ละลายรัก(นายมาดนิ่ง)
"หิวมั้ย" คิมหันต์ถามคนตัวเล็กที่นั่งข้างเขา
"มะ ไม่หิวค่ะ" หนูนิดพยายามพูดและทำตัวเป็นปกติที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ เพราะไม่อยากโดนเขารังแกอีก และสายตาของเธอก็ได้เหลือบไปเห็นชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ดูสง่าที่เธอก็รู้จักดี ผู้ชายคนนั้นยืนอยู่นอกห้องจัดเลี้ยงตรงมุมปลอดคน แต่เธอก็ดันตาดีมองออกไปเห็นเขา เห็นแบบนั้นน้ำใสๆก็เอ่อคลอเบ้าตาเธอทันที รู้สึกนอยอยากจะได้ความอบอุ่นจากเขาเพื่อเยียวยาความกลัวจากสัมผัสของคนใจร้ายที่ทำกับเธอก่อนหน้านี้
"เป็นอะไร" คิมหันต์ถามพร้อมยื่นมือหนาวางลงบนมือบางที่กุมกระเป๋าของตัวเองอยู่บนหน้าตักของเธอ ซึ่งเขาก็มองตามสายตาที่เธอมองออกไป
"ปะ ปล่าวค่ะ...นะ หนูนิดขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ" หนูนิดสะดุ้งหันมาตอบด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก กระพริบตาถี่ๆเพื่อไล่น้ำใสๆที่เอ่อคลอเบ้าตาออกไป ประโยคหลังเธอตัดสินใจพูดโกหกคนตัวโต แล้วลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินไปหาคนที่สามารให้ความอบอุ่นและปลอบโยนเธอได้ในตอนนี้
ดวงตาคมกริบมองตามหลังคนตัวเล็กด้วยสายตาเรียบนิ่ง ในตาสุขุมอยากเกินที่จะคาดเดา
เมื่อหนูนิดเดินมาถึงคนที่เธอจะหาความอบอุ่นได้จากเขาในตอนนี้ เธอก็ยืนมองเขา ที่ยืนหันหลังให้เธออยู่ตรงราวระเบียงนอกห้องจัดเลี้ยง ซึ่งตรงนี้เป็นที่ปลอดคนอยู่ในมุมหนึ่งของห้องจัดเลี้ยง หนูนิดกระพริบตาถี่ๆเพื่อไล่น้ำตาที่กำลังจะไหลออกมาอีกครั้ง แล้วเดินไปหาคนที่เปรียบเสมือนพี่ชายอีกคนของเธอ
"พี่หมอ" เอ่ยเรียกเมื่อเดินมาหยุดยืนอยู่ข้างเขา พร้อมกับกลั้นน้ำตาและเสียงสะอื้นเอาไว้
"หนูนิด" ขุนเขาหันมาตามเสียงเรียก และเอ่ยชื่อคนที่เรียกเขาอย่างดีใจที่เห็นเธอมางานนี้ด้วย
"พี่หมอมางานนี้ด้วยเหรอคะ ดีจังที่ได้เจอพี่หมอที่นี่" พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ มองเขาดวงตาแดงก่ำในตาสั่นไหว
"ทางครอบครัวเจ้าสาวเอื้อกับแม่พี่นะครับพี่เลยมาแทนแม่ พี่เองก็ดีใจนะที่ได้เจอเราที่นี่ แล้วนี่มากับใครเหรอครับ" ขุนเขาตอบแล้วถามกลับในประโยคหลัง เขารู้สึกแปลกใจทั้งคำพูดและน้ำเสียงของคนตัวเล็ก ไหนจะดวงตากลมโตที่แดงก่ำนั้นอีก แต่สายตาของเขาก็ดันเหลือบไปเห็นรอยแดงเป็นจ้ำที่ซอกคอของคนตัวเล็ก เห็นแบบนั้นใจแกร่งกระตุกวูบรู้สึกปวดใจขึ้นมาทันที เพราะเขารู้ดีว่ารอยแบบนี้มันเกิดจากอะไร และด้วยท่าทางของคนตัวเล็กในตอนนี้เขาพอจะเดาออกว่ามันต้องเกี่ยวข้องกับรอยแดงนั้นแน่นอน อีกอย่างคนตัวเล็กไม่ได้มีคนรักเป็นตัวเป็นตน ด้วยนิสัยของเธอ เธอแทบจะไม่เข้าใกล้เพศตรงข้ามเลยด้วยซ้ำ ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งปวดใจและเป็นห่วงคนตัวเล็กขึ้นมาทันที
"มีเรื่องไม่สบายใจใช่มั้ย บอกพี่ได้มั้ยว่ามันเกิดอะไรขึ้น" เมื่อเห็นคนตัวเล็กเงียบไม่ตอบคำถามของเขา เขาจึงเอ่ยถามออกไปด้วยความเป็นห่วง ใจแกร่งสั่นไหวแรงขึ้น เขาไม่อยากให้สิ่งที่เขาคิดเป็นความจริง
"ฮึ่ พะ พี่หมอ~"
พรึ่บ!
