SOMETHING06:ทฤษฎีความใคร่

999 คำ
SOMETHING 6 ******************** “อย่ามาทำแบบนี้กับฉันอีกนะ ไม่ชอบ” พูดจบประตูลิฟต์ก็เปิดออกพอดี ฉันรีบสาวเท้าไปให้ถึงห้องเร็วๆ และอยู่ที่ใครที่มัน ไม่อยากสนใจโฟร์อีกแล้ว ฉันอดทนมาทั้งวัน ไม่ต่อว่าหรือด่าทอที่เขาทำตัวหรือพูดจาหื่นกามกับฉัน “เฮ้! โทษทีไม่คิดว่าเธอจะโกรธขนาดนี้ ฉันแค่ล้อเล่นเองนะรันนี่” โฟร์คว้าข้อมือฉันเอาไว้ให้หันกลับไปคุยกับเขาให้รู้เรื่อง แต่ฉันไม่อยากยุ่งกับเขาแล้วเลยเลือกที่จะสะบัดมือออกจากเขา “ฉันลืมไปว่าเธอยังซิงอยู่ คงไม่ชินกับอะไรแบบนี้” “ไอ้โรคจิต” ฉันไม่รู้ว่าจะด่าผู้ชายหน้าด้านคนนี้ว่ายังไงดี คือมันเกินคำบรรยายไปแล้วอ่ะ นี่พี่อรุณรู้หรือเปล่าว่าน้องรหัสสุดที่รักของเขาหื่นกามโรคจิตแบบนี้ แล้วยังมาส่งให้ฉันต้องมาอยู่กับเขาอีก ตาย ตายแน่ๆ ฉันจะอยู่ยังไงต่อจากนี้ โปรดส่งคนมาช่วยฉันที “นี่ด่าเลยเหรอ?” โฟร์แสดงสีหน้าไม่พอใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด ทำให้รู้เลยว่าเขาคงไม่เคยถูกด่าแบบนี้มาก่อน ก็เพราะว่าเขาไม่รู้ตัวไงว่าตัวเองเป็นโรคจิต งั้นฉันจะเป็นคนบอกเขาเองเขาจะได้รักษาตัวเองก่อนที่จะรักษาคนอื่น ไม่แน่เขาอาจจะเรียนหนักเกินไปเลยทำให้ตัวเองกลายเป็นแบบนี้ ฉันว่าต้องรีบไปหาหมอแล้วล่ะ เอาไว้พรุ่งนี้ฉันจะรีบไปบอกพี่อรุณให้ “หน้าอย่างฉันเหรอเป็นโรคจิต?” “ทำไมหน้าอย่างนายถึงจะเป็นโรคจิตไม่ได้?” คราวนี้ฉันไม่เงียบเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว เพราะถ้าเงียบอยู่เขาก็จะคิดว่าฉันกลัวและไม่กล้ากับเขา ที่จริงฉันก็กลัวนั่นแหละเลยไม่ได้พูดอะไรมากเพราะเราต้องอยู่ห้องด้วยกันเป็นปีเลย แต่ฉันก็เฉยไม่ได้เหมือนกัน จ่ายเงินเข้าหอพักเท่ากันฉันก็ควรจะมีสิทธิ์อะไรบ้าง “อะไรที่ทำให้เธอคิดว่าฉันเป็นโรคจิต?” คราวนี้โฟร์หรี่ตามองฉันอย่างหาคำตอบ เขากระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อยเหมือนจะมั่นใจในตัวเองมากว่าเขาไม่ใช่โรคจิต “โรคจิตในความหมายของเธอเป็นแบบไหนเหรอรันนี่?” “...” ฉันไม่ได้ตอบเขาเพราะฉันเองก็หาคำตอบไม่ได้ แต่ฉันรู้แล้วกันว่าเขาเป็นโรคจิตและเป็นโรคจิตหนักมากด้วย ฉันกำลังจะเดินหนีไปที่ของตัวเองก็ถูกโฟร์ดึงมือฉันเอาไว้ก่อนจะเซถลาไปนั่งอยู่บนตักของเขาอย่างพอดิบพอดีแล้วไหนมือของเขาที่โอบกอดเอวฉันไว้อีกล่ะ นี่กอดแน่นไปแล้วนะ นี่ไงไอ้ความโรคจิตของเขาเขาจะรู้ตัวหรือเปล่า “คำนิยามของโรคจิตคืออะไร