SOMETHING17:จีบผู้หญิงของโฟร์

1372 คำ
SOMETHING 17 ********************** ฉันนั่งหาวอยู่ในห้องเรียนอย่างง่วงจัด ตอนนี้บอกเลยว่าเรียนไม่รู้เรื่อง เสียงของอาจารย์ไม่ได้ทำให้ฉันหายง่วงได้ เมื่อคืนฉันไม่ได้นอนทั้งคืน พอโฟร์บอกว่าเขาชอบฉันแค่นั้นแหละก็เกิดความเงียบขึ้นมา และที่น่าอายมากกว่านั้นคือฉันยอมให้เขานอนข้างฉันแถมนอนกอดกันด้วย ฉันว่าตัวเองต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ เลย ทำไมใจง่ายอย่างนี้ก็ไม่รู้ แล้วอย่างนี้จะมีหน้าไปมองหน้าเขาได้ยังไง ไม่น่าเลย ไม่น่าทำอะไรแบบนั้นไปเลย ตอนนี้คือไม่กล้ากลับเข้าห้องไปแล้วอ่ะ เพราะเมื่อเช้าโฟร์บอกว่าจะรอฉันที่ห้อง นี่ก็งงตัวเองมากเลยนะปากก็บอกว่าไม่ได้ชอบเขาแต่ดัใจง่ายให้เขานอนกอดแบบนั้น ให่ตายเถอะรันเขาเป็นคนยังไงก็น่าจะรู้ไม่ใช่หรือไง ผู้หญิงในสต็อกของเขาไม่ใช่น้อยๆ เลยนะจะมาหวั่นไหวให้เขาแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาดเลย “เป็นอะไรหรือเปล่ารัน?” เชียร์สะกิดถามเมื่อเห็นว่าฉันนั่งหน้างอตาก็จะหลับอยู่ข้างเขา ลืมบอกไปเลยว่าตอนนี้ฉันมีเพื่อนแล้วนะไม่ได้นั่งเรียนคนเดียวแล้วด้วย เพื่อนเยอะมากเลยล่ะ เพราะเชียร์เป็นคนที่มีเพื่อนเยอะ ฉันก็เลยโชคดีไปด้วย “ง่วงนิดหน่อยน่ะ” “ไม่หน่อยแล้วมั้งสภาพแบบนี้ ไม่ได้นอนหรือไง?” ฉันพยักหน้าตอบไป จะนอนหลับได้ยังไงในเมื่อมีผู้ชายมานอนอยู่ข้างๆ ทั้งคืน จะขยับก็ไม่กล้าขยับเพราะกลัวว่าโฟร์จะตื่น ก็เลยปล่อยให้เขานอนกอดอยู่แบบนั้นทั้งที่ฉันยังคงตาค้างนอนไม่หลับ จะหลับก็มาหลับตอนเกือบจะเช้าแล้ว ไหนยังจะมีเรียนเช้าเกือบทุกวันอีก ดีหน่อยที่พรุ่งนี้ฉันไม่มีเรียนจะได้นอนยาวไปเลย “ที่บอกว่าไม่ได้นอนนี่ทำอะไรเหรอจ๊ะรันนี่?” แก้วชะโงกหน้ามาพูดแซวทำให้เชียร์ให้ความสนใจกับคำตอบของฉันมาก ฉันดันหน้าผากแก้วให้กลับไปนั่งที่เดิม และไม่ยอมตอบคำถามของยัยนี่ด้วย ปล่อยให้อยากรู้แบบนี้แหละดีแล้ว “นี่ๆ เลิกแล้วไปหาไรกินกันมั้ย?” น้อยหน่าชวน ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย ถ้าฉันบอกว่าไม่ไปก็คงจะแปลกแยกจากคนอื่น