ตอนที่ : 2 เจ้าสาวจำเป็น 2

1555 คำ
“ยังไงครับ ออกไปบอกว่าเจ้าสาวหนีงานแต่ง เชิญทุกคนกินข้าวแล้วกลับบ้านได้อย่างนี้เหรอครับ ผมจะกลายเป็นไอ้หน้าโง่ในสายตาคนอื่นแค่ไหนรู้ไหมครับ” “วัธน์” นายกวินเรียกชื่อเตือนสติลูกชายอีกรอบ แต่ดูเหมือนเจ้าบ่าวในวันนี้จะไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น “น้าก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกันค่ะคุณวัธน์ มันเป็นความผิดของน้าเองที่ไปบังคับหวายแบบนี้” หมดหนทางแล้วนางนีรนุชก็ยอมรับตามตรง “ไหนว่าหวายเต็มใจไงครับ สรุปคือถูกคุณน้าบังคับนี่เอง มิน่าล่ะ” กวีวัธน์แทบจะกลั้นความโกรธเอาไว้ไม่อยู่ ดีที่บิดาคอยดึงท่อนแขนปรามเอาไว้ ชายหนุ่มถอดสูทออกแล้วปาทิ้งอย่างโมโห “โอ๊ะ!” สูทเจ้ากรรมดันมาหล่นใส่หน้าของเชิญขวัญเข้าอย่างจัง หญิงสาวรีบคว้าเอาไว้ก่อนที่มันจะตกพื้น ทุกคนภายในห้องต่างมองไปทางเดียวกันหมด สายตาทุกคู่ต่างมองสบกันไปมา และเหมือนเจ้าบ่าวจะคิดออกได้ก่อนใคร รีบก้าวเร็วๆ ไปหาเชิญขวัญ “ของคุณค่ะ” เชิญขวัญรีบยื่นสูทคืนให้ แต่เขาไม่แค่หยิบสูทของตัวเอง กลับจับข้อมือของเธอขึ้นมาพร้อมกับเอาถุงกระดาษยัดใส่มือไปด้วย “ไปเปลี่ยนชุดเจ้าสาวเดี๋ยวนี้!” “เฮ้ย!” “ไม่ต้องมาเฮ้ย นายกวีวัธน์คนนี้จะไม่ยอมถูกตราหน้าว่าถูกเจ้าสาวทิ้ง ผมจะต้องมีเจ้าสาวแต่งในวันนี้ คุณ...ชื่ออะไรนะ” “ปาน” อีกคนตอบห้วนๆ ป้าของเธอก็เรียกปานอยู่ตั้งนานไม่รู้จักจดจำ “คุณปานคุณต้องรับผิดชอบแทนญาติของคุณ ไปเปลี่ยนชุดเจ้าสาวแล้วมาแต่งงานกับผมเดี๋ยวนี้” เชิญขวัญได้ยินแล้วก็ถลึงตาใส่อย่างไม่พอใจ เขาเป็นใครกันถึงได้มาออกคำสั่งแสนงี่เง่าแบบนี้กับเธอ “บ้าป่ะใครจะแต่ง” “หนูปานมานี่ก่อนลูกมาคุยกับป้าก่อนนะ” นางนีรนุชรีบดึงตัวหลานสาวมาคุยกันตรงมุมห้องพร้อมกับสามีของตนเอง “หนูปานป้าว่าหนูแต่งงานช่วยคุณวัธน์เขาไปก่อนนะลูก” “คุณนุชทำไมพูดแบบนี้ล่ะ หนูปานเขาไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ จะให้เขามารับผิดชอบเรื่องของหวายได้ยังไง” นายประวิทย์ไม่เห็นด้วย “คุณประวิทย์ทำเป็นเหมือนไม่รู้ว่าทำไมเราต้องทำแบบนี้ คุณก็เห็นนี่คะว่าคุณวัธน์เขาไม่ยอมเสียหน้าแน่ๆ” พูดกับสามีแล้วก็หันมาทางหลานสาวอีก “นะหนูปานนะ แค่แต่งหลอกๆ ช่วยแก้หน้าให้เราก่อนนะลูก เสร็จงานหนูก็กลับบ้านไปไม่มีอะไรต้องมารับผิดชอบอีก ถือซะว่าออกไปยืนยิ้มๆ หน้าเวทีแป๊บเดียวก็จบแล้ว” นางนีรนุชพูดเหมือนเป็นเรื่องง่าย “มันจะดีเหรอคะคุณป้า” “ถือว่าช่วยป้าหน่อยนะยัยปาน ไม่งั้นคุณวัธน์คงได้ให้ป้าออกค่าจัดงานแต่งเองแน่ ไม่ใช่น้อยๆ นะลูก หมดนี่หลายล้านเลย ป้าไม่มีหรอก” ‘อ้อ แบบนี้นี่เอง’ เชิญขวัญรู้ถึงสาเหตุที่ผู้เป็นป้าพยายามคะยั้นคะยอตัวเธอแล้ว “ก็ใครล่ะอยากได้งานในโรงแรมหรูๆ ไม่ใช่คุณเหรอคุณนุช” เสียงแทรกคั่นกลางมาจากนายประวิทย์ “คุณประวิทย์มือไม่พายอย่าเอาเท้าราน้ำได้ไหม” “ปรึกษากันเสร็จหรือยังครับ เวลาจะไม่มีอยู่แล้วนะครับ” เจ้าบ่าวตะโกนขึ้นอย่างไม่เกรงใจใคร “ไม่มีมารยาท” เชิญขวัญบ่นเบาๆ คนเป็นป้าเลยต้องส่งสายตาปราม “ได้แล้วค่ะคุณวัธน์ ตกลงหนูปานจะแต่งงานแทนยัยหวายเองค่ะ” “คุณป้า!” เชิญขวัญยังไม่ทันได้ตกลงแต่ผู้เป็นป้าก็สรุปเอาเองเสียแล้ว “นะยัยปานให้ป้าไหว้ก็ยอมนะลูก” นางนีรนุชทำท่าจะยกมือขึ้นไหว้จริงๆ เชิญขวัญรีบยกมือห้ามอย่างตกใจ “คุณป้าทำอะไรคะ ปานแต่งก็ได้ค่ะไม่ต้องไหว้ปานนะคะ เดี๋ยวปานอายุสั้น” “จริงเหรอหนูปาน” “ค่ะคุณป้า แต่ห้ามบอกเรื่องนี้กับพี่ชายปานนะคะ ไม่งั้นงานเข้าปานแน่” “จ้ะๆ ป้าไม่บอกหรอก แต่งแค่ตรงนี้แล้วหนูปานก็กลับบ้านไปได้เลยลูก ทางนี้เดี๋ยวป้ากับลุงจัดการต่อเอง” “แบบนั้นก็ได้ค่ะ” ตอบไปแบบนี้คงกลับคำได้ยาก เชิญขวัญใจเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อตระหนักได้แล้วว่าเธอกำลังจะทำอะไรต่อจากนี้ ‘เฮ้อ’ ระหว่างเชิญขวัญเข้าไปเปลี่ยนชุดเจ้าสาวในห้องแต่งตัว นายประวิทย์ก็เข้าไปพูดคุยกับนายกวินในเรื่องของชื่อเจ้าสาวที่อยู่บนฉากหลังเวที “ผมไปงานแต่งมาตั้งหลายครั้ง ผมไม่เคยจำได้สักทีว่าเจ้าสาวชื่ออะไร คุณพ่อไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับ อีกอย่างผมกับหวายก็แต่งกันแบบไม่ได้คบกันมาก่อน ไม่มีประวัติให้คนเห็นก่อนหน้า คงไม่มีใครสงสัยอะไรมากหรอกครับ” เจ้าบ่าวพูดแบบคนรู้ตัวว่าการตัดสินใจแต่งงานกับนวินดาเป็นการตัดสินใจผิด เพราะมันคือการเกี่ยวดองกันทางธุรกิจล้วนๆ นั่นเอง “แค่บอกพิธีกรให้เปลี่ยนชื่อเจ้าสาวแค่นี้ก็พอมั้งครับคุณประวิทย์” นายกวินแนะนำ “ผมว่าไม่ต้องให้เอ่ยชื่อเจ้าสาวเลยเป็นการดีที่สุดครับ ให้รวบรัดขั้นตอนงดฉายภาพที่เตรียมไว้มาด้วย” เจ้าบ่าวจัดแจงเองเสร็จสรรพ ผู้ใหญ่ทั้งสองก็ได้แต่มองตากัน แล้วก็แยกย้ายกันไปสั่งงานเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลการจัดการงานอีกที “เจ้าสาวมาแล้วค่ะ” นางนีรนุชเดินนำหน้าออกมาจากห้องแต่งตัว ตามด้วยเจ้าสาวในชุดสีขาวกระโปรงยาวฟูฟ่อง ผมถูกถักเปียรวบหลวมๆ แล้วแซมด้วยดอกไม้สีขาวไล่ระดับตามปอยเปียผมลงมา เพราะมีเวลาไม่มากจึงทำผมแบบง่ายๆ ไว้ก่อน “เดี๋ยวรออยู่ตรงนี้ก่อนนะหนูปาน ป้าขอไปดูหน้างานก่อนว่าออกไปได้แล้วหรือยัง” ผู้เป็นป้าพูดกับหลานสาวแล้วก็รีบเดินออกจากห้องไป เชิญขวัญเหลือบตามองเจ้าบ่าวซึ่งสูงกว่าเธอราวครึ่งไม้บรรทัด เห็นเขาทำหน้านิ่งๆ ไม่แสดงความรู้สึกอะไรออกมา ทั้งที่ก่อนหน้ากระฟัดกระเฟียดจะเป็นจะตายให้ได้ “เราแค่แต่งงานกันหลอกๆ ใช่ไหมคุณ” เชิญขวัญถามเพื่อความแน่ใจ อีกคนก็มองต่ำแล้วตอบว่า “ใช่” “ไม่มีการผูกมัดกันนะ” “ไม่มี” คราวนี้น้ำเสียงของเจ้าบ่าวค่อนข้างห้วนจัด “ไม่จดทะเบียนแน่นะ” “เอ๊ะ คุณนี่ยังไง คุณแค่แต่งหลอกๆ ให้มันพ้นคืนนี้ไปเท่านั้นเอง ไม่ต้องคิดว่าตัวเองสวยเลิศเลอจนผมอยากเอามาเป็นเมียจริงๆ น่ะ” “โหย ใครเขาคิดอะไรแบบนั้นกันคุณ ฉันก็แค่อยากแน่ใจว่าแต่งกันหลอกๆ ไม่มีพันธะผูกพัน เพราะเดี๋ยวถ้าผูกแล้วมันจะแก้ยากรู้ไหม” “คุณไม่ต้องห่วงไปหรอก แต่งเสร็จแล้วคุณอยากจะไปไหนก็เชิญ คนอย่างผมไม่มีทางรั้งเอาไว้อย่างแน่นอน” “ก็ดีค่ะ เป็นอันเข้าใจตรงกัน” ตัดบทแบบนี้ก็ต่างคนต่างอยู่แล้วกัน เชิญขวัญไม่อยากสนทนากับเขาอีกต่อไป พิธีการบนเวทีถูกดำเนินการไปอย่างเรียบง่าย แม้จะมีเสียงซุบซิบนินทาเรื่องที่คู่บ่าวสาวไม่ได้มายืนรอรับแขกที่หน้างานอยู่บ้าง และด้วยความที่เป็นญาติสายเลือดเดียวกันจึงทำให้เชิญขวัญมีใบหน้าละม้ายคล้ายคลึงกับนวินดาอยู่บ้าง ยิ่งแต่งหน้าให้หนาเข้าไว้ยิ่งดูลำบาก บางคนยังคิดว่าเป็นคนคนเดียวกันด้วยซ้ำ ไม่ได้เอะใจหรือเข้ามาถามไถ่แต่อย่างใด “จูบเลยๆๆ” แล้วเสียงตะโกนของแขกเหรื่อก็ทำให้เจ้าสาวใจหายวาบ พิธีกรที่รู้ความจริงก็อึกอักไม่กล้าเชียร์เสียงดัง ยิ่งทำให้แขกเหรื่อเข้าใจว่าทั้งคู่อายไม่กล้า ยิ่งตะโกนเสียงดังมากขึ้นกว่าเดิม “จูบเลยๆๆ” กวีวัธน์หันมายิ้มให้เจ้าสาวแบบฝืนๆ เชิญขวัญส่ายหน้านิดๆ ให้เขารู้ แต่ว่าเอวของเธอกลับถูกเขารวบ แล้วมืออีกข้างของเขาก็ดันปลายคางของเธอขึ้น ริมฝีปากหยักกดจูบลงมาอย่างเนิบช้า แล้วเสียงปรบมือก็ดังสนั่นพร้อมกับเสียงผิวปากวี้ดวิ่ว แล้วเจ้าบ่าวก็ค่อยๆ ถอนจูบออก สีหน้าของเจ้าสาวซีดเผือดพร้อมกับคำถามที่ผุดขึ้นในใจ ‘สอดลิ้นเข้ามาทำไม!’ และมันควรจะแค่เป็นการออกไปยืนบนเวที ถ่ายรูปตัดเค้ก แต่ทำไมถึงมีการตั้งโต๊ะจดทะเบียนสมรสต่อหน้าแขกเหรื่อผู้ใหญ่แบบนี้ เชิญขวัญสะกิดเจ้าบ่าวเบาๆ “คุณไหนว่าไม่จดทะเบียนไง” พร้อมกับกระซิบถาม “ก็เจ้าหน้าที่มาแล้วจะปฏิเสธยังไง ผมก็ลืมนึกเรื่องนี้ไป ป้าของคุณนั่นแหละอยากจะให้จดทะเบียนเลยในวันแต่ง” “ฉันไม่จด” “ต้องจด” คนกลัวเสียหน้าผู้หลักผู้ใหญ่เข่นเขี้ยวบอก
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม