"พวกคุณเป็นใคร"
ยังไม่ทันที่สองสาวจะเดินถึงหน้าประตูบ้าน กลุ่มผู้ชายที่มีกันห้าคนก็พากันพังประตูเข้ามาสะก่อน ไอลินรีบอุ้มน้องสาวขึ้นมาแนบอกเอาไว้เพราะกลัวอันตรายที่จะเกิดขึ้นโดยไม่คิดถึงตัวเองที่เป็นเพียงแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ
"ไสหัวออกไปจากที่นี้ซะ"
ชายคนหนึ่งพูดขึ้นพร้อมกับส่งสัญญาณให้ที่เหลือเดินเข้าไปด้านในบ้านของไอลินเพื่อสำรวจดูทรัพย์สินที่พ่อแม่ของไอลินเอามาจำนองในวงพนันว่ายังอยู่ครบไหมตามคำสั่งของหัวหน้าเขาอีกที
"นี้มันเรื่องอะไรกัน"
ไอลินกอดน้องสาวของเธอเอาไว้แน่น มันกำลังเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของเธอกับน้องอีกแค่พ่อกับแม่จากไปอย่างกะทันหันมันก็แย่มากพอแล้วนี่ยังจะมีคนใจร้ายเข้ามาถึงในบ้านโดยไม่พูดอะไรสักคำนอกจากไล่เธอกับน้องออกจากบ้านของตัวเอง
"จะบอกให้เอาบุญแล้วกัน พ่อกับแม่เธอติดหนี้การพนัน และสุดท้ายก่อนที่สองคนนั้นจะตายดันเอาทั้งบ้านทั้งร้านอาหารกิ๊กก๊อกมาจำนองไว้"
มีผีพนันคนเอเชียไม่กี่คนที่เข้าออกที่บ่อนทำให้พวกเขาจำพ่อกับแม่ของไอลินได้ดี และขึ้นใจเพราะสองคนนั้นเล่นพนันแบบทุ้มไม่อั้นจนลืมนึกถึงตัวเอง
"ไม่จริง พ่อกับแม่ไม่มีทางทำแบบนั้น"
พ่อกับแม่ของเธอไม่มีทางยุ่งเกี่ยวกับการพนันเป็นอันขาด สิ่งที่คนพวกนี้พูดไม่เป็นความจริง
"เอาหลักฐานมาให้นางนี้มันดูซะจะได้ตาสว่าง เลิกคิดว่าผีพนันเป็นเทวดาสักที"
ร่างใหญ่ในชุดสีดำหันไปเรียกผู้ชายร่างใหญ่อีกคนที่ยืนรออยู่ที่รถให้หยิบอะไรบางอย่างมาให้
"ไม่จริง"
ไอลินรับเอกสารการจำนองบ้านกับร้านอาหารสมบัติของพ่อกับแม่เธอมาดู และมันก็เป็นจริงดั่งที่คนพวกนั้นว่า แล้ววันนี้ก็เป็นวันหมดสัญญาบ้านของเธอกับร้านอาหารกำลังจะถูกยึด และเธอเองคงไม่มีปัญญาเอามันกลับคืนมาได้
"อย่ามาว่าพ่อกับแม่นะไอ้คนใจร้าย"
ญาลินพอจะเข้าใจได้บ้างว่าคนพวกนี้กำลังว่าพ่อของเธอ เสียงเล็กก็ต่อว่าชายร่างใหญ่อย่างไม่คิดจะกลัวอะไร
"แต่ก็ยังโชคดี ที่ไม่ได้เอาลูกสาวอย่างเธอมาจำนองเอาไว้ด้วย"
มันน่าเสียดาย วันนั้นเขาน่าจะยุให้สองคนผัวเมียที่กำลังหมดตัวให้ขายลูกสาวกินซะ เขาจะได้พานางผู้หญิงคนนี้กลับไปทำเมียเพราะนางคนนี้ก็สวยถูกใจเขาใช่เล่น
"เอามือสกปรกของแกออกไป"
"อย่ามาถูกตัวพี่ไอนะ"
ญาลินรีบปัดมือของชายแปลกหน้าที่เข้ามาแตะแก้มพี่สาวของเธอออก พี่ไอของเธอห้ามใครหน้าไหนเข้ามายุ่งเด็ดขาดโดนเฉพาะคนใจร้าย
"ลูกพี่ครับ ทุกอย่างในบ้านยังอยู่ครบ"
ลูกน้องที่ถูกสั่งให้เข้าไปสำรวจข้าวของภายในบ้านต่างพากันเดินออกมารายงานหัวหน้า
"เก็บเสื้อผ้าแล้วออกไปซะภายในวันนี้ อ่อแล้วอย่าคิดหยิบอะไรออกไปแม้แต่ชิ้นเดียว ไม่งั้นมือเธอขาดแน่"
กลุ่มชายตัวใหญ่ที่นำพาเรื่องราวร้ายมาให้ไอลินกับน้องสาวของเธอพากันเดินกลับออกไปพร้อมคำขู่ที่คนพวกนี้จะทำจริงถ้าไอลินคิดจะขโมยของบ้านตัวเองออกไปขาย
"พี่ไอ ไม่ร้องไห้นะ"
เด็กสาวหันมองหน้าพี่สาวที่กำลังร้องไห้ ไม่รู้ว่าทำไมคนพวกนั้นถึงไล่เธอกับพี่สาวออกจากบ้านที่พ่อกับแม่เพิ่งจะพาพวกเธอย้ายมาอยู่เมื่อไม่กี่เดือนมานี้เอง
"พี่จะไม่ร้องแล้ว ไม่ร้องอีกแล้ว"
ไอลินอุ้มน้องสาวของเธอเดินเข้าห้องเพื่อเก็บของ ตอนนี้เธอไม่รู้จะทำยังไงต่อไป ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนเพราะพ่อกับแม่เธอเป็นแค่คนต่างบ้านต่างเมืองที่มาเปิดร้านอาหารอยู่ที่อังกฤษเพื่อสร้างครอบครัว รู้แต่เพียงต้องรีบพาญาลินออกไปก่อนที่คนพวกนั้นจะมาแล้วทำร้ายเธอกับน้อง
"พี่ไอ มีเงินไหม"
สาวน้อยสะพายกระเป๋าตุ๊กตาน่ารักที่ใส่เสื้อผ้าของเธอเอาไว้วิ่งเข้ามาหาพี่สาวที่ยืนกดเงินหน้าตู้เอทีเอ็มอยู่นานจนเธอนั่งรอไม่ไหวต้องเดินมาหา
"เมื่อวานยอดเงินในบัตรยังมีอยู่เลย"
บัตรกดเงินที่เป็นของพ่อเธอมันไม่มียอดเงินอะไรหลงเหลืออยู่เลยทั้งที่เมื่อวานเธอยังกดเงินออกมาใช้จ่ายอยู่เลย
"เอาของหนูญากดไหม"
"ของหนูญาเป็นบัตรของเล่น ไม่มีเงินหรอกนะ สงสัยตู้นี้อาจจะเสีย เดี๋ยวเราเดินกันอีกนิดแล้วไปกดตู้ข้างหน้านะ"
"เดินอีกแล้ว หนูญาเมื่อยขา หิวด้วย"
ญาลินยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่ตอนเที่ยงจนตอนนี้ฟ้าจะมืดแล้วพี่ไอก็ยังไม่พาเธอไปหาอะไรกินสักที
"คนเก่ง อดทนอีกนิดนะ"
ไอลินย่อตัวลงอุ้มเด็กสาววัยห้าขวบขึ้นมาทั้งทีตัวเองก็ต้องแบกกระเป๋าที่ใส่เสื้อผ้าเอาไว้อย่างหนักบนหลังแต่เพื่อแก้ปัญหาถึงแม้จะเดินแทบไม่ไหวเธอก็จะอุ้มน้องเอาไว้
"ทำไมเราต้องเดินด้วย ขึ้นรถไม่ได้เหรอ หนูญาตัวโตแล้วพี่ไอจะอุ้มหนูญาไหวเหรอ"
เด็กสาวเฝ้าถามพี่สาวมาตลอดทางแต่ก็ได้รับแต่รอยยิ้มกลับมา จนเธอต้องยิ้มตอบให้พี่สาวโดยไม่รู้ว่าทำไมพี่สาวถึงไม่ยอมพูดอะไร
"หนูญาต่อไปเราต้องลำบากนะ หนูญาต้องอดทนและเข้มแข็งไม่ดื้อกับพี่ไอนะรู้ไหม"
ไอลินอดทนกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลมาตลอดทางที่เธออุ้มญาลินมาจนถึงทางเข้าสถานีรถไฟ เธอวางเด็กสาวลงกับพื้นและพยายามจะสอนให้น้องต้องอดทนกับสิ่งที่กำลังจะต้องเจอให้มากที่สุดถึงรู้ว่าสำหรับเด็กห้าขวบการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วแบบนี้คงเป็นเรื่องยากสำหรับเด็กน้อย
