พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ
"ต้นนี้หมดแล้วครับคุณนารี"เสียงเข้มของคนงานตัดทุเรียนดังขึ้นมาจากบนต้นทุเรียน นารีเงยหน้ามองพลางใช้หลังมือปาดเหงื่อตามกรอบหน้าสวยก่อนจะวางกระสอบสีน้ำตาลเข้มลงกับพื้น
วันนี้เธอตื่นแต่เช้าตรู่และไม่รอช้ารีบต่อสายให้คนงานกรีดยางมาช่วยตัดทุเรียนโดยมีเธออาสาเป็นคนยืนรับลูกทุเรียนอยู่ใต้โคนต้น ทุเรียนจำนวนหลายร้อยลูกถูกวางเรียงรายรอให้พ่อค้ามารับ
ขโมยแถวนี้ยิ่งชุมยามฤดูผลไม้คนไร้ที่พึ่งพาเสาะแสวงหาลักขโมยเล็กขโมยน้อยตามบ้านเรือนเพื่อนำเอาไปขาย ซึ่งช่วงนี้ทุเรียนราคาโลละเป็นร้อยย่อมเป็นที่หมายปองของพวกหัวขโมยธรรมดา นารีจึงใช้เวลาว่างโทรเรียกคนงานของตัวเองให้มาช่วยเพื่อจะได้เสร็จไว ๆ
"ฉันฝากพวกนายจัดการทางนี้ต่อด้วยนะ"
"ได้ครับคุณนารี"เหล่าคนงานต่างพากันแยกย้ายไปทำตามหน้าที่ ส่วนนารีก็พาร่างอันเหนื่อยหอบเดินกลับมาที่บ้าน
หญิงสาวสวมชุดเสื้อและกางเกงขายาวแปลงร่างเป็นชาวสวนเดินกลับมาถึงบ้านไม้ ก็เห็นร่างสูงใหญ่ของอัคคีและเมฆากำลังยืนอยู่ตรงบันไดไร้เงาของต้นอ้อเพื่อนรัก
"อรุณสวัสดิ์ครับคุณนารี"
"อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณอัคคี ตื่นกันนานแล้วเหรอคะ"
"พึ่งตื่นครับ แล้วนี่คุณนารีหายไปไหนมาล่ะครับ"หญิงสาวถอดรองเท้าบูตคู่เล็กวางลงข้างบันได เธอเงยหน้ามองพลางส่งยิ้มหวานให้กับทั้งสอง
"นารีไปช่วยคนงานตัดทุเรียนในสวนมาค่ะ"สองหนุ่มตาลุกวาวเมื่อได้ยินคำตอบของหญิงสาว
"คุณปีนขึ้นไปบนต้นเองเลยเหรอ"เมฆาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเบาหวิว เขารู้สึกทึ่งกับความสามารถเกินกว่าที่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างเธอจะทำได้
"เปล่าค่ะ นารีแค่รอรับลูกอยู่ใต้โคนต้น ว่าแต่คุณสองคนหิวกันแล้วหรือยังคะ"
"ยังครับ ปกติแล้วพวกเราสองคนไม่ค่อยทานอาหารเช้า"
"แต่อาหารเช้ามีประโยชน์ต่อร่างกายนะคะ ว่าแต่ยัยต้นอ้อไปไหนเสียล่ะคะหรือว่ายังไม่ตื่น"
"ครับ ยังนอนหลับอยู่บนห้อง"นารีพยักหน้ารับรู้ก่อนที่เธอจะขอตัวขึ้นไปบนบ้าน
"เป็นไงบ้าง เมื่อคืนได้คุยกันบ้างยัง"อัคคีมองแผ่นหลังเล็กของนารีเดินหายขึ้นไปบนบ้านก่อนจะหันมามองหน้าพี่ชายของตัวเองซึ่งยังคงมองตามแผ่นหลังเล็กของหญิงสาว
"หึ"
"ถ้าไม่จริงใจก็หยุด ไม่อยากให้ต้นอ้อต้องคิดมาก"อัคคีรีบห้ามปรามเพราะเขารู้นิสัยของพี่ชายดีที่สุด
เลว เลวมาก เลวระยำ
สามคำนี้เขาขอมอบให้กับเมฆาผู้ชายที่มีใบหน้าหล่อเหลาเป็นที่ดึงดูดให้ผู้หญิงวิ่งเข้ามาหา
"ก็ต้องดูกันไปก่อน ไม่แน่เธออาจจะเป็นตัวจริงก็ได้"
"หึ สาธุ"
"นารี พอจะมีที่เที่ยวแนะนำไหม"ต้นอ้อถามขึ้นหลังจากทั้งสี่รับประทานอาหารเช้าเสร็จ
"มีสิ แต่ฉันไม่มีเวลาว่างไปเที่ยวด้วยหรอกนะ"
"ทำไมล่ะ"
"ฉันต้องคุมคนงาน อีกเดี๋ยวพ่อค้าก็จะมารับทุเรียนแล้ว แกพาคุณทั้งสองเขาไปเที่ยวเถอะ"คำตอบของนารีทำเอาต้นอ้อหน้างอเพราะเธออยากจะพาเพื่อนคนสวยออกไปเที่ยวด้วย
"แกไปกับพวกเราด้วยไม่ได้เหรอ"
"ต้นอ้อครับ ไม่เอาสิไม่งอแง คุณนารีเธอต้องทำงาน"
"แต่ว่า"ริมฝีปากสีสวยที่กำลังจะอ้าจำเป็นต้องหุบลงเมื่อเห็นแววตาและสีหน้าลำบากใจของเพื่อน
"ขอโทษนะที่เอาแต่ใจ"
"ไม่เป็นไรเลย"นารีเข้าใจในความรู้สึกของต้นอ้อเป็นอย่างดีก่อนที่ทั้งสองจะเปลี่ยนเรื่องคุย นารีบอกสถานที่เที่ยวให้กับต้นอ้อซึ่งดูเหมือนว่าเพื่อนรักของเธอจะสนใจเป็นพิเศษ
"น้ำใสน่าเล่นมาก อัคคีคะ เราไปเที่ยวที่นี่กันดีกว่านะคะ"ต้นอ้อเอ่ยชวนว่าที่สามีด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นพลางยื่นรูปถ่ายบนหน้าจอโทรศัพท์ไปให้ชายคนรักได้ดู
"นะคะที่รัก อ้ออยากไปเที่ยว"
"ตามใจที่รักเลยครับ"
"ที่รักของอ้อน่ารักที่สุดเลยค่ะ จุ๊บ"นารียิ้มให้กับความน่ารักของคู่รัก เธอปล่อยให้ทั้งสามได้พูดคุยกันส่วนเธอนั้นขอตัวเก็บจานอาหารกลับเข้ามาไว้ในครัว
กึก
สองเท้าของนารีที่กำลังก้าวออกมาจากครัวหยุดชะงักเมื่อเห็นว่าใครกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ใกล้กับบันได หัวใจดวงน้อยเต้นสั่นไม่เป็นจังหวะท้องร้อนรู้สึกวูบวาบเมื่อเห็นว่าเมฆากำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้และเขาสวมใส่แค่เพียงกางเกงขาสั้นแนบลำกายแค่เพียงตัวเดียว
อึก
นารีกลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบาก เธอพยายามไม่จ้องมองไปยังจุดกลางลำกายนั้นแม้ว่ามันจะเด่นสะดุดตาของเธอก็ตาม
"คุณเมฆาไม่ได้ไปกับต้นอ้อและคุณอัคคีเหรอคะ"เธอข่มใจเดินเข้าไปหาชายหนุ่ม เมื่อครู่เธอได้ยินเสียงรถยนต์ขับออกไปคิดว่าเขาจะตามทั้งสองไปด้วยกันเสียอีก
"เปล่าครับ พอดีผมขี้เกียจไปเป็นข้างขวางคอ"นารีพยักหน้า เมฆามองหน้าสวยด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ เขาหยัดกายลุกขึ้นยืนยิ่งทำให้กางเกงตัวบางแนบไปกับท่อนขาใหญ่ ลำกายยาวเด่นชัดจนทำให้นารีต้องรีบก้มหน้าเนื้อตัวสั่นเทาเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มก้าวขาเดินเข้ามาใกล้เธออย่างเชื่องช้า
"ร้อนเหรอครับ เหงื่อออกเยอะเชียว"น้ำเสียงแหบพร่าดังขึ้นใกล้กับใบหูขาวทำเอานารีสะดุ้ง ลมหายใจตกกระทบใบหน้าทำให้เธอเงยหน้ามองเขาอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ
"นะ..นารีขอตัวเข้าไปในสวนก่อนนะคะ"
"เดี๋ยวสิครับ"ร่างเล็กของนารีสั่นเข้าไปใหญ่เมื่อฝ่ามือใหญ่ของเขาคว้าข้อมือเล็กของเธอเอาไว้ ลมหายใจของเธอติดขัดเมื่อปลายนิ้วเรียวยาวของเธอนั้นดันไปสัมผัสเข้ากับซิกแพคบนหน้าท้องของเขา
เมฆานึกสนุกเมื่อเห็นร่างของนารีสั่นเป็นเจ้าเข้า เขามองเธอด้วยแววตาเจ้าเล่ห์พลางบังคับให้ฝ่ามือของเธอนั้นสัมผัสบริเวณหน้าท้องซึ่งอัดแน่นไปด้วยมัดกล้าม ซิกแพคเรียงตัวสวยงาม
"คะ...คุณเมฆา"
"ว่าไงครับ"
"ปะ...ปล่อยมือของนารีก่อนจะได้ไหมคะ"
"ทำไมล่ะครับ คุณไม่ชอบเหรอ"เขายังคงไม่หยุดบังคับมือเธอ เขาคงสนุกกับการที่ได้แกล้งเธอแบบนี้สินะ
พรึ่บ
"อะ...อ๊าส์"ฝ่ามือเล็กอาจหาญสัมผัสเข้ากับท่อนลำกายซึ่งเริ่มขยายใหญ่ตามอารมณ์ของเมฆา นารีหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้าเธอมองหน้าชายหนุ่มด้วยแววตาที่ท้าทายพลางขยับฝ่ามือถูกไถไปกับลำกายใหญ่ของเขา
"อย่าพึ่งรีบสิคะ มันยังไม่ถึงเวลาของเราสองคน"เธอขยับกายเบียดเข้าไปหาร่างใหญ่ ท่อนแขนแกร่งไปด้วยมัดกล้ามโอบร่างของเธอเอาไว้ให้แนบชิดไปกับร่างกายสูงใหญ่ของเขา
"ซี๊ด และเมื่อไหร่ล่ะครับ"
"ยังบอกไม่ได้ค่ะ แต่ถ้าอยากกินของอร่อยต้องอดใจรอสักหน่อยนะคะ"
"อย่านานนักนะครับ ผมกลัวว่าจะอดใจไม่ไหว"แววตาของเขาดั่งเสือร้ายจ้องตะครุบเหยื่อตรงหน้าโดยที่เมฆาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า นารีนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับสิงห์ร้าย เพราะถ้าเธอไม่เด็ดจริงคงไม่สามารถมัดใจอดีตสามีอย่างเข้มได้อยู่หมัด