เก็บตัว

1210 คำ
“หิวข้าวไหม” ปลาบปลื้มเอ่ยถามร่างเล็กข้างๆ ที่เอาแต่เงียบมาตลอดทาง “...” “จะกลับบ้านหรือกลับคอนโด?” ปลาบปลื้มยังคงถามเธออีกครา แม้ว่าครั้งแรกเธอจะไม่ตอบก็ตาม “...” “เป็นใบ้หรอ แค่ตอบมามันจะตายไหม?” “ไม่หิว...” เธอพ่นหายใจออกมาแรงๆ หนึ่งครั้งก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “แล้วประโยคที่2ที่ถามล่ะ?” “คอนโด” “มันก็แค่นั้น...” ปลาบปลื้มตั้งหน้าตั้งตาขับรถของเธอไปที่คอนโดสุดหรูของอัญชันทันที แต่ก่อนจะถึงคอนโด เขาก็ได้แวะเข้าไปในร้านอาหารที่เธอและเขาเคยกินกันประจำ “ฉันบอกว่าไม่หิว ไม่เข้าใจหรอ” อัญชันพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ถ้าถามแล้วจะมา จะถามเธอเพื่อ!! “แต่ฉันหิว ที่ห้องเธอไม่มีอะไรกิน กลับไปหิวไส้ขาดแน่ๆ” “งั้นก็เข้าไปกินคนเดียว เดี๋ยวฉันรอในรถ” พูดจบก็กอดอกแล้วเอนหลังไปที่เบาะ พร้อมกับหลับตาข่มอารมณ์ของตัวเอง “ไม่ ไม่ชอบกินข้าวคนเดียว เข้าไปเป็นเพื่อนหน่อย ฉันสั่งอาหารไม่เป็น” ปลาบปลื้มกล่าวอย่างเอาแต่ใจ “โตมายังไง?” “กินข้าวดิถึงโต” “เห้อ...” อัญชันเบือนหน้าหนีเอือมระอากับความกวนที่เริ่มจะชินแล้ว ถ้าเป็นปกติก็คงเถียงไปแล้วล่ะ แต่วันนี้เธอไม่มีอารมณ์จะพูดหรือเถียงอะไรเขาทั้งนั้น “รับอะไรดีคะ” พนักงานเสิร์ฟเอ่ยถาม พร้อมกับยกสมุดขึ้นเตรียมจดเมนูอาหาร “เอาข้าวผัดกรรเชียงปูค่ะ แล้วก็...” “สั่งดิ ฉันกินง่ายๆ จำไม่ได้หรอ” ปลาบปลื้มบอกอัญชันให้เป็นคนสั่งให้ “ง่ายๆ นี่อะไร จะกินอะไรก็สั่งดิ ทำไมฉันต้องสั่งด้วย เป็นลูกฉันหรือไง” “ก็กะเพราไงสั่งให้หน่อย” “รับเป็นกะเพราอะไรดีคะ ไก่ หมู หรือรวม” เมื่อเห็นว่าเธอและปลาบปลื้มจะตีกัน เธอก็เป็นฝ่ายถามขึ้นเองด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส “ไก่ครับ เอ่อ...ขอเป็นส่วนอกไก่นะครับ” “กะเพราอกไก่นะคะ รับไข่ดาวไหมคะ” “อกไก่สับครับ ไม่ใส่หัวหอม ไม่ใส่ถั่ว ใส่แต่ใบกะเพรา” “ค่ะ ไข่ดาวด้วยนะคะ” “ไข่ดาวขอไข่ขาวกรอบๆ ส่วนไข่แดงไม่สุกนะครับ” ตอนแรกพนักงานก็ยิ้มแหละ พออาหารที่ปลาบปลื้มบอกว่ากินง่ายๆ เท่านั้นแหละ ตอนนี้ยิ้มเริ่มเจื่อนลงและ ใจก็คงอยากตอบไปว่า ไปทำแดกเองที่บ้านมึงนะ ถ้าจะเรื่องเยอะขนาดนี้ “เอ่อ...ได้ค่ะ” พนักงานเริ่มยิ้มแห้งและ “เครื่องดื่มรับเป็นอะไรดีคะ” “น้ำส้มครับ เป็นสายน้ำผึ้งคั้นสด กับชาพีชครับ” พอสั่งของที่ตัวเองชอบแล้วก็ไม่วายสั่งให้เธอด้วย “หึ กินง่าย ง่ายกับผีน่ะสิ” อัญชันบ่นอุบอิบเบาๆ และเพราะแบบนี้นี่แหละที่ทำให้เธอไม่อยากไปกินข้าวกับปลาบปลื้ม ก็เพราะเขาเป็นคนง่ายๆ แบบนี้นี่แหละ “พรุ่งนี้มีเรียนป้ะ” ให้หลังจากที่พนักงานเดินออกไป เขาก็เอ่ยถามขึ้น จริงๆ ก็แค่ชวนคุย ไม่ได้อยากรู้จริงๆ หรอก เพราะถึงยังไงเรื่องของเธอ เขาก็รู้ดีทั้งหมดอยู่แล้ว “ไม่รู้ ขี้เกียจดูตาราง” “อะไรวะ เรื่องของตัวเองแท้ๆ ไม่รู้ได้ไง” “แล้วนายมายุ่งอะไรกับฉันนัก ถ้าไม่มีอะไรจะพูดก็เงียบปากไปรำคาญ” “พรุ่งนี้เธอมีเรียนบ่าย เรียนเวลาเดียวกัน เดี๋ยวไปรับ” “ไม่ต้อง! จะมารับทำไม สุดท้ายก็เรียนคนละคณะ คนละตึก” “จะไปหาสาว...” “น้ำค้างหรอ?” “อืม” เขาตอบเสียงเรียบ น้ำค้างเป็นแค่ข้ออ้างที่จะไปส่งเธอ แต่ความจริงเขาไม่ได้ชอบน้ำค้างเลยสักนิด แล้วน้ำค้างก็รู้ด้วยว่าเขาไม่ได้ชอบเธอแต่ดันชอบอัญชัน “จะไปก็ไป” ในเมื่อห้ามไม่ฟังก็คงปล่อย ถึงยังไงนายนี่ก็ไม่เคยฟังใครอยู่แล้ว เหนื่อยที่จะพูด หลังจากทานอาหารเสร็จ ปลาบปลื้มก็ขับรถมาส่งเธอที่คอนโด และด้วยเพราะรถเป็นของเธอ เขาจึงใช้ข้ออ้างที่จะอยู่ด้วย “เดี๋ยวรอไอ้ป้องมารับนะ ไม่ได้เอารถมา” “แล้วทำไมไม่นั่งแท็กซี่กลับ?” เธอเอ่ยถามทั้งตอนมาก็มาแท็กซี่ แต่ตอนนี้กลับทำตัวชิวๆ เห็นแล้วรำคาญตา “ไอ้ป้องมันจะมาแถวนี้พอดี มันบอกจะมารับ นั่งแท็กซี่มันเปลืองตังไง” 2ชั่วโมงต่อมา... อัญชันเดินออกมาจากห้องนอนก็ยังคงเห็นปลาบปลื้มนั่งเล่นเกมส์อยู่บนโซฟาหน้าตาเฉย ก่อนจะถอนหายใจออกมายาวๆ แล้วเดินไปเปิดตู้เย็นเพื่อหาน้ำดื่ม “น้ำหมดหรอเนี้ย?” “ไอ้ปลื้ม แกกินน้ำของฉันหมดหรอ” “อะไรของเธอวะ มันไม่มีตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ผู้หญิงอะไร ไม่มีความพร้อมเลย ไม่คิดจะเติมของในตู้เลยหรือไง” “ปกติมี๊มาเติมให้ ก็เพราะแกคนเดียวนั่นแหละที่ชอบมาห้องฉัน ทีหลังถ้าแกเข้ามาในห้องฉันอีก ฉันจะเก็บตัง” “ทำไมเธอขี้งกจังวะ” “แล้วไหนบอกป้องจะมา ทำไมยังไม่มาอีก” “จะไปรู้กับมันหรอ” เขาไหวไหล่เบาๆ แล้วก้มหน้าก้มตาเล่นเกมส์ในมือถือต่อ ความจริงปกป้องไม่ได้จะมารับหรอก มันเป็นแผน เขาก็แค่ต้องการอยู่ใกล้ๆ เธอในวันที่เธออ่อนแอก็เท่านั้น กลัวว่าถ้าอยู่คนเดียวแล้วจะคิดทำเรื่องสิ้นคิดอีก “เออ...อาเอวาโทรหาเธอหรือเปล่า...” “ไม่” “อาเอวาโทรหาฉัน บอกให้พาเธอกลับไปกินข้าวที่บ้านด้วย ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ขออยู่ด้วยถึงเย็นเลยแล้วกัน” “ว่าไงนะ?” อัญชันขมวดคิ้วมุ่นด้วยความไม่เข้าใจ ก็ใช่ว่ารุ่นพ่อสนิทกัน แต่ก็ไม่ได้อยากสนิทกับนายนี่เสียหน่อย มีแต่นายนี่ที่ชอบยัดเยียดคำว่าเพื่อนมาให้เธอ ทั้งที่ไม่อยากจะเป็นเพื่อนเลยด้วยซ้ำ กะว่าจะอยู่คนเดียวเงียบๆ เพราะอยู่ในช่วงระยะทำใจ ก็ไม่ได้อยู่ หันมาทีไรก็เห็นว่าปลาบปลื้มยังลอยหน้าลอยตาอยู่ในห้อง ไม่ต้องเก็บตัวและ ไม่ต้องใช้เวลาอยู่กับตัวเองแล้วล่ะ เห้อ อย่างเซ็งเลย “อาเอวาบอกว่าวันนี้ให้เธอกลับบ้านไปกินข้าวที่บ้าน” “อืม เข้าใจ แต่ที่ไม่เข้าใจคือ...ทำไมแกต้องไปด้วย...นั่นมันบ้านฉัน” “ก็อาเอวาชวน” “บ้านแกไม่มีข้าวกินหรอปลื้ม ทำไมต้องคอยไปกินข้าวบ้านฉันด้วย ไม่เข้าใจ” “พ่อเข้าเวร แม่กลับบ้านไปหายายฝน ไม่มีคนอยู่บ้าน ไม่มีคนทำให้กิน เอาน่าขอกินด้วยหน่อย บ้านตั้งรวย ขอกินข้าวด้วยแค่นี้ขนหน้าแข้งไม่ร่วงมั้ง” เหอะ เชื่อเลยจริงๆ คนอะไร ยัดเยียดตัวเองให้คนอื่นเก่ง จะทำอะไร จะเอาอะไรก็จะเอาให้ได้ ทำอะไรตามอำเภอใจตัวเองไปซะหมด ก็ถาม ก็ขอแหละ แต่สุดท้ายก็จะทำตามที่ตัวเองอยากทำอยู่ดี แล้วมันจะถามเพื่อ!!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม