8
“คุณแต่งงานแล้วหรือ”
“ยังค่ะ” เป็นคำตอบที่เรียกความตกใจให้คนถามอีกรอบ หล่อนยังไม่แต่งงาน แล้วจะมีลูกได้อย่างไร แต่ยังไม่ทันที่โดมินิคจะถามอะไรต่อ เสียงอีวานดังขึ้นอีกครั้ง
“มัมครับ...” พูดจบ ร่างอีวานก็รูดลงไปนอนกับพื้นโรงแรม ท่ามกลางความตกใจของอมีเรียและโดมินิค คนที่ตกใจมากที่สุดคือคนเป็นแม่ที่รีบไปประคองร่างบุตรชาย
“อีวาน อีวานลูกแม่” อมีเรียทำอะไรไม่ถูก ได้แต่นั่งเขย่าตัวลูกชาย “นิก ช่วยลูกฉันด้วย ช่วยลูกของเราด้วย”
โดมินิคอ้าปากค้าง ม่านตาขยายกว้างอย่างตกใจกับคำพูดของอมีเรีย เขามองหน้าคนพูดนิ่ง นิ่งชนิดที่เรียกว่าตาแข็งค้าง สมองมีความมึนงงเข้าแทรก
“ลูกของเรา”
โดมินิคทวนคำเสียงเบา ขยับสายตาไปมองอีวานที่ตอนนี้หมดสติ
“ฉันจะอธิบายให้คุณฟังทีหลัง ตอนนี้พาอีวานไปโรงพยาบาลก่อนดีกว่าค่ะ ลูกไม่สบายมาก ต้องการพบแพทย์ด่วน”
โดมินิคไม่รอให้อมีเรียพูดซ้ำ เขาช้อนอุ้มร่างอีวานขึ้นมาแล้วเดินออกจากโรงแรมเพื่อขึ้นรถแท็กซี่ นำตัวลูกชายของตนไปโรงพยาบาลที่อมีเรียบอก
ณ โรงแรมเชอราตัน เพลส
บัณฑิตาใช้เวลาตลอดทั้งวันในการท่องเที่ยวสถานที่ต่างๆ ในกรุงลอนดอน การท่องเที่ยวต่างแดนครั้งนี้หล่อนมีความสุขมาก เสมือนได้หลุดมาอยู่ในโลกแห่งอิสระ ไม่ต้องถูกบังคับให้ทำในเรื่องที่ไม่ต้องการทำ และไม่รู้สึกเหนื่อยกับการเที่ยวด้วย หล่อนตื่นตาตื่นใจกับสถานที่ต่างๆ ที่เคยเห็นแต่ในภาพถ่านหรือในทีวี อินเตอร์เน็ต บางแห่งเห็นแล้วก็อดทึ่งไม่ได้
เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ความมืดโรยตัวแทนแสงตะวัน ทว่าบัณฑิตาก็ยังไม่อยากกลับโรงแรม หล่อนเดินเที่ยวในกรุงลอนดอน อยากเห็นแสงสียามค่ำคืนเพราะว่ากันว่า สวยกว่าตอนกลางวันมาก และก็เป็นจริง บัณฑิตาเก็บภาพความสวยงามไว้เป็นร้อยภาพ ตั้งใจว่าจะส่งให้ชเนตตีดูคือนี้ บัณฑิตาตกในเมื่อมองดูนาฬิกาข้อมือที่บอกเวลาสามทุ่มยี่สิบ ไม่คิดว่าตนจะเที่ยวจนลืมเวลา หล่อนจึงกลับที่พักด้วยการเดิน
บัณฑิตาหยุดยืนหน้าโรงแรมที่พัก ยกกล้องถ่ายรูปอาคารเก่าแกฝั่งตรงข้ามโรงแรม ที่ตอนนี้ประดับประดาด้วยแสงไฟหลากสี เป็นความสวยงามและเปี่ยมไปด้วยมนต์ขลัง ขณะที่กำลังเก็บภาพความสวยๆ ถูกใจอยู่นั้น รถยนต์คันหนึ่งแล่นมาจอดใกล้ๆ กับจุดที่บัณฑิตายืนอยู่ ประตูรถห้องโดยสารถูกเปิดออกด้วยมือของคนทำหน้าที่ขับรถ เจ้าของเรือนกายก้าวลงมายืนข้างตัวรถ
ลีโอนาร์ดมองด้านข้างของสตรีที่ยืนถ่ายรูปใกล้ๆ เป็นความใกล้ที่ห่างกันเพียงสามเมตร หัวใจลีโอนาร์ดเต้นแรงผิดจังหวะ เต้นตุ้บๆ แรงมาก เขาหายใจหายคอไม่ทั่วท้อง รู้สึกราวกับว่า โลกกำลังหยุดหมุน เวลากำลังหยุดเดิน เมื่อหญิงสาวคนนั้นหันกล้องมาทางตน และลดกล้องลงช้าๆ
สายตาสองคู่สบกันอย่างไม่มีการนัดหมาย บัณฑิตาอึ้งในความหล่อของชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ในชุดลำลอง ที่ข้างกายมีผู้ชายสองคนยืนอยู่ด้วย หล่อนรู้สึกใจสะท้านกับสายตาคู่นั้น มันร้อนแรงพิกล แล้วรู้สึกคุ้นหน้าเขา ราวกับว่าเคยเห็นที่ใดมาก่อน แต่ก็ชะงักกับความตกใจที่เคลือบอยู่บนใบหน้าเขา กำลังสงสัยว่า เขาตกใจทำไม บัณฑิตาไม่รู้สาเหตุนั้นแต่ก็ยิ้มให้อีกฝ่าย ก่อนเดินเข้าไปในโรงแรม
“เจ้านายครับ...เธอคนนั้น” เมสันก็อึ้งค้างไม่ต่างกับคนเป็นนาย ไม่คิดว่าจะได้พบเจกับผู้หญิงที่ลีโอนาร์ดตามหามานานแรมปีง่ายๆ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ลีโอนาร์ดทำทุกทางเพื่อให้ได้ข้อมูลว่า สาวปริศนาคนนั้นคือใคร มีทั้งเงินและอำนาจ แต่หาผู้หญิงคนเดียวไม่เจอ
เสียงพูดของเมสันเปรียบเสมือนดึงสติของเจ้านายหนุ่มให้กลับมาอยู่กับตัวเอง ลีโอนาร์ดรีบก้าวเดินตามร่างแน่งน้อยไปทันที
“ไปด้วยครับ”
เสียงลีโอนาร์ดดังขึ้นขณะประตูลิฟต์กำลังจะปิด คนอยู่ในลิฟต์ได้ยินเสียงจึงกดปุ่มให้ประตูลิฟต์เปิด ร่างสูงใหญ่ของคนพูดก้าวเข้ามาในลิฟต์พร้อมกับลูกน้องอีกสองคน บัณฑิตาส่งยิ้มบางให้ลีโอนาร์ดก่อนเอ่ยถาม
“ชั้นไหนคะ” ในขณะที่ถาม บัณฑิตารู้สึกคุ้นหน้าเขามากขึ้น แต่คิดไม่ออกว่าเจอที่ไหน
“ชั้นเดียวกับคุณครับ” ลีโอนาร์ดส่งยิ้มให้บัณฑิตา คนได้รับรอยยิ้มถึงกับใจเต้นแรง ใบหน้าเขาหล่ออยู่แล้ว ยามเกิดรอยยิ้มบนใบหน้า ยิ่งทำให้ความหล่อของเขาโดดเด่นขึ้น
เมื่อประตูลิฟต์ปิด บัณฑิตารู้สึกราวกับว่าตนเองถูกจับจ้อง ซึ่งเจ้าของสายตาที่ไม่ละห่างจากใบหน้าหล่อนก็คือ บุรุษหน้าตาดีที่ยืนไม่ห่างตนนั่นเอง เป็นครั้งแรกที่บัณฑิตาไม่รู้สึกขยะแขยงหรือไม่พอใจกับการถูกมอง ตรงกันข้ามหล่อนรู้สึกเขินอาย หัวใจเต้นแรงมาก จุดหมายคือชั้นสิบเจ็ด มันช่างยาวนานเหลือเกิน หล่อนอยากให้ถึงชั้นนั้นโดยเร็ว เพื่อจะได้นำตัวเองออกจากลิฟต์ตัวนี้ ก่อนที่หัวใจหล่อนจะกระดอนออกจากอก
และแล้วก็ถึงชั้นสิบเจ็ดเสียที...
บัณฑิตาก้าวฉับๆ ออกจากลิฟต์ทันทีที่ลิฟต์เปิดออก หล่อนก้าวเดินโดยไม่หันมามองด้านหลัง จึงไม่รู้ว่าลีโอนาร์ดเดินตามมา และก้าวเดินช้าๆ เพราะอยากรู้ว่า หล่อนพักห้องใด มุมปากเมื่อรู้ว่า หญิงสาวที่ตามหาพักอยู่ห้องใด
พักอยู่ห้องตรงข้ามกับห้องเขา...