ในคลับดังย่านกลางกรุง ท่ามกลางเสียงเพลงและแสงไฟในค่ำคืนนี้ มีผู้คนมากมายโยกย้ายส่ายเอวไปกับจังหวะมันส์ๆ ของเพลง ทุกคนรอบกายต่างสนุกสนาน และปลดปล่อยกันอย่างสนุกสุดเหวี่ยง จะมีก็เพียงสาวสวยใบหน้าจิ้มลิ้มคนเดียวเท่านั้นที่เอาแต่จมกองทุกข์และคราบน้ำตา
“อัญชัน พอแล้ว” ปลาบปลื้มแย่งแก้วแอลกอฮอล์จากมือเล็กมายกกระดกดื่มแทนจนหมดแก้ว
“พี่คะ เอามาอีกแก้ว”
“ไม่เอาครับ ถ้าเอามาเสิร์ฟอีกผมต่อยหน้าพี่จริงๆ ด้วย” ปลาบปลื้มหันไปบอกพนักงานที่กำลังจะเอาแก้วแอลกอฮอล์มาเสิร์ฟ แต่ก็ต้องชะงักแล้วหมุนตัวกลับทันทีเมื่อปลาบปลื้มเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงดุดัน “แม่งเสิร์ฟไม่ดูสภาพแขกเลย มึงจะรีบทำยอดไปไหน?” จากนั้นก็หันมาสนใจอัญชัน ปลาบปลื้มมองเธอด้วยสายตาที่ไม่เข้าใจเธอ ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นมันมีดีอะไรนักหนา ถึงได้เมาเป็นหมาได้ขนาดนี้
“อย่ามายุ่ง! แกไม่เคยรักใคร แกไม่เข้าใจฉันหรอก”
“ทำไมจะไม่เข้าใจ ฉันเข้าใจดีเลยแหละว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน แต่ก่อนจะรักใคร ควรรักตัวเองก่อนไหม อย่าทำอะไรโง่ๆ ขอร้อง ลุก!! ร้านจะปิดแล้ว”
“หึ่ย!! ออกไปห่างๆ เลย เพราะแกนั่นแหละไอ้ปลื้ม เพราะแกเลย ถ้าไม่มีแก พี่น่านก็คงรักฉัน แกมันชอบขัด เพราะแกขัดฉันไง แกขัดเพราะกันท่าให้พี่ปันใช่ไหม แกทำแบบนี้ทำไม เห็นฉันเป็นเพื่อนอยู่หรือเปล่า แกก็รู้ว่าฉันรักพี่น่าน” อัญชันร่ายยืดยาวออกมาด้วยความโมโห ใบหน้าสวยอาบเปื้อนไปด้วยน้ำตา
“ถ้าเขาจะรัก เขารักแกตั้งนานแล้วอัญชัน เจอเขาก่อนปันไม่ใช่หรอ ถ้ามันจะรัก มันรักเธอไปนานแล้ว!!” ปลาบปลื้มย้ำให้เธอได้ตาสว่างเสียที
ฟุ่บ!
“แล้วนั่นจะไปไหน?”
“อย่ามายุ่ง ไปให้พ้น!” อัญชันผลักร่างของปลาบปลื้มให้หลีกทาง แล้วเดินออกนอกร้านไป
แล้วไม่รู้ว่าเมาจริงหรือเปล่าแต่หันมาอีกทีอัญชันก็หายไปแล้ว เห็นแต่หลังไวไวเดินขึ้นรถแล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว เขาจึงนั่งแท็กซี่ตามไป เพราะตั้งแต่แรกก่อนที่จะอยู่ในคลับ อัญชันขับรถมาคนเดียว ส่วนเขาก็นั่งแท็กซี่มาเพราะคิดว่าเธอต้องเมา และต้องเอาเธอกลับ ถ้าขืนเอารถมามันจะยุ่งยากเอา
สุดท้ายตอนนี้เธอก็ขับรถออกไปไหนแล้วก็ไม่รู้ รู้ตัวอีกทีก็มาถึงคอนโดของปันปันแล้ว ไม่ต้องถามก็รู้ว่าว่าอัญชันมาที่นี่ทำไม เพราะปันปันกับน่านฟ้าอยู่คอนโดเดียวกัน และแน่นอนอัญชันต้องคิดที่จะบุกไปหาน่านฟ้าแน่ๆ
สองเท้าหนักๆ รีบสาวเท้าวิ่งเข้าไปในลิฟต์ พร้อมกับกดไปที่ชั้นบนสุด แต่พอออกมา หัวใจก็แทบสลาย เมื่อเห็นหญิงสาวที่ตนแอบรักมาตลอด กำลังจะปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตัวเองออก
“อัญชัน!!” เสียงปลาบปลื้มดังออกมาจากลิฟต์ พร้อมกับรีบวิ่งเข้าไปคว้าตัวอัญชันให้ออกมาจากน่านฟ้า แล้วกอดเธอเอาไว้แน่น
“เกิดอะไรขึ้นเนี้ย?” น่านฟ้าเอ่ยถาม พร้อมกับถอยห่างออกมาจากอัญชันเล็กน้อย เพราะตอนนี้ ดูจากสภาพของอัญชันก็คือดูแทบไม่ได้ เธอเมาจนไม่หลงเหลือสติอยู่เลย แถมยังเอาแต่โวยวายเสียงดังลั่นคอนโดอีก
แกร๊ก!!
แต่แล้วเสียงประตูห้องตรงข้ามก็ดังขึ้น นั่นทำให้ปลาบปลื้มรู้ได้ในทันทีว่าปันปันกำลังจะออกมาจากห้องแน่นอน จึงรีบผลักดันร่างของอัญชันเข้าไปในห้องของน่านฟ้าอย่างถือวิสาสะ
“เกิดอะไรขึ้นคะพี่น่าน เสียงดังโวยวายอะไร ใครเป็นอะไรคะ?” ปันปันที่ถามน่านฟ้าด้วยท่าทีตกใจ และแล้วเธอก็แอบเห็นหลังไวๆ ของน้องชาย “เอ๊ะ นั่น ปลื้มหรือเปล่า?” เสียงของปันปันยังคงดังขึ้นถามด้วยความสงสัย
ปลาบปลื้มพาเพื่อนสนิท เข้าไปนั่งในอ่างอาบน้ำ พร้อมกับเปิดน้ำฝักบัวราดไปที่ตัวของอัญชันหวังทำให้เธอสร่าง
“พี่น่าน พี่น่าน!” อัญชันตะโกนเรียกน่านฟ้าด้วยน้ำเสียงสั่น สะอึกสะอื้น กับความรักที่เป็นรักครั้งแรกของเธอ แต่ปลาบปลื้มก็รีบใช้ฝ่ามือใหญ่ปิดปากของเธอเอาไว้ เพราะกลัวว่าเสียงของเธอจะเล็ดลอดออกไปให้พี่สาวของเขาได้ยิน และนำมาซึ่งปัญหาครอบครัวของน่านฟ้าและปันปันอีก
แม้ว่าเขาจะเกลียดขี้หน้าน่านฟ้าแค่ไหน แต่ก็ไม่ได้อยากให้ทั้งคู่บาดหมางกัน แน่นอนเขารู้ว่าพี่สาวของเขาชอบพอกับไอ้น่านฟ้าแค่ไหน ไม่งั้นคงไม่พาไปกินข้าวที่บ้าน แนะนำให้พ่อแม่รู้จักหรอก
แต่ก็อย่างว่าแหละ แม้ว่ารักของทั้งคู่จะลงเอย เขาก็ยังไม่ชอบมันอยู่ดี เพราะอะไรน่ะหรอ เหตุผลเดียวคือคนตรงหน้ารักมันไง รักจนเป็นบ้า รักจนไม่ลืมหูลืมตาจนน่าหงุดหงิด
“อ่อย อะ ไอ้ อื้ม (ปล่อยนะไอ้ปลื้ม) ” อัญชันร้องประท้วงเสียงอู้อี้เพราะถูกมือใหญ่ของปลาบปลื้มปิดปากเธออยู่
ฉึก!
“โอ๊ย!!” ปลาบปลื้มร้องเสียงหลงเมื่อเธอกัดมือของเขาอย่างแรง เพื่อให้ปล่อยเธอ
แน่นอนว่าคนด้านนอกต้องรู้แน่ๆ ว่าเขาอยู่ในนี้ และไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้อัญชันเลิกพยศ ถ้าขืนพยศตอนนี้มีหวังความแตกแน่ๆ สุดท้ายปลาบปลื้มจริงคว้าหมับเข้าไปที่ใบหน้าของอัญชัน และป้อนจูบเพื่อปิดปากเธอ
“อื้ม!” อัญชันเบิกตากว้างด้วยความตกใจและได้ผลเธอนิ่งอึ้งไปกับการกระทำของปลาบปลื้มที่อุกอาจมาทำแบบนั้นกับเธอ จากนั้น ปลาบปลื้มก็รีบลุกขึ้นจากอ่างอาบน้ำ ทิ้งให้อัญชันสติหลุดลอยไปราวกับคนที่วิญญาณหลุดจากร่าง ส่วนเขาก็รีบออกไปที่ประตูห้องน้ำ พร้อมกับเนื้อตัวที่เปียกปอนด้วยรอยยิ้มแห้งๆ
“เอ้าปัน ยังไม่นอนอีกหรอ?” ปลาบปลื้มโผล่ตัวออกมาจากห้องน้ำครึ่งตัวด้วยสภาพที่เปียกปอนตั้งแต่หัวจรดเท้า ใบหน้าหล่อตี๋ยกยิ้มให้พี่สาว
“ปลื้มมาทำอะไรที่ห้องพี่น่านดึกดื่นป่านนี้?”
“เอ่อ คือ ปลื้มไปเที่ยวกับอัญชันมาน่ะ แล้วขับมอไซค์มาด้วย ฝนมันตก ปลื้มกลัวอัญชันจะไม่สบายเลยพามาอาบน้ำล้างตัวที่นี่ เอ้อ ไอ้น่าน ขอผ้าเช็ดตัวหน่อยดิ” ปลาบปลื้มโกหกออกไปคำโตและหันไปเรียกสติน่านฟ้า ที่ไม่รู้ว่ามันจะยืนเอ๋ออีกนานไหม
“แล้ว ทำไมไม่ไปห้องปัน?” ปันปันเลิกคิ้วถามอีกครั้ง พี่สาวของเขารู้ดีว่าแฟนหนุ่มกับเขานั้นไม่ถูกกัน เกลียดกันยิ่งกว่าขี้
“กะ ก็ ปลื้มเห็นว่ามันดึกแล้ว แล้วพรุ่งนี้ปันมีขึ้นเวรด้วยไง เลยไม่อยากรบกวน ปันไปพักเถอะ เดี๋ยวทางนี้ปลื้มจัดการเอง”
“ไม่มีอะไรให้ปันช่วยแน่นะ?”
“ไม่มี ไปพักเถอะดึกแล้ว มึงก็ไปดิ ไอ้น่าน มึงไปดิวะ!” ปรายประโยครีบหันไปส่งซิกให้น่านฟ้าพาปันปันไปนอน มือก็ดึงผ้าเช็ดตัวที่น่านฟ้าตาลีตาเหลือกไปหยิบมาให้
“เอ้อ จริงด้วย ปันไปนอนเถอะ ป้ะๆ งั้น มึงก็พักที่นี่ไปนะ ฝนหยุดแล้วค่อยกลับ” น่านฟ้าขยิบตาให้ปลาบปลื้มเชิงรู้กัน ก่อนจะเดินเข้าห้องปันปันไปแบบเนียนๆ
ปลาบปลื้มมองทั้งคู่จนแน่ใจว่าออกไปจากห้องแน่แล้ว จึงเดินเข้าไปหาอัญชันที่ยังคงสติเลื่อนลอย นั่งอยู่ในอ่างเนื้อตัวเปืยกปอนไปหมด
“เธอเกือบจะทำให้สองคนนั้นแตกหักกันเพราะเธอแล้วนะรู้ตัวไหม”
พรึ่บ!
“เช็ดตัวซะ!!” ปลาบปลื้มโยนผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ไปคลุมศีรษะอัญชัน แต่ก็ดูเหมือนว่าคนที่นั่งอยู่ในอ่างน้ำจะไม่ได้สติเลย
“อัญชัน รีบเช็ดตัว เดี๋ยวไม่สบาย” จากที่เสียงแข็งๆ เอาแต่ดุเธอเมื่อคู่ ก็ปรับเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนขึ้น พร้อมกับเดินไปนั่งลงที่ขอบอ่าง ดึงผ้าออกจากหัวของเธอออก หวังจะเช็ดผมให้
“อึก ฮือๆๆๆๆ” หัวใจแทบแตกสลายเมื่อเห็นคนที่ตัวเองแอบรัก ร้องไห้ราวกับจะขาดใจเสียตรงนี้ เนื้อตัวเปียกปอน สั่นเทาราวกับลูกนก ใบหน้าสวยก้มลงร้องไห้กอดเข่าของตัวเอง “ฮือๆๆๆ”
ใบหน้าหล่อจับจ้องมองคนตัวเล็กที่นั่งก้มหน้ากอดเข่าตัวเองร้องไห้ก็อดที่จะสงสารไม่ได้ เขาเข้าใจเธอดี ว่าหัวใจจะแตกสลายแค่ไหน จึงปล่อยให้เธอร้องไห้จนกว่าจะพอใจ ส่วนเขาก็ทำได้เพียงแค่นั่งลูบศีรษะของเธอเบาๆ อย่างปลอบประโลม ทั้งที่หัวใจของเขาก็แทบจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ไม่ต่างกัน