สิ้นเสียงสะอื้นที่เอ่ยเรียกชื่อคนตัวโตตรงหน้า หนูนิดก็กอดหมับเอวสอบของเขาไว้ทันทีอย่างต้องการความอบอุ่นและการปลอบโยนจากเขา ซึ่งตอนนี้ก็มีแค่เขาที่เธออยู่ด้วยแล้วรู้สึกปลอดภัยที่สุด เพราะเขาแสนดีกับเธอมาตลอด ไม่เคยรังแกหรือทำให้เธอผิดหวังในตัวเขาเลยซักครั้ง
"ไม่เป็นไรนะ พี่อยู่นี่ไม่ต้องกลัว ใครรังแกบอกพี่ได้มั้ยครับ" ขุนเขากอดตอบคนตัวเล็กทันทีลูบศรีษะเล็กอย่างทะนุถนอม พูดปลอบโยนพรางถามเธอด้วยใจแกร่งที่ปวดหนึบไปหมดทั้งใจ เพราะสุดท้ายสิ่งที่เขาคิดเป็นความจริงโดยที่เธอไม่ต้องบอกหรือธิบายเลยซักคำ เขารับรู้ได้จากเสียงสะอื้นร้องไห้และอาการหวั่นกลัวของคนตัวเล็กที่เป็นอยู่ตอนนี้ เขารักและทะนุถนอมเธอมาตลอด รู้สึกโมโหและโกรธคนที่มาทำร้ายดวงใจของเขาเป็นอย่างมาก ถึงจะรับรู้ว่าร่างกายของเธอโดนรังแก จะมากน้อยแค่ไหนเขาก็ไม่สนใจหรือนึกรังเกียจเธอเลยแม้แต่นิดเดียว เขาสนแค่ว่าใครทำร้ายคนที่เขารัก ใครที่ทำให้เธอต้องเสียใจและหวั่นกลัวอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้
"ฮือ~ อึก ฮึ่ พะ พี่หมอหนูนิดอยากกลับบ้านค่ะ ฮือ~ พี่หมอพาหนูนิดกลับบ้านได้มั้ยคะ ฮึ่" หนูนิดผละกอดออกเงยหน้าขึ้นพูดกับคนตัวโตทั้งน้ำตาและเสียงสะอื้นร้องไห้
ยิ่งเห็นแบบนั้นใจแกร่งของขุนเขายิ่งปวดหนึบไปหมด เขายกมือหนาสองข้างขึ้นมากุมแก้มนุ่มเอาไว้ คนตัวเล็กสะดุ้งทันทีกับสัมผัสของเขา เธอมองเขาดวงตาสั่นระริก
"ไม่ต้องกลัวพี่นะ พี่ไม่ทำอะไรหนูนิดครับ ไม่ต้องกลัวนะ" พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนพรางเช็ดน้ำตาให้คนตัวเล็กอย่างรักใคร่ทะนุถนอม เขาไม่รู้ว่าเธอเจออะไรมาบ้างถึงได้หวั่นกลัวกับสัมผัสของเขาแบบนี้
หนูนิดพยักหน้าเบาๆยอมให้คนตัวโตเช็ดน้ำตาให้แต่โดยดี เธอมองผู้ชายตรงหน้าอย่างรู้สึกอบอุ่นและอุ่นใจรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่ใกล้เขา เสียงสะอื้นค่อยๆหายไปเพราะคำพูดอ่อนโยนและสัมผัสอบอุ่นจากเขา
"เก่งมากครับคนดี ไม่ต้องร้องไห้แล้วนะ...งั้นเรากลับบ้านกันนะครับ" พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ผละมือหนาของตัวเองออกจากใบหน้าสวยหวาน แล้วเอ่ยชวนเธอกลับบ้านในประโยคหลัง