่านมาจดถึงหน้าสุดท้าย ทุกๆ คืนที่เด็กชายนอนไม่หลับ เธอก็จะอ่านนิทานเรื่องนี้ให้เขาฟังจนกว่าเขาจะหลับ วันนี้ก็เช่นกัน ด้วยในใจมีแต่ความตื่นเต้นที่ได้รับของมากมาย ทำให้ต้นกล้านอนหลับยากกว่าปกติ
หญิงสาวจัดการห่มผ้าให้กับลูกชาย ก่อนจะก้มลงจูบที่หน้าผากเล็กๆ นั้นด้วยความรัก
เมื่อจัดการเด็กชายเสร็จเรียบร้อยแล้ว หล่อนก็ลุกขึ้นไปเปิดหน้าต่างและเงยหน้ามองท้องฟ้าที่มืดมิดไร้แสงดาว พลางอดคิดไม่ได้ว่ามันช่างเหมือนกับชีวิตของตนเหลือเกิน ทั้งมืดมิด ซ้ำยังไร้ซึ่งแสงสว่างในชีวิต พลันความคิดของชัยรัมภาก็มีภากรเข้ามาแทรกแซง
“ทำไม…คุณถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้นะ”
ผู้ชายที่เคยเป็นเหมือนเทพบุตรของเธอ ตอนนี้…เขากลับเป็นเหมือนปิศาจที่พร้อมจะดูแคลนและรังแกเธออยู่ตลอดเวลา
ชัยรัมภาหยิบกระเป๋าเงินของตัวเองขึ้นมาเปิดดู ทันทีที่เปิดมันออก สิ่งที่แรกที่สายตามองเห็นไม่ใช่บัตรประชาชนหรือบัตรเอทีเอ็มอย่างคนอื่นๆ เขา หากแต่เป็นรูปถ่ายที่เริ่มจะเก่าไปตามวันเวลา มันคือรูปคู่พวกรูปเดียวของเธอและภากร ในสมัยที่เธอยังเรียนมหาวิทยาลัย เป็นรูปที่ถูกเพื่อนๆ ถ่ายให้เมื่อเก้าปีก่อน ทั้งสองคนยืนข้างกันด้วยท่าทางเขินอาย
“เทพบุตรของรัมภา” หญิงสาวพึมพำเบาๆ
มันคือฉายาที่เพื่อนๆ ตั้งให้กับภากรในสมัยนั้น ด้วยเขาช่างแสนดี โดยเฉพาะกับชัยรัมภา หญิงสาวที่ใครๆ ต่างก็รู้ว่าเป็นสุดรักสุดดวงใจของเขา
แต่ว่า…
เทพบุตรของรัมภาในวันนั้น พอได้มาเจออีกครั้งในวันนี้ ช่างเปลี่ยนไปราวกับคนละคน หัวใจของหล่อนเจ็บปวด
‘เธอนี่มัน…หน้าเงินไม่เปลี่ยนเลยนะ’
คำพูดของเขาย้อนเข้ามาในความคิด ทำไมเขาถึงต่อว่าเธอขนาดนั้นกันนะ ทั้งที่คนที่ไม่ยอมติดต่อมาอีกเลยก็คือเขา คนที่ทำลายหัวใจของหล่อนจนร้าวรานเมื่อแปดปีก่อน…
‘เซียนบอกว่าไม่อยากติดต่อกับเธออีกแล้ว เขาไม่อยากจะเดือดร้อนกับสิ่งที่พ่อเธอทำเอาไว้’
เมื่อคิดถึงคำตอบจากเขาที่เพื่อนของโทรมาบอก หลังจากเกิดเรื่องวุ่นวายเมื่อแปดปีก่อนทำให้หล่อนไม่ได้ไปตามนัดในวันเกิดของเขา แต่หลังจากนั้นหนึ่งอาทิตย์ ชัยรัมภาที่จำเป็นต้องเปลี่ยนเบอร์และที่อยู่ตามที่มารดาบอก ก็ได้ติดต่อเพื่อนสนิทของตนเองไปแล้วฝากให้อธิบายเรื่องราวทั้งหมดกับภากร พร้อมกับนัดเจอเขาด้วยตัวเอง ทว่า หลังจากที่ไปรอเขายังที่นัดหมายจนกระทั่งมืดค่ำ ชายหนุ่มก็ไม่ได้มาตามนัด พอลองโทรไปถามเพื่อนสนิท ก็ได้คำตอบที่ทำเอาหัวใจสลายกลับมา
ชัยรัมภารู้ดี ว่าตอนนั้นครอบครัวของเธอต่างเป็นที่รังเกียจของทั้งญาติพี่น้องและมิตรสหาย ด้วยคงไม่มีใครอยากเดือดร้อนหรือถูกยืมเงิน แต่ทั้งๆ ที่หล่อนคิดว่าภากรจะไม่เหมือนคนเหล่านั้น ท้ายที่สุด…เขาก็ไม่ได้ต่างไปจากใครเลย
เทพบุตรของรัมภาไม่มีอยู่จริง
มันก็แค่เรื่องหลอกเด็กและเพ้อฝันชั่วครู่เท่านั้น
เวลานี้เธอไม่คิดอะไรกับเขาอีกแล้ว หัวใจของเธอ…ปิดตายไปพร้อมกับการจากไปของบิดา ชั่วชีวิตนี้ของผู้หญิงที่ชื่อชัยรัมภา มีไว้เพื่อทดแทนบุญคุณมารดาและดูแลปกป้องต้นกล้าเท่านั้น
หลังจากนี้ ไม่ว่าจะต้องถูกภากรดูถูกเหยียดหยามอีกมากมายแค่ไหน หล่อนก็จะอดทน เพื่อให้คนสองคนที่รักที่สุดในชีวิตได้มีความสุขเสียที
“คุณพ่อคะ ศักดิ์ศรีของภาไม่เหลืออีกแล้ว แต่คุณพ่อไม่ต้องห่วงนะคะ เพื่อคุณแม่กับต้นกล้า ภาจะอดทน ถึงแม้ว่าจะต้องอดทนไปตลอดชีวิตที่เหลืออยู่เลยก็ตาม” น้ำใสๆ ปริ่มขึ้นรอบดวงตา