๓๒
"คุณลุง" เด็กหญิงในชุดเอี๊ยมตัวเก๋โบกไม้โบกมือให้ลุงคนนั้นที่เธอเดินชนแต่ลุงคนนั้นไม่โกรธเธอเลยตามประสาเด็ก อัคนียิ้มกลับ ในตอนแรกหวังจะเดินเข้าไปหา ถ้าไม่ติดที่ว่านายแพทย์หนุ่มที่ตามมาทีหลังเดินทางมาถึงร้านไอศครีมเสียก่อน
"ขอโทษที่ผมมาช้านะน้ำ น้องนิครับอาเรศมาแล้ว" คนตัวเล็กหันขวับกลับมาหาอาหมอ ที่เป็นคนเอ่ยปากชวนเธอมาที่นี่ เป็นจังหวะเดียวกับที่อีกฝ่ายชะงักไปทันที
คิ้วหนาขมวดเข้าหากัน หากจำไม่ผิดคนที่เขาเคยพบเมื่อหลายปีก่อน ถึงขนาดมีการทำร้ายร่างกายกันเกิดขึ้นไม่ใช่ผู้ชายคนนี้
อัคนีเก็บความสงสัยเอาไว้เงียบๆ เขายอมหย่อนสะโพกลงนั่งบนเก้าอี้ที่ว่าง ทำทีเป็นสั่งไอศครีมภายในร้านแต่ประเด็นสำคัญคือการจ้องมองบุคคลที่อยู่ในโต๊ะนั้นไม่วางตา
"...เคสด่วนเรียบร้อยแล้วเหรอคะ"
"ระหว่างที่เดินทางไปโรงพยาบาล ผมต่อสายหาเพื่อนร่วมสายงานน่ะครับ ลองขอร้องดูว่าเขาสามารถเข้ามารับเคสด่วนนี้แทนได้หรือเปล่า ปรากฏว่าไม่มีปัญหา ผมเลยปลีกตัวออกมาได้ทันที"
"คุณหมอนเรศเป็นหมอ เคยผ่าตัดคนมาก่อนไหมคะ" ปุ้มปุ้ยถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น ส่งผลให้นายแพทย์หนุ่มยิ้มกว้างออกมา
"อยากให้หมอโชว์ฝีมือผ่าตัดให้เหรอปุ้มปุ้ย"
"อุ้ย มะ ไม่ค่ะ ปุ้ยแค่ถามเล่นๆ น่ะค่ะ" เจ้าของคำพูดยิ้มแห้ง เรียกรอยยิ้มจากคนที่เหมือนจะตกอยู่ในภวังค์ความคิดเมื่อสักครู่ให้หลุดออกมา
"น้องนิครับ ไหนบอกอาเรศสิครับว่าอยากกินไอศกรีมรสไหน"
"ชอบไอศกรีมรสช็อกโกแลตค่ะ"
"รสช็อกโกแลตนะ หลังจากที่ทานช็อกโกแลตกลับไปถึงบ้านเราต้องทำยังไงครับบอกอาก่อน"
"ต้องแปรงฟัน ฟันจะได้ไม่ผุ จะได้ไม่ปวดฟันด้วยค่ะ" เสียงสดใสตอบออกมาอย่างฉะฉาน เรียกรอยยิ้มอบอุ่นให้หลุดออกมาบนใบหน้าของนายแพทย์หนุ่มทันที คิดไปว่า หากในตอนนี้เพื่อนรักของเขายังมีชีวิตอยู่ คงมีความสุขกับการได้ดูได้เห็นการเจริญเติบโตของลูก เห็นความช่างพูดช่างคุยความขี้อ้อนที่เชื่อว่า หากใครพบเห็นก็คงต้องหลงรักอย่างแน่นอน
"เก่งมากเลยครับ เป็นเด็กดีของคุณแม่นะครับ แล้วอาเรศสัญญาว่า หากมีเวลาว่างจะไปหาน้องนิที่บ้านบ่อยๆ เลย"
"น้องนิจะเป็นเด็กดีของคุณแม่ค่ะ" ตอบเสียงดังพลางฉีกยิ้มอวดฟันขาวสะอาด รอยยิิ้มสดใสส่งผลให้คนอื่นๆ ยิ้มตาม
อัคนีทิ้งสายตาจับจ้องที่ใบหน้าสวยหวานเนิ่นนาน ไม่เคยมีวินาทีไหนที่เธอมองมาที่เขาเลยด้วยซ้ำ อัคนีใช้โทรศัพท์มือถือที่อยู่ในมือบันทึกภาพทุกคนที่นั่งบนโต๊ะชุดนั้น ในส่วนลึกของความรู้สึกสั่งเขาว่าไม่ควรปล่อยผ่าน ยังอยากรู้เรื่องของคนเคยคบกัน ทั้งที่เขาพยายามลืมเธอแทบตาย
"...คุณแม่ชิมช็อกโกแลตของน้องนิไหมคะ" คนตัวเล็กใช้ช้อนตักไอศกรีมพลางหันหาผู้เป็นแม่ ซึ่งผู้เป็นแม่เองก็ยอมอ้าปากรับไอศกรีมที่บุตรสาวตัวเล็กตั้งใจป้อนทันที
"น้องนิน่ารักจังเลยนะครับ หากนายภาสยังอยู่ หมอนั่นคงมีความสุขมาก"
"น้ำพยายาทำทุกวันร่วมกับลูกให้มีความสุขที่สุดค่ะ หวังเพียงว่าหากคนบนฟ้ามองลงมาได้จริงๆ ก็อยากให้เขายิ้มตาม"