"หนูญาจะไม่ดื้อ สัญญาค่ะ"
"หิวมากไหม"
"มากค่ะ มากที่สุด"
"กินขนมปังนะ เดี๋ยวพี่ไปซื้อให้"
เธอคงหวังเงินจากบัตรที่พ่อให้ไว้ใช้ไม่ได้แล้วเพราะเงินเหล่านั้นคงถูกพวกคนที่ยึดบ้านของเธอเอาไปหมดแล้ว คงต้องเอาเงินที่มีติดตัวมาน้อยนิดมาใช้ไปก่อนและค่อยคิดว่าจะหาทางแก้ไขยังไงต่อไป
"ค่ะ"
ไอลินรีบเดินข้ามถนนไปซื้อขนมปังข้างทางที่ราคาถูกและแทบจะไม่มีใครในเมืองผู้ดีนี้ซื้อกิน ถึงจะไม่เคยกินแต่วันนี้ของเหล่านี้จะทำให้เธอกับน้องอิ่มท้องไปได้อีกหนึ่งมื้อแบบที่เงินจะยังเหลือพอกินไปถึงวันพรุ่งนี้
"กินได้ไหมหนูญา"
ไอลินพาน้องสาวเดินมานั่งกินที่สถานีรถไฟ ที่นี่มีทั้งห้องน้ำและที่นั่งที่น่าจะเอาไว้นอนได้ด้วยสำหรับคืนนี้
"กินได้ค่ะ"
มันไม่อร่อยเลย แต่เธอเห็นพี่สาวกินเธอก็กินไม่ดื้อตามที่สัญญาเอาไว้
"วันนี้เรานอนที่นี่กันนะ พรุ่งนี้พี่จะไปหางานทำแล้วเราค่อยไปหาที่พักกันใหม่"
เธออยากจะหาที่พักที่ดีกว่านี้ แต่ถ้าเอาเงินไปเช่าที่พักจนหมดเพียงแค่คืนเดียวพรุ่งนี้เธอกับน้องก็จะไม่มีกิน เธอยอมนอนอย่างลำบากดีกว่าให้น้องหิว
"เราจะไม่ได้กลับบ้านแล้วใช่ไหม"
"ไม่ร้องนะ พี่ไออยู่นี้ทั้งคน"
เด็กสาวที่เป็นทั้งแรงใจและกำลังใจของเธอกำลังน้ำตานองหน้า ญาลินช่างน่าสงสารเหลือเกินที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้ ทำไมถึงไม่เป็นเธอแค่คนเดียวที่ต้องเผชิญ
"หนูญาคิดถึงน้องตุ๊กตา"
เธอพยายามขอร้องให้ไอลินเอาตุ๊กตาตัวโปรดของเธอมาด้วยแต่มันตัวใหญ่เกินไปจนพี่สาวของเธอไม่ยอมให้มันมาด้วย
"เดี๋ยวพี่ซื้อให้ใหม่นะ ไม่ร้องนะ"
สองคนพี่น้องนั่งกอดกันแน่น ไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้มีหนทางที่ดีกว่านี้ จะหาที่นอนที่ไหนให้อบอุ่นกว่านี้ จะหาที่กินที่ไหนให้อร่อยกว่านี้ทุกอย่างดูมืดแปดด้านไปหมดเพราะเธอมีกันแค่สองคนไม่รู้จะหันหน้าไปผึ้งใคร
"สัญญาแล้วนะ"
"สัญญาจ้ะ"
ไอลินนั่งกอดน้องสาวของเธอจนร่างเล็กที่บ่นหนาวตลอดเวลาจนหลับไป ส่วนเธอเองยังคงนั่งมองแสงไฟในสถานีรถไฟแห่งนี้อย่างจนปัญญากับเหตุการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่ ลำพังถ้าเธอตัวคนเดียวคงไม่ต้องห่วงหรือกังวลอะไรมาแต่นี้มีญาลินด้วยมันทำให้เธอต้องคิดอะไรหลายอย่างเพื่อให้น้องสบาย
"พี่จะสู้เพื่อหนูญานะ"
เธอต้องเดินหน้าต่อไปเพื่อน้องสาวตัวเล็กที่ยังไม่รู้เรื่องอะไร ต้องมีชีวิตอยู่ให้ได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหรือไม่ว่าจะมีเรื่องราวร้ายๆ อะไรผุดขึ้นมาอีก