เผด็จศึก (NC++)

2013 คำ
@ บ้านปุยฝ้าย “สวัสดีครับพ่อแม่ น้องป๋องแป้ง น้องปาล์มมี่ จะไปไหนกันหรือครับเนี่ยหิ้วกระเป๋าขึ้นรถขนาดนี้” “หวัดดีขุน พ่อแม่และน้องจะไปช่วยงานบวชหลานชายที่ต่างจังหวัดสักสองวันน่ะ” พ่อตอบกลับพร้อมยิ้มรับไหว้ว่าที่ลูกเขย แม่มีพี่ชายคือลุงไปสร้างครอบครัวที่ต่างจังหวัดลูกชายคนโตของลุงกำลังจะบวชแทนคุณบิดามามารดา ทุกคนในบ้านไปร่วมงานและไปค้างคืนที่นั่นยกเว้นปุยฝ้ายต้องอยู่เฝ้าบ้านและดูแลสุนัขตัวโปรดของพ่อ รวมไปถึงจัดส่งผักออร์แกนิกและขนมหวานตามออร์เดอร์ลูกค้าประจำให้พ่อเธอจึงอาสาอยู่จัดการธุระทางบ้านแทน “เดินทางโดยสวัสดิภาพครับพ่อแม่ ไม่ต้องหว่งทางนี้นะผมจะมาอยู่เป็นเพื่อนปุยฝ้ายทุกวันครับ” “ฝากปุยฝ้ายด้วยนะขุน” พูดจบพ่อได้สตาร์ทรถยนต์และทุกคนขึ้นรถและออกเดินทางซึ่งหลังจากที่หมั้นหมายพ่อและแม่ของปุยฝ้ายก็ไม่ได้หวงและปิดกันลูกสาวกับแฟนหนุ่ม เพราะทั้งสองได้หมั้นหมายกันไว้แล้วและเขามั่นใจในตัวลูกสาวที่รักนวลสงวลตัวดูแลตัวเองได้ดีเขารักและภูมิใจในตัวลูกสาวคนนี้มาก… หลังจากพ่อแม่และน้องของเธอเดินทางเขาก็เดินเข้าในบ้านอย่างสบายใจ วันนี้เขาแต่งตัวสบาย ๆ เพราะเป็นวันหยุดอยากใช้เวลากับปุยฝ้ายเพราะเหลือเวลาอีกแค่สองสัปดาห์ก็เปิดเทอม เขานั่งรอคู่หมั้นสาวที่ห้องรับแขกเปิดทีวีเปิดตู้เย็นดื่มน้ำเปล่าทำตัวชิวล์เหมือนบ้านของตัวเองเขารู้จักทุกซอกทุกมุมในบ้านยกเว้นห้องนอนของปุยฝ้ายที่เขาไม่เคยขึ้นไป กรี๊ดดดดด! ทันใดนั้นเสียงปุยฝ้ายร้องดังขึ้นมาขุนพลรีบวิ่งขึ้นไปดูพบว่าเธอยืนตัวเกร็งเอามือปิดตาเพราะมีงูเขียวตัวเล็กเท่านิ้วก้อยเลื้อยเขามาตรงขอบหน้าต่าง เขาใช้ไม้กวาดเขี่ยงูลงไปเพราะที่บ้านของเธอมีต้นไม้ร่มรื่นจึงมีนกและงูมาอาศัยอยู่ ปุยฝ้ายเพิ่งอาบน้ำเสร็จยังแต่งตัวไม่เรียบร้อย ผมเธอยังไม่แห้งยืนอยู่ในชุดคลุมสีขาวบางทำให้มองเห็นสัดส่วนที่ไม่ได้ใส่ชั้นในสักชิ้น เธอลืมตัวว่าไม่ได้ใส่อะไรเลยข้างในและเดินเข้าไปเกาะแขนขุนพลแน่นซึ่งทำให้เขาใจสั่นเหงื่อแตกเพราะหน้าอกนุ่มนิ่มของเธอได้ไปเบียดแขนล่ำของเขาเต็ม ๆ ซึ่งเธอไม่ได้ระวังตัว “มันลงไปแล้วปุย” เขาจะเรียกเธอสั้น ๆ ว่า ‘ปุย’ สลับกับบางทีปุยฝ้ายก็เรียกเขาว่า ‘ขุน’ เขาไม่ยอมเรียกเธอว่าพี่ตั้งแต่แรกเพราะเขาไม่เคยเห็นเธอเป็นพี่สาว