"น้องนิเหมือนพ่อมากเลยนะคะ ขี้อ้อนเหมือนคุณภาสเลยค่ะ" ปุ้มปุ้ยเสนอความเห็นออกมาบ้าง ส่งผลให้เจ้านายสาวคลี่ยิ้มเศร้า ไม่ปฏิเสธเลยว่าทุกครั้งที่เห็นหน้าลูก ทุกครั้งที่เห็นรอยยิ้มของลูกอดนึกถึงพ่อของลูกไม่ได้เลย
"...คุณลุงคนนั้น" อยู่ดีๆ คนตัวเล็กก็หันหาใครบางคนที่ผู้เป็นมารดาพยายามที่จะไม่ให้ความสนใจ แต่การมองหาและทันทีที่พบเจอกลับมีการโบกไม้โบกมือและส่งยิ้มไปให้ มันทำให้ผู้เป็นแม่ถึงกับตกใจ ปกติแล้วลูกสาวของเธอไม่ได้เข้ากับคนง่ายขนาดนั้น เธอสอนลูกเสมอ ว่าไม่ให้ไว้ใจคนแปลกหน้าง่ายๆ แต่ในกรณีนี้ทุกอย่างดูแปลก นิทานดูสนใจเขาอย่างออกนอกหน้า
"น้องนิยิ้มให้ใครเหรอครับ" หมอนเรศหันขวับ พบกับชายหนุ่มที่กำลังส่งยิ้มและโบกไม้โบกมือให้หลานสาวเขาอยู่เหมือนกัน
เค้าโครงหน้าที่ไม่เคยเปลี่ยนไป แววตาที่ยังเหมือนเดิม นายแพทย์หนุ่มถึงกับชะงักไปทันที
"น้องนิรู้จักลุงคนนั้นเหรอครับ" นายแพทย์หนุ่มหันมาถามหลานสาวของตัวเองบ้าง แว๊บหนึ่งที่แอบมองภรรยาสาวของเพื่อนรัก เห็นว่าสีหน้าของเธอยังเรียบเฉยไม่ได้หลุดแสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย
"น้องนิเดินชนคุณลุงคนนั้นค่ะ น้องนิขอโทษคุณลุงแล้วนะคะ"
"เป็นเด็กดีจังเลยครับ รู้จักขอโทษด้วย ลุงคนนั้นต้องไม่โกรธหนูแน่ๆ ก็หนูขอโทษแล้วนี่นา"
"คุณลุงอยากคุยกับน้องนิค่ะ แต่คุณแม่พาน้องนิเดินหนี"
"งั้นเหรอครับ" นายแพทย์หนุ่มยิ้มอบอุ่นพลางมองหน้ามารดาของเด็กบ้าง แต่เท่าที่เห็น หญิงสาวยังคงสีหน้าเรียบเฉย เขาไม่สามารถคาดเดาความรู้สึกของเธอเอาเองได้เลย
"...น้องนิจะกลับแล้วเหรอครับ" เจ้าของคำพูดตัดสินใจลุกพรวดพราดเข้าเผชิญหน้ากับคนกลุ่มหนึ่งที่เขาจ้องมองอยู่ตั้งนาน อาศัยจังหวะที่พวกเธอจะกลับลุกเข้าไปเผชิญหน้าทันที
มันรู้สึกแปลกๆ ในตอนที่เขามองหน้ามารดาของเด็ก เธอคงความเฉยทำเหมือนไม่รู้สึกอะไรเลย กลับกัน หญิงสาวเข้าไปประกบคนตัวเล็กด้วยการจับมือเอาไว้ทันที
"คุณแม่ไม่อนุญาตให้น้องนิเข้าใกล้คนแปลกหน้านะคะ"
"แต่ผมแค่ถามน้องนะครับ" หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบเมื่ออีกฝ่ายโต้ตอบกลับมาโดยไม่แคร์เลยว่าเธอจะบอกกับลูกแบบไหน ไม่สนแม้ว่าความหมายของคำพูดเธอหมายถึงไม่ต้องการให้ลูกสาวของเธอเข้ามาพูดคุยหรือเข้าใกล้เขา
"เราไม่รู้จักกัน..." หญิงสาวมองสบตากับคนตรงหน้าตรงๆ เห็นเขาจ้องมองเธอไม่วางตา
"ก็เราไม่ได้พบกันนานแล้วนี่นา คุณอาจจะลืมผม แต่ผม..."
"ขอตัวก่อนนะคะ" น้ำใจกุมมือเล็กของลูกพลางขยับเท้า ตั้งใจที่จะเดินออกมาจากตรงนั้น แต่คำพูดที่อีกฝ่ายใช้มันเพื่อพูดตามหลัง สะกิดหัวใจของเธออย่างจัง
"หวังว่าเราจะได้พบกันอีกครั้งนะครับ จะมีใครลืมอะไรไปบ้างก็ช่าง แต่ผมไม่เคยลืม..." ขาเรียวหยุดชะงัก หัวใจดวงน้อยมันเต้นแรงขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง ทั้งที่อยากจะเดินหนีแต่สุดท้ายแล้วคำพูดที่เขาเอ่ยมันออกมา เธอได้ยินมันทุกคำ
"แล้วเจอกันใหม่นะครับ น้องนิ..."