ผ่านช่วงเวลาวาบหวามมาหลายชั่วยามแล้ว แต่ภาพนั้นยังคงอยู่ในความทรงจำของเจียงซูหลัน มิอาจลืมเลือนได้ง่ายๆ โดยเฉพาะใบหน้าคมคายของหานไป่จิ้งในขณะที่แหงนเงยขึ้นเพื่อปลดปล่อยออกจากห้วงอารมณ์หวามไหว ทุกท่วงท่าทุกการกระทำของเขายังคงสร้างความหวั่นไหวในหัวใจนาง กระทั่งสองแก้มร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ “ฮูหยิน ไม่สบายหรือเจ้าคะ” เพราะรู้ว่าช่วงบ่ายของเมื่อวานมีสิ่งใดเกิดขึ้น เสี่ยวถงจึงอดห่วงใยไม่ได้ แต่ถึงกระนั้นท่าทางก็ยังแฝงความเคอะเขินอยู่ดี “นายท่าน...รังแกฮูหยินมากหรือไม่เจ้าคะ” คำถามของเสี่ยวถงทำให้เจียงซูหลันต้องคว้าน้ำชาอุ่นร้อนเบื้องหน้ามาจิบ รู้สึกคอโล่งขึ้นจึงบอกด้วยแววตานิ่งสงบ “ระหว่างข้ากับนายท่าน ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นทั้งนั้น” “ไม่มี หรือเจ้าคะ” “ไม่มี” นางยืนกรานเสียงแข็ง ทั้งๆ ที่ความรู้สึกในขณะถูกปลายนิ้วของคนผู้นั้นล่วงล้ำยังคงแจ่มชัดนัก “ก็แค่...ก็แค่...” เจียงซูหลันไม