ขุนพลรีบกอดปุยฝ้ายและหอมแก้มเธอฟอดใหญ่ กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของสบู่และกลิ่นตัวของหญิงสาวทำให้เขาปั่นป่วนจนลืมตัว ด้วยภาพที่เห็นและการกระตุ้นจากสัมผัสที่เธอเอาอกมาเบียดตัวเขามันทำให้ความเป็นชายหนุ่มวัยฉกรรจ์พองตัวขึ้นมาเต็มลำปุยฝ้ายตกใจและสดุ้งในสิ่งที่เขาจู่โจม “ขุนทำอะไร ปุยไม่ชอบเราอยู่บ้านกันแค่สองต่อสอง ในห้องนอนขุนลงไปรอปุยข้างล่างนะ” ปุยฝ้ายพูดพร้อมกับดันแขนเขาออกพยายามดิ้นให้คู่หมั้นหนุ่มปล่อยตัวเธอให้เป็นอิสระ เพราะอยู่ในสถานการณ์ที่ล่อแหลม “เราหมั้นกันแล้วนะปุยลืมไปแล้วหรือ อะไรกันหมั้นกันไม่ถึงอาทิตย์ลืมง่ายขนาดนั่น” เขาไม่พูดเปล่ามือหนาได้ลูบไปที่ใบหน้าสวยที่ไร้เครื่องสำอางเบา ๆ และจูบปากจิ้มลิ้มสีชมพูอย่างทะนุถนอมปุยฝ้ายสดุ้งอยากดิ้นแต่เหมือนตกอยู่ในภวังค์ จะขัดขืนแต่ร่างกายกลับสวนทางกับความคิดเธอเปิดปากสวยจูบกลับเขาเป็นจูบที่แสนหวานและเนิ่นนาน เขาค่อย ๆ เล้าโลมเธออย่างอ่อนโยนเพราะนี่คือครั้งแรกที่ทั้งสองมีโอกาสได้ใช้เวลาพิศวาทกัน ปุยฝ้ายเริ่มเคลิ้มตามเขาเธอถูกขุนพลจูบคลำไปที่หน้าอกที่ไร้บราข้างในเขาจับหน้าอกเธอและเผอครางออกมาแบบสั่นเครือ… “นมปุยใหญ่พอดีมือขุนเลย…ทำไมมันนุ่มนิ่มขนาดนี้กลิ่นหอมจัง” ไม่พูดเปล่าเขาอุ้มเธอแล้วเดินไปปิดประตูห้องนอนและวางเธอลงบนเตียงนุ่มสีชมพู ปุยฝ้ายนอนหายใจหอบเพราะไม่เคยเจอกับเหตุการณ์แบบนี้เธอถูกเขากดลงบนที่นอนนุ่มคราวนี้เขาจูบเธอแบบรุนแรงเป็นการจูบแบบแลกลิ้น เรียวปากสวยอ้าเพื่อจะเอาอากาศหายใจแต่ถูกขุนพลใช้ลิ้นล้วงเขาไปดูดกลืนน้ำลายหวานของเธออย่างหื่นกระหายเขาจูบเธอจนปากเจ่อ มือหนาแกะฝ้าคลุมบางเบาสีขาวทีคลุมก็เหมือนไม่คลุมออกก็เห็นเรือนร่างอรชรหน้าอกอวบอิ่มพอดีมือหน้าท้องแบนราบเอวคอดของเธอถูกเขาลูบไล้สะโพกงอนงามก็โดนเขาบีบเค้นจนเธอครางเสียงน่าเกลียดออกมา… “อือ… ขุนปุยร้อน” ใบหน้าของเธอร้อนผ่าวมีสีแดงก่ำใบหน้าหล่อใสรีบไซ้ไปตามซอกคอระหงขาวเนียนของเธอ เลียไปที่ใบหูไล่ต่ำลงมาที่ยอดปทุมสีชมพู “สวยจัง สวยไปหมดทุกส่วน” เขาชมรูปร่างของเธอปุยฝ้ายอายเอามือมาปิดสองเต้าอวบพอดีกับตัวที่ตอนนี้หัวนมมันแข็งชี้หน้าเขา ด้านล่างช่องแคบของเธอก็เริ่มมีน้ำใส ๆ เยิ้มออกมาเขาเพ่งมองและโลมเลียตัวเธอรูดต่ำลงมาเรื่อย ๆ มือหนาก็คลำขย๋ำไปที่สองเต้าแฝดจนแดงไปทั้งสองข้างเพราะผิวของเธอขาวมาก เขาไล่จมูกลงมากดจุดที่เรียกว่านาผืนน้อยของเธอมีขนสีดำปกคลุมบาง ๆ ถูกตักตกแต่งมาอย่างดีสะอาดอวบอูมน่ามองมาก จนคู่หมั้นหนุ่มวัยฉกรรจ์ลอบกลืนน้ำลายลงคอเพราะตอนนี้เจ้ามังกรในกางเกงเขาแทบจะแตกออกมาเป็นเสี่ยง ๆ แล้ว “ห้ามมองนะขุน” เธอรีบเอามือมาปิดนาผืนน้อยของตัวเองด้วยความเขินอายที่ต้องมาเปลือยเปล่าต่อหน้าผู้ชายครั้งแรก และตอนนี้ของสงวนของเธอมันแฉะซึมที่นอนไปหมด… “ไม่ต้องอายนะ ปุยสวยจะตายขุนทนไม่ไหวแล้ว ขุนขอเสียบเข้าไปในรูของปุยนะครับ” มันไม่ใช่ประโยคคำถามมันคือประโยคบอกเล่า เธอไม่ได้ตอบตกลงคนที่เอาแต่ใจก็จัดการถอดกางเกงและเสื้อออกอย่างรวดเร็วทำให้เห็นรูปร่างที่สูงวงแขนที่มีกล้ามเนื้อซิกแพคที่สวยแน่นบวกกับผิวขาวอมชมพูทำให้รู้ว่าเขาดูแลตัวเองดีมาก ๆ มือหนาได้จับท่อนเอ็นขนาดใหญ่สมส่วนที่ตอนนี้หัวมันมีสีชมพูได้ถอกและบานออกมา เขาใช้มือรูดสองสามครั้งและเอามันมาถูไถกับร่องสวาทของเธอ นิ้วเรียวที่ซุกซนจัดการบี้เม็ดเสียวของเธอจนต้องเผลอครางออกมาร่างบางบิดกายหนีเขา เมื่อเห็นว่าอีกคนกำลังจะหนีมือหนาได้จับเอวบางกดให้นิ่งจากนั้นแยกขาเรียวทั้งสองข้างออกจากกันใช้นิ้วกลางสอดเข้าไปในร่องของเธอ…. ปุยฝ้ายสดุ้งเล็กน้อยด้วยความที่เธอยังไม่เคยกับเรื่องพวกนี้ และขุนพลเป็นผู้ชายคนแรกเธอจึงทำตัวไม่ถูกใจสั่นตัวสั่นไปหมดนิ้วเรียวของคู่หมั้นหนุ่มค่อย ๆ ชักเข้าออกช้า ๆ จนเธอรู้สึกผ่อนคลายส่งเสียงครางเสียงหวานออกมาร่องสาวมีการตอดรัดนิ้วเขาตามสัญชาตญาณ ซึ่งเขาก็รับรู้ว่าปุยฝ้ายไม่เคยผ่านมือชายใดมาก่อนจึงอ่อนโยนกับเธอให้มากที่สุดกลัวว่าคู่หมั้นสาวคนสวยจะเจ็บและบอบช้ำ เธอครางเสียงกระเส่าลืมความอายไปหมดแล้วตอนนี้เขาได้ทำให้เธอจนเธอเสร็จร่องสวาทของเธอคับและแคบมาก ๆ ทำเอาชายหนุ่มไม่มั่นใจว่าร่องของเธอจะรับท่อนเอ็นอุ่น ๆ ของเขาได้ไหม จึงพยายามปลุกให้เธอมีอารมฌ์ร่วมมากที่สุดหลังจากช่องแคบของเธอตอดนิ้วเขารัว ๆ ตัวเธอเกร็งกระตุกและมีน้ำรักไหลหลั่งออกมาจนเลอะมือและที่นอนเต็มไปหมดเป็นสัญญาณว่าเธอเสร็จสม ซึ่งตัวเขาก็ปวดหนึบ ๆ ที่ท่อนเอ็นของตัวเองมันทรมานและอึดอัดในที่สุดได้จับขาเรียวอ้าออกจนเห็นรูข้างในกลีบกุหลาบสีชมพูแดงมันระบมและบวมเป่งแล้วค่อย ๆ บรรจงยัดท่อนเอ็นลงไปช้า