ไปด้วยคนสิฉันเองก็ยังไม่อยากกลับห้องเหมือนกัน ถ้ากลับไปแล้วเจอโฟร์มันยิ่งทำให้ฉันประหม่ามากกว่าเดิม “ไปกินชาบูกันเนอะที่ร้านตรงข้ามคาราโอเกะอ่ะ” ฉันส่ายหัวไม่รู้จัก เพราะไม่ค่อยได้ออกไปไหน เวลาว่างก็จะนอนขึ้นอึดอยู่ที่ห้องกับยัยเชอรี่อดีตรูมเมทของฉัน เพราะไม่รู้จะไปไหนเพื่อนก็ไม่มีไงตอนนั้นอ่ะ “เอางี้รันก็ไปกับเชียร์ เชียร์มันรู้จัก” “เอางั้นก็ได้” ฉันหันไปหาเชียร์ก่อนจะพูดกับเขา “รบกวนด้วยนะคะคนขับรถประจำตัว” ที่ต้องพูดแบบนี้เพราะเชียร์เป็นคนขับรถประจำตัวฉันจริงๆ เวลาที่เลิกเรียนแล้วเขาก็มักไปส่งฉัน หรือไม่เขาก็รอฉันเพื่อที่จะมาเรีนด้วยกัน วันไหนที่เราไม่ได้เรียนด้วยกันเขาก็ไปส่งฉันที่คณะเหมือนเดิม ที่จริงก็เกรงใจเขาอยู่หรอกนะแต่เขาบอกว่าเราอยู่หอด้วยกันไปด้วยกันสะดวกกว่า อีกอย่างฉันก็ไม่มีรถด้วย ฉันนั่งซ้อนท้ายเชียร์มาจอดที่ร้านชาบูอะไรสักอย่างที่อยู่ตรงข้ามกับร้านคาราโอเกะ แต่ร้านคาราโอเกะยังไม่เปิดเพราะตอนนี้มันเพิ่งเที่ยง ฉันเดินเข้าไปด้านในก็เห็นเพื่อนๆ นั่งจองโต๊ะไว้ให้แล้ว ถัดจากโต๊ะเราไปก็เป็นโต๊ะของนักศึกษามหาลัยเดียวกับเรา เดี๋ยวก่อน! เมื่อกี้เหมือนฉันเห็นใครคนหนึ่งที่หน้าตาคุ้นมาก บังเอิญไปมั้ยที่มาเจอเขาที่นี่ โฟร์นั่งถัดจากโต๊ะฉันไปเพียงแค่โต๊ะเดียวเท่านั้น และเหมือนว่าเขาเองจะเห็นฉันเหมือนกัน เขาช้อนสายตามองมาที่ฉันก่อนจะสลับไปมองหน้าเชียร์ที่ยืนข้างฉันด้วย เขาแสยะยิ้มมุมปากก่อนจะก้มลงกินต่อ เขาไม่ได้มาคนเดียวหรอกนะเดาได้ว่าน่าจะมากับแฟนของเขา “มาช้าจังนึกว่าจำร้านไม่ได้แล้วซะอีก” แก้วพูดขึ้นก่อนจะจัดโต๊ะที่นั่งให้ฉันกับเชียร์ อะไรจะโชคร้ายขนาดนั้นที่ดันมาให้ฉันนั่งตรงข้ามกับโฟร์แบบนี้ นี่เงยหน้าจากหม้อชาบูก็เห็นเขาเลย บ้าจริง! พอเห็นหน้าเขาแบบนี้เรื่องเมื่อคืนมันก็วนกลับเข้ามาในหัว มันเป็นเรื่องที่น่าอายมากจริงๆ นะ ในเมื่อเขาทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฉันเองก็ควรจะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเหมือนกัน เฉยไว้รันเธอไม่ได้ทำอะไรผิด “กินเสร็จแล้วไปไหนต่อ?” น้อยหน่าถามขึ้นขณะที่พวกเรารอหม้อชาบูกันอยู่ ถามแบบนี้เชื่อเลยว่ายังไม่ได้กลับหอง่ายแน่ๆ แต่ก็ดีแล้วล่ะพรุ่งนี้ฉันว่างกลับดึกหน่อยก็ไม่เห็นเป็นไร “ฉันไม่เคยไปเที่ยวผับเลยอ่ะ เราลองไปกันดูมั้ย” ส้มเพื่อนอีกคนพูดขึ้นมา เที่ยวผับเหรอ ฉันเองก็ไม่เคยไปเหมือนกัน ไม่รู้ด้วยว่าในนั้นเป็นแบบไหน แถวย่านมหาลัยฉันมีผับเปิดหลายร้านมากจนเลือกไม่ถูกเลยล่ะว่าจะเข้าร้านไหน “ความคิดดีว่ะ” เชนเพื่อนผู้ชายของกลุ่มเราพูดขึ้นเหมือนเห็นด้วย ฉันเองก็ไม่ได้มีความคิดอะไรอยู่แล้ว อยากไปก็ไปไม่ไปก็ได้อะไรงี้ เพราะว่าฉันเชื่อว่าตัวเองไม่ได้ทำตัวเหลวไหล การที่เราเข้าผับมันไม่ใช่เรื่องไม่ดีมันเรียกว่าหาประสบการณ์ในชีวิต ทำให้ชีวิตมีสีสันมากขึ้นมากกว่า “สรุปไปนะ” ทุกคนพยักหน้าตกลงกันหมด งั้นฉันก็คงต้องไปด้วยสินะ ระหว่างที่ฉันกินชาบูกับเพื่อนๆ และพูดคุยกันอยู่นั้นฉันก็สังเกตได้ว่ามีสายตาของคนที่นั่งโต๊ะตรงข้ามกับฉันหันมามองอยู่ตลอดเวลา ที่ฉันรู้เพราะเขาจ้องมองฉันอย่างเอาเป็นเอาตายเลยล่ะ ก็ไม่รู้ว่าจะมองอะไรนักหนาหน้าฉันไปเหมือนหน้าแม่เขาหรือไงก็ไม่รู้ แต่ฉันเลือกที่จะไม่สนใจมองไปหาเขา ฉันไม่อยากให้เรื่องเมื่อคืนมันวกกลับเข้ามาในหัว นั่งกินกันมาได้สักพักก็มีน้องผู้ชายคนหนึ่งน่าจะเรียนอยู่ที่โรงเรียนแถวนี้และดูเหมือนว่าจะอยู่มอหกแล้วเดินเข้ามาสะกิดไหล่ฉันเบาๆ “คะ?” ฉันที่กำลังกินอร่อยๆ อยู่นั้นต้องละสายตาจากจานของตัวเองมองไปยังผู้ที่มาสะกิดไหล่ฉันอย่างงงๆ น้องยิ้มให้ฉันอย่างเขินๆ อ้าว! นี่ฉันก็เขินไปด้วยเหมือนกันนะเนี่ยจู่ๆ ก็มีผู้ชายอายุน้อยกว่ามายิ้มให้แบบนี้ ฉันก็เลยยิ้มตอบกลับไป “ผมชื่อต้านะครับเรียนอยู่มอหกแล้ว คือว่าผมน่ะ...” ต้าอ้ำอึ้งเหมือนไม่กล้าพูด ฉันก็งงเหมือนกันจู่ๆ ก็เข้ามาทักแล้วก็ไม่ยอมพูดอะไรกับฉัน ฉันหันไปมองหน้าเพื่อนๆ เพื่อนของฉันก็งงเหมือนกับฉันนี่แหละ “น้องมีอะไรกับพี่หรือเปล่า?” เมื่อเห็นว่าต้าเงียบฉันก็เลยถาม ต้าหน้าแดงขึ้นมาจนฉันสังเกตเห็นได้ชัดเจน ไม่บอกก็รู้ว่าเขินมากแค่ไหน ฉันยังไม่ได้อ่อยน้องเขาเลยนะอย่างเพิ่งเขินสิ “ผมชอบพี่นะครับ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม