“อย่าแสดงบทคนดีกับเธอ” คำพูดแนะนำสั้นๆจากเควิ้น เคลย์ตันยิ้มออกมา สายตาเขามองไปที่โต๊ะที่เมษานั่งอยู่ เธอมาหาอะไรกินจริงๆด้วย ร่างกายเคลื่อนไหวตามความคิด
“ผมตามคุณมา คนสวย” เคลย์ตันทักทายเมษาทันทีเมื่อนั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้ามกับเธอ
เมษายังนิ่งสงบ เธอไม่จำเป็นต้องโวกแวกโวยวาย เพราะที่นี่เป็นสถานที่มีผู้คนผลุกผล่าน แต่...
“ฉันมีเรื่องหนึ่งจะเล่าให้คุณฟัง ผู้ชายคนหนึ่งพยายามที่จะปรากฎตัวต่อหน้าผู้หญิงคนหนึ่งในสถานที่ต่างๆ ให้ผู้คนทั่วไปเห็นว่าพวกเขารู้จักกัน และวันหนึ่งผู้คนทั่วไปไม่ทันสังเกตว่าผู้หญิงได้หายไปจากสายตาพวกเขาในที่สุด...”
“เธอหายไปไหนครับ” เคลย์ตันทำเป็นไม่เข้าใจว่าเมษากำลังสื่ออะไร แต่ภายในใจของเขากลับประทับใจเมษาที่รู้จักระแวดระวังตัวเอง
“…เรื่องยังไม่จบเลยค่ะ แม้ผู้หญิงจะหายไปจากสายตาของคนทั่วไปแล้ว แต่ผู้ชายก็ยังปรากฎตัวในสถานที่และพื้นที่เดิมๆ แต่เขาทิ้งช่วงเวลาให้ห่างออกไปเรื่อยๆ จนหายไปจากสถานที่และสังคมตรงนั้น”
“ผู้ชายคนนั้นทำแบบนั้นทำไมครับ” เคลย์ตันถามอีกครั้ง
“ถูกแล้วที่คุณต้องถามจุดประสงค์ของผู้ชายคนนั้น ฉันจะตอบให้ค่ะว่าทำไม...ผู้ชายคนนั้นกำลังตามหาผู้หญิงคนนั้นไงคะ?”
“ตามหา?”
“เพราะผู้ชายคนนั้นคิดว่าตัวเองฉลาดกว่า สาเหตุที่ผู้ชายคนนั้นต้องตามหาผู้หญิงเพราะเขาถูกผู้หญิงคนนั้นขโมยของ ของเขาไปค่ะ”
“ผมขออนุญาตชื่นชมคุณจากใจจริงเลยครับว่าคุณเป็นผู้หญิงที่ฉลาดที่ทำให้ผู้ชายแบบผมอยากอยู่ใกล้ๆมากขึ้นเรื่อยๆ...ถ้าเรื่องราวของเราสองคนเป็นเหมือนผู้หญิงและผู้ชายที่คุณเล่ามาก็คงดี...เพราะผมมีอะไรมากมายให้คุณได้ขโมยไม่รู้จบ”
“คุณกำลังจะบอกฉันว่า คุณรวยมากสินะ”
“แล้วแต่คุณจะคิด มากน้อยในเรื่องฐานะผมไม่รู้หรอกว่า เขาใช้ตราชั่งอะไรมาวัดและประเมินฐานะ”
เมษาไม่มีรอยยิ้ม แต่เธอขยับให้กับพนักงานที่นำอาหารตามสั่งมาเสิร์ฟ “เรื่องตลกโปกฮาคั่นรายการจบลงแล้ว คุณควรกลับไปในที่ของคุณได้แล้วนะคะ เพราะฉันจะกิน และขอเสียมารยาทที่ฉันไม่ต้องการให้คุณมาร่วมโต๊ะกับฉัน”
“พูดได้ดี พูดได้ตรง ไม่มีปัญหาผมอยากให้คุณอิ่มท้องมีเรี่ยวแรงอยู่แล้วครับ” เคลย์ตันพูดจบ ลุกจากเก้าอี้และเดินจากไป ซึ่งคราวนี้กลายเป็นเมษาที่ต้องคิ้วขมวดกับคำพูดของเคลย์ตันแล้ว
เคลย์ตันนั่งลงที่โต๊ะของเขาก่อนหน้านี้ เขายกแก้วน้ำพร้อมรอยยิ้มให้กับ เมษาที่มองตามมา และแล้วเขาก็สามารถทำให้ตัวเองอยู่ในสายตาของเมษาในที่สุด
เควิ้นโบกมือให้ เจ ออกไป เมื่อมือขวาคนสนิทที่พยายามจะมาบอกเขาเรื่องที่ต้องไปรับเด็กในปกครองที่เขาไม่ต้องการเลยสักนิด
“แต่ถ้านายไม่ไป ทางโรงเรียนจะไม่อนุญาตให้เธอออกมานะครับ”
“ถ้าเรื่องแค่นี้นายหาวิธีไม่ได้ ก็ปล่อยให้ยายเด็กนั้นแก่ตายอยู่ในนั้นไปเลย” เจ ถอยหลังออกมาจากห้อง เพราะเจ้านายไม่ได้อยู่ตามลำพังทำให้เจไม่อาจพูดอะไรได้มาก เขาไม่ใช่คนย้ำคิดย้ำทำ หลิวหลิว ไม่ได้มีความสำคัญแค่เป็นเด็กอุปการะของเควิ้น แต่เธอเป็นเจ้าของบัญชีทั้งในและต่างประเทศของเควิ้นกว่าหกสิบเปอร์เซ็นต์ต่างหาก แต่เรื่องนี้หลิวหลิวไม่รู้เลยสักนิดว่าบัญชีที่เธอเปิดให้กับพวกเขาหลายปีมานี้ พวกเขาเอามาทำอะไรบ้าง
“เด็กคนนั้นเป็นใครกันคะ?” มากี้ถามด้วยความอยากรู้ เพียงเพราะเควิ้นดูเสียอารมณ์มาก
“ไม่มีอะไรสำคัญ” หลิวหลิวต้องอยู่ในที่มืดสำหรับเขา เธอก็แค่เครื่องมือชิ้นหนึ่งของเขาก็เท่านั้น หน้าที่เขาแค่จำชื่อเธอให้ได้และให้ข้าวให้น้ำก็เท่านั้น
มากี้เงียบเสียง เธอไม่กล้าถามหรือเซ้าซี้ “ถ้าไม่มีอะไรสำคัญ เรามาทำอะไรที่สำคัญกันดีกว่านะคะ” เควิ้นยิ้มออกมาเล็กน้อย
พรึ่บ!! เสียงชุดกระโปรงสีน้ำเงินเข้มเข้ารูปของมากี้ถูกกระชากออกจากร่างกายที่ผู้ชายทุกคนอยากกระแทกปลดปล่อยราคะในกายออก มากี้สาวทรงยุโรปที่ผ่านมีดหมอมาไม่น้อย แต่ใครจะสนรวมถึงเควิ้น ที่เขาสนใจแต่โพรงสาวของเธอเท่านั้นว่าอดทนมากพอให้เขาพึงพอใจในการแสวงหาความสุขทางกายได้มั้ย แค่นั้นเพียงพอแล้วระหว่างเขากับมากี้และผู้หญิงคนอื่นๆด้วย
มากี้โน้มใบหน้าซุกที่ซอกคอแข็งแรงของเควิ้น เธอจุมพิต ดอมดม สร้างอารมณ์ความต้องการให้กับตัวเธอเองและเขา เควิ้นให้เธอได้หลายอย่างในเรื่องเซ็กส์ มีเพียงอย่างเดียวที่เขาไม่อนุญาตให้เธอกระทำกับเขา ‘จูบ’ เป็นเขตหวงห้าม มากี้ยินดีมองผ่านเรื่องนี้ไปได้เมื่อมีอย่างอื่นที่ดีไม่น้อยดึงดูด จนเธอลืมเรื่องจูบไปได้
แคว่ก เสียงถุงพลาสติกเครื่องป้องกันถูกฉีกขาด เควิ้นสวมเกราะป้องกันให้กับแก่นกายที่ถูกปลุกปั่นจนขยายเต็มที่โดยมากี้
อ๊ะ! เสียงร้องในคอของหญิงสาวที่ถูกผลักลงไปนอนหงายเปลือยเปล่าบนเตียงกว้าง สองขาขยับเปิดทางให้อย่างคนรู้งาน เควิ้นกดเรียวขายาวของหล่อนโน้มข้างหน้าทั้งสองข้าง สายตามองโพรงสาวที่ฉ่ำแฉะตรงหน้า เควิ้นลูบไล้กลีบสาวไปมา เสียงครางแห่งความซ่านเสียวดังออกมาอย่างต่อเนื่อง กระตุ้นความต้องการของเขาได้มากทีเดียว เสียงครางแห่งความซ่านเสียวและเสียงร้องเพราะความเจ็บปวด
ควับ!
อื้ม! มากี้ร้องออกมาเพราะความจุกอย่างตั้งตัวไม่ทัน เพียงแค่การยัดเหยียดที่รุนแรงเพียงครั้งเดียวเควิ้นก็ทำให้แก่นกายที่ใหญ่ของเขาหายไปในโพรงสาวเธอทันที เพียงเสี้ยววินาที เสียงกรีดร้องของมากี้ดังกึกก้องคับห้อง เพราะเธอต้องเจอกับพายุโหมกระหน่ำถาโถมใส่อย่างต่อเนื่อง ถ้าเปรียบว่าเธอคือบ้านที่ตั้งอยู่กลางทุ่งและเควิ้นคือทอร์นาโดต้องผ่านบ้านกลางทุ่งเพื่อบรรลุเป้าหมาย บ้านได้พังทลายไปในพริบตาเมื่อต้องเจอกับทอร์นาโดนั้นที่ทั้งใหญ่และกำลังมหาศาล
เสียงหอบหายใจกระชั้นของเควิ้นกับหยาดเหงื่อที่ผุดขึ้นตามร่างกายในห้องนอนที่เย็นฉ่ำ เสียงกระแทกเข้าออกโพรงสาวยังเกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆ มากี้บอบช้ำมากแล้วแต่สำหรับเควิ้นเขายังไม่พอใจ เขายังต้องการมันอีก
“มากี้ ถ้า สามารถ อยู่กับฉันได้ทั้งคืน ฉันจะจ่ายให้เธอในราคาสองคน” มากี้เบิกตากว้าง เธอเองก็ได้รับแจ้งจากเควิ้นแล้วว่าเธอควรมีใครมาด้วยอีกคน แค่เขาไม่โกรธที่เธอมาเพียงลำพังก็มากพอแล้ว ใช่ว่าจะไม่เคย แต่เธอไม่เคยมาเดี่ยวก็เท่านั้น เควิ้นเลื่องลือในเรื่องที่ต้องมีคู่บำบัดกามให้กับเขา ว่าต้องสองคนเสมอ
เคลย์ตันทำทีเรียกพนักงานให้มารับชำระเงินเมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ก่อนเดินออกจากร้านอาหาร เขาโบกมือให้กับเมษาที่มองเขาเงียบๆเพียงเวลาสั้นๆ
เมื่อเคลย์ตันออกจากร้านไปแล้ว เมษาเรียกพนักงานให้มารับชำระเงินเช่นกัน
“เรียนคุณผู้หญิง สะดวกแจ้งเลขห้องพักมั้ยครับ สำหรับท่านที่พักห้องสวีทไม่ต้องชำระค่าอาหารครับ ร้านอาหารที่นี้เป็นโปรโมชั่นร่วมกับห้องพักครับ” เมษายิ้มออกมา ถึงแม้เธอจะมีเงินแต่ก็ไม่ควรไร้สาระและฟุ่มเฟือย
“ค่ะ ฉันพักห้องสวีท” เมษาแจ้งเลขห้องไปในที่สุด พนักงานแจ้งให้เมษารอสักครู่ และเวลาเพียงไม่นานเขาก็กลับมาอีกครั้ง
“เผื่อคุณผู้หญิงยังไม่ทราบว่าร้าน ผับ ในโรงแรมนี้อีกหลายที่พร้อมให้บริการกับลูกค้าที่พักห้องสวีทครับ” พนักงานพูดพร้อมยื่นแผ่นพับเล็กๆให้เมษาเพิ่มเติมกับให้เธอเซ็นชื่อบนเอกสารการรับประทานโดยไม่ต้องชำระเงิน “ผับคืนนี้มีการแสดงมายากลนะครับ น่าสนใจและสนุกมากๆเลยครับ”
“เหรอ...น่าสนใจจริงๆด้วย ถ้าฉันอยากดู ผับที่ว่าไปทางไหนคะ” พนักงานยิ้มมีชัยอยู่ในใจ และย้ำการแสดงในผับอีกหลายอย่างให้เมษาสนใจมากขึ้นป้องกันการเปลี่ยนใจ
เคลย์ตันยิ้มออกมาอย่างมีชัยเช่นกัน เมื่อเห็นร่างบอบบางเดินเข้ามาในผับในเวลาที่ไม่นานนัก คงต้องจัดโบนัสพิเศษให้กับพนักงานในร้านอาหารคนนั้นเสียแล้ว