ๆ “เข้ายากจังว่ะ…ทำไมมันไม่เข้า” ขุนพลดันท่อนเอ็นใหญ่ยาวสีชมพูของเขาเข้าไปในร่องสวาทของปุยฝ้ายได้เพียงครึ่งเดียว ความรู้สึกของปุยฝ้ายที่มีส่วนของขุนพลเข้ามาอยู่ในร่างกายเธอมันรู้สึกแปร๊บ ๆ เจ็บไปถึงข้างในจนเธอน้ำตาไหลออกมามันทั้งเจ็บทั้งจุก นิ่ม คับตึง อุ่นและเสียวปะปนกันมาราวกับว่ามีอย่างอย่างข้างในได้ฉีกขาด “โอ๊ยยย! ปุยเจ็บ ขุนทำอะไร” ขุนพลนี่คือครั้งแรกของเขาถึงเขาจะหน้าตาดีมีตัวเลือกมากมายแต่หลังจากเขาคบกับเธอเขาก็ไม่ยุ่งกับใครเพราะทั้งคู่มีสัญญาใจต่อกัน แต่เขาก็ทำได้ดีเหมือนชำนาญเพราะเขาก็ได้ศึกษาเรื่องเซ็กส์มาบ้างแล้วกับเพื่อนชายหนุ่มวัยรุ่นของเขา “รอขุนสักครู่นะ เจ็บเหมือนกัน” เขาก็รู้สึกเจ็บและเสียวเหมือนกันเพราะข้างในโพรงสวาทของเธอมันแคบและบีบมาก เขาพยายามอีกครั้งคราวนี้เขาดันทีเดียวจนสุดลำ กึด! หัวท่อนเอ็นได้เข้าไปในโพรงสวาทของเธอจนมิดและมันมีเลือดสีแดงไหลออกมาติดที่จุดเชื่อมต่อของคนทั้งสอง ปุยฝ้ายร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บแสบแทบจะแหลกสลาย “กรี๊ดดด! เอามันออกไปขุน ปุยเจ็บ” เขาไม่ฟังเธอแม้แต่น้อยในนาทีนี้คงหยุดไม่ได้แล้วพยายามดันท่อนเอ็นต่อและค่อย ๆ กระเด้าเอวสอบจากช้า ๆ จนเริ่มคล่องตัวก็เริ่มเร่งจังหวะความเร็วขึ้น ปึก! ปึก! ปึก! เสียงเนื้อกระทบกันพร้อมกับเสียงครางของทั้งคู่ดังระงมเหงื่อท่วมตัวทั้งสองร่างรวมกันเป็นหนึ่ง “อื้อ! อ๊ะ” ยิ่งช่องคลอดเธอบวมเป่งยิ่งตอดรัดท่อนเอ็นเขาข้างในโพรงสวาทอุ่นและนุ่มมีน้ำหล่อลื่นของทั้งคู่ปะปนกัน “อ๊ะ ปุยเสียว ขุนทำเบา ๆ อื้อ….ไม่ไหวแล้ว” “ปุยรอขุนนะเราจะเสร็จพร้อมกัน” ร่างสูงของเขาเกร็งกระตุกเมื่อร่องสวาทของเธอตอดเขาถี่ ๆ “ขุนรักปุยมากน่ะ อ่ะ ซี๊ดส์” ขุนพลพูดติด ๆ ขัด ๆ เขาบอกรักคู่หมั้นสาวในขณะที่กำลังร่วมรักกับเธออยู่ “ร่องปุยตอดไอ้เจ้าลูกชายขุนดีจัง ไม่ไหวแล้วจะแต่ะ…แตกแล้ว” มือหนารีบดึงท่อนเอ็นใหญ่ยาวออกมาและรูดชักเข้าออกสองสามคลั้งใบหน้าหล่อใสเหยเกไม่ต่างจากใบหน้าของคนที่นอนอยู่ใต้ร่าง สักพักก็มีน้ำสีขาวขุ่นข้นพุ่งออกมาที่หน้าท้องแบนราบเขาฟุบหน้าลงไปบน สองเต้าอวบอกของเธอ…..แต่ทว่าส่วนของความเป็นชายของเขามันยังไม่ยอมสงบยังแข็งตัวพร้อมจะกระแทกเธอต่อ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม