“ก็เอากันไง หึ...!!”
ฉันเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อได้ยินคำพูดที่แสนจะตรงไปตรงมาของผู้ชายคนนี้ เขาพูดคำนั้นออกมาได้หน้าตาเฉย แบบไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย
“หะ หิวมั้ยคะ ดะ เดี๋ยวพริ้งทำอะไรให้กิน” ฉันพูดพรางผลักกอดออกจากตัวเขาเบาๆ
“หิวสิ ฉันอยากกินเธอ....” ไม่พูดเปล่าเขาใช้นิ้วม้วนเส้นผมของฉันเล่นไปด้วย
สายตาของเขา มะ มันดูอันตรายจัง...
“เดี๋ยวพริ้งทำอะไรให้กินก่อนเอามั้ยคะ” ฉันพยายามหาเรื่องเบี่ยงเบนประเด็นเรื่องอย่างว่า คือฉันกลัว ฉันไม่พร้อมถ้าเขาไม่ขู่ฉัน ฉันก็คงไม่มา
“ตามใจเธอ”
แปลกจัง เมื่อกี้เขายังมีท่าทางที่เหมือนเสือกำลังจะตะโบมกินเหยื่ออยู่เลย แต่ตอนนี้เขากลับยอมให้ฉันทำอะไรให้กินแต่โดยดี
“งะ งั้นเดี๋ยวพริ้งรีบไปทำมาให้กินนะคะ”
หมับ!
ฉันกำลังจะรีบเดินเข้าไปในห้องครัวแต่กลับโดนมือหนาคว้าเอวดึงเข้าไปหาตัวเขาอีกครั้ง
“ถ้ากินข้าวเสร็จหวังว่าเธอจะไม่มีข้ออ้างอะไรกับฉันอีกนะ” น้ำเสียงเรียบนิ่งกับแววตาดุจเหยี่ยวของคนตรงหน้าทำเอาฉันแทบไม่กล้าที่จะสบตากับเขาเลยตอนนี้
“ค่ะ...”
มือหนาที่คร้องเอวฉันอยู่ปล่อยฉันให้เป็นอิสระ จากนั้นฉันก็รีบวิ่งแจ้นเข้าห้องครัวทันที
— Talk Singha
“หึ!!”
ผมใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มอย่างไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่เมื่อเธอเดินหายเข้าไปในห้องครัว
ผมไม่ค่อยชอบผู้หญิงที่เล่นตัวสักเท่าไหร่ แต่ที่ต้องยอมให้เธอไม่ทำอาหารเพราะเธอกว่าผมจะเจอตัวเธอมันไม่ง่าย ก็เลยต้องตามใจหน่อย
ใครจะไปคิดว่าเธอจะเป็นน้องสาวของคู่หมั้นผมที่พ่อเตรียมเอาไว้ให้ โลกใบนี้มันช่างแคบดีจริงๆ
กริ่ง~
ในขณะที่ผมกำลังนั่งรอที่จะเผด็จศึกกับเธออยู่นั้น จู่ๆ เสียงโทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้น มันคือเบอร์ของมารีคู่หมั้นของผมที่โทรเข้ามา
แม่นี่น่าเบื่อชะมัด ที่ผมต้องเอาใจเธอพาเธอไปนู่นไปนี่มันเป็นเพราะคำสั่งของพ่อทั้งนั้น ถ้าผมไม่อยากให้พ่อเปิดโชว์รูมรถให้ ไม่มีทางที่ผมจะเอาใจผู้หญิงคนไหนเด็ดขาด
บอกตามตรงว่าผมไม่ได้พิศวาสแม่นั่นเลยสักนิด น้องสาวของเธอมันน่าค้นหามากกว่า ถึงเธอจะดูซื่อๆจนทำให้ผมหงุดหงิดก็เถอะ และถ้าผมไม่อยากได้ใคร ก็ไม่มีทางที่ผมจะเอา เห็นแบบนี้ก็ไม่ได้มั่วเท่าไหร่นะครับ
ปัก!! ผมโยนโทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะหน้าโซฟา น่ารำคาญชะมัดไม่รู้จะโทรมาทำซากอะไรหนักหนา
สายตาของผมมองไปทางห้องครัวก่อนจะลุกขึ้นเดินเข้าไปหาคนตัวเล็กที่กำลังยืนทำอาหารอยู่
“เธอทำเลี้ยงคนทั้งคอนโดรึไง!!” ผมถามอย่างหัวเสียเมื่อเห็นอาหารที่วางเรียงรายอยู่บนโต๊ะ ว่าแล้วเชียวทำไมถึงนานขนาดนี้ แผนเยอะ จริงๆ
“พะ พริ้งทำใกล้เสร็จแล้วค่ะ”
— Talk pink
ฉันสะดุ้งตัวโหยงเมื่อถูกสวมกอดจากคนที่ฉันไม่อยากอยู่ใกล้เขามากที่สุด
“พะ พริ้งทำใกล้เสร็จแล้วค่ะ”
“หรือว่าเธออยากลองในห้องครัว...หื้ม” ปลายจมูกเขาไต่ลากไปตามต้นคอของฉันทำเอาฉันถึงกับขนลุกซู่ไปทั้งตัวเลยตอนนี้
“ปะ ปล่อยก่อนค่ะพริ้งทำอาหารอยู่นะคะ”
“เรียกฉันว่าพี่สิงห์สิ” เขากระซิบสั่งฉันเสียงแหบพร่า
“พะ พี่สิงห์ อ่ะ ยะ อย่านะคะ อ๊า...”
ฉันรีบยกมือขึ้นมาปิดปากของตัวเองเมื่อหลุดครางออกมาอย่างห้ามไม่ได้
ฉันคิดว่าฉันใส่กางเกงมามิดชิดแล้วนะ เป็นกางเกงขายาวเอวสูงกระดุมหลายเม็ดด้วย แต่มันกลับถูกมือหนาของพี่สิงห์ปลดออกอย่างง่ายดาย
แค่นั้นยังไม่พอ ตอนนี้ฝ่ามือหนาได้ล้วงเข้าไปข้างในกางเกงของฉันเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับส่งนิ้วใหญ่ไปขยี้เม็ดสวาทของฉัน เบาๆ ทำเอาฉันแทบจะยืนไม่อยู่ แทบจะล้มทั้งยืน
“ต่อไปนี้เรียกฉันว่าพี่สิงห์”
กางเกงของฉันถูกเขาปลดลงไปจนถึงหัวเข่า ถึงแม้ฉันจะพยายามจับเอาไว้แต่ก็ไม่เป็นผล