แล้วฉันมีส่วนคล้ายกับคำนิยามหรือเปล่า?” ฉันพยายามดิ้นเพื่อให้หลุดจากพันธนาการของโฟร์ แต่ยิ่งดิ้นเขาก็ยิ่งกอดรัดฉันแน่นมากกว่าเดิม นี่เหรอที่พี่อรุณบอกว่าอยู่กับโฟร์จะทำให้ฉันสบายใจขึ้น นี่มันอึดอัดซะมากกว่า “ทางการแพทย์ลักษณะของฉันไม่ได้เรียกว่าโรคจิตนะรันนี่” “...” “แต่มันเรียกว่าความใคร่” โฟร์โน้มหน้าเข้ามากระซิบข้างหูฉัน ฉันหยุดดิ้นทันทีเมื่อได้ยินแบบนั้น หลักวิชาการก็มารู้แล้วว่าเรียนเก่งไม่ต้องย้ำด้วยการพูดอย่างเป็นทางการแบบนี้ก็ได้มั้ง “ถ้าฉันเป็นโรคจิตเธอไม่อยู่รอดจนถึงตอนนี้หรอกนะ” พูดจบโฟร์ก็ปล่อยตัวฉันทันที “...” “ไปอาบน้ำได้แล้ว พรุ่งนี้มีเรียนเช้าไม่ใช่หรือไง” ฉันหันกลับไปมองโฟร์อย่างตกใจ เขารู้ได้ยังไงว่าพรุ่งนี้ฉันมีเรียนเช้าฉันไม่ได้บอกเขานี่ว่าฉันเรียนวันไหนบ้างหรือเรียนช่วงไหน หรือจะเป็นพวกสตอล์คเกอร์ที่ชอบติดตามดูคนที่ตัวเองชอบ ไม่ใช่มั้ง เพราะเขาไม่มีทีท่าว่าจะเป็นสตอล์คเกอร์เลยสักนิด “ยังมาทำหน้างงอีก เขียนติดฝาผนังตัวใหญ่ซะขนาดนั้นมองไม่เห็นก็ตาบอดแล้วครับ” “...” เออ! จริงด้วย นี่ไงเพ้อเจ้อจนทำให้ตัวเองหน้าแตกอีกแล้ว ฉันเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวเพื่อเตรียมจะไปอาบน้ำ แต่ก่อนจะเข้าห้องน้ำฉันก็เหลียวไปมองโฟร์อีกครั้งว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ก็เห็นว่าเขาทำเหมือนเดิมคือเสียบหูฟังและให้ความสนใจกับหน้าจอไอโฟนเป็นอย่างมาก อยากรู้เหมือนกันนะว่าเขาดูอะไรของเขาทำไมตั้งใจดูขนาดนั้น “มองขนาดนี้มานั่งดูด้วยกันมั้ยจ๊ะรันนี่” โฟร์กวักมือเรียกให้ฉันไปดูด้วย เขาเลิกสนใจไอโฟนของเขาก่อนจะหันมาสนใจฉันแทน ฉันกำลังจะเดินเข้าห้องน้ำก็ต้องชะงักไปเมื่อโฟร์เรียกเอาไว้ “เดี๋ยวก่อน” “มะ...มีอะไรเหรอ?” “พอดีในห้องน้ำฉันทำราวผ้าหักน่ะยังไม่ได้ซ่อม” “แล้วยังไง?” “ของเยอะขนาดนี้ไม่มีที่ไว้หรอกนะ” โฟร์ยกยิ้มกรุ้มกริ่มก่อนจะมองที่ผ้าเช็ดตัวสีชมพูหวานแหววของฉัน “ถอดก่อนแล้วค่อยเข้าไปอาบก็ได้เสื้อผ้าจะได้ไม่เปียกไม่ต้องหอบเข้าไปด้วยหรอก” “ฉันมีที่ไว้ของฉันแล้วกัน” “จริงดิ” เกลียดที่สุดคือการที่เขาใช้เสียงสองพูดกับฉัน แล้วไอ้สายตาประหลาดๆ ที่ชวนให้ขนลุกนั่นอีก “ตามสบายนะฉันก็แค่เป็นห่วงกลัวว่าเสื้อผ้าเธอจะเปียก แต่จะเอาเข้าไปด้วยก็ได้ฉันไม่มีปัญหาเพราะมันเรื่องของเธอ พรุ่งนี้จะซ่อมราวผ้าให้แล้วกัน” “ซ่อมตอนนี้ได้มั้ย?”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม