๓๕
"...น้ำ!" ริมฝีปากบางเฉียบเอ่ยเรียกชื่อ หญิงสาวที่นานแล้วที่ไม่ได้พบกัน หลังจากวันที่เรื่องของเธอและเขาจบแบบเด็ดขาด เขาไม่เคยคบคนชื่อนี้ ต่อให้ผู้หญิงชื่อนี้จะมีบ้างที่ตรงสเปคเขาก็ตาม
หัวใจแกร่งกระตุกวูบในตอนที่หญิงสาวหันกลับมาสบตาเขาแล้วพบว่าน้ำตาเปรอะเปื้อนแก้มทั้งสองข้าง เด็กหญิงตัวเล็กในอ้อมกอดแม่ก็ร้องไห้ไม่หยุดไม่ได้ต่างกัน
"ถูกปล้นงั้นเหรอ" หญิงสาวไม่ตอบ แต่เธอมองกลับไปทิศทางด้านหลังของเขา ความหวาดกลัวยังคงถาโถมเข้าใส่ ไม่ทันตั้งตัวแม้ว่าชายหนุ่มอดีตคนรักจะเดินเข้ามาประชิดตัวเธอ
"พวกนั้นมีกันกี่คน เฮีย ...ผมไม่แน่ใจเลยวิ่งออกมาก่อน"
"พวกนั้นมีกันสามคนค่ะ ตั้งใจฆ่า ไม่ใช่การปล้นธรรมดา" แม้อัคนีจะสงสัยว่าใครกันที่ทำแบบนั้นแล้วทำแบบนั้นเพราะเหตุผลอะไร แต่การให้คำตอบว่าพวกนั้นมีกันสามคน แต่เขาจัดการไปแล้วสอง แสดงว่าคนร้ายยังเหลืออีกหนึ่ง อาจจะเป็นไปได้ว่ามันอาจจะกำลังตามมา การยืนยันว่าไม่ใช่การปล้นแต่เป็นการตั้งใจฆ่ายิ่งตอกย้ำว่าสิ่งที่เขาคิดมันอาจจะเป็นความจริง
"หนีก่อน แถวนี้ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์อาจจะประสานตำรวจลำบากมาก แต่รถคันที่เธอนั่งมาซึ่งถูกยิงจนยางแบนตอนนี้พวกเขาประสานตำรวจไปแล้ว" มือหนาแตะลงเบาๆ ที่เรียวแขนขาวผ่องหวังจะช่วยคลายความกังวล ทว่า คนตัวเล็กขยับถอย เจ้าของการกระทำถึงกับชะงักไปทันที
เธอรังเกียจ
"น้องนิให้ลุงอุ้มดีกว่านะครับ"
"ไม่เป็นไรค่ะฉันจะอุ้มลูกเอง"
"ห่วงลูกก่อนนะ หากพวกนั้นตามมาทันทุกอย่างจะแย่เอา" ความเป็นจริงที่ตอกย้ำยิ่งสร้างความกดดันให้กับผู้เป็นแม่เป็นอย่างมาก เขาไม่ได้รอคำตอบจากเธอแต่เลือกที่จะโน้มตัวเข้ามาอุ้มลูกของเธอไปอุ้มเอาไว้เอง น่าแปลกที่นิทานยอมให้เขาอุ้มแต่โดยดี
"ทางนี้ เราไม่ควรเข้าไปในป่าลึกเกินไป หากทีมตำรวจตามมาที่นี่ทัน เขาจะได้เจอตัวเราเร็วขึ้น"
"ละ เลือด คุณ..."
"ไม่เป็นไร แค่โดนยิงถากๆ หนีก่อนน้ำ" การเอ่ยเรียกชื่ออย่างสนิทสนมส่งผลให้ดวงตากลมโตวูบไหวลง ไม่เข้าใจว่าทำไมสถานการณ์ทุกอย่างต้องเป็นแบบนี้ ทำไมถึงเป็นเขาที่ตามมาช่วยเธอ ทั้งที่จริงมันไม่น่าจะเป็นแบบนั้นเลย
"มันอยู่ทางนั้น!"
"คุณ...!" เสียงตะโกนจากอีกด้านส่งผลให้หญิงสาวคว้าหมับที่มือหนา คนที่กำลังตามมามีกันสองคน เธอแน่ใจว่าเห็นปืนที่อยู่ในมือของคนพวกนั้น ลำบากแน่ ทั้งเธอและลูก รวมถึงเขาที่เข้ามาช่วยเหลืออาจจะโดนหางเลขไปตามๆ กัน
"ฮื่อ..." แขนเรียวเกี่ยวลำคอหนาเข้ามาสวมกอดเอาไว้แน่น น้ำตาอุ่นร่วงเผาะลงบนลำคอหนาครั้งแล้วครั้งเล่า เป็นครั้งแรกที่เขาได้อุ้มเด็กและเป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกอยากปกป้องเด็กน้อยคนนี้เช่นกัน
"อย่าร้องนะครับคนเก่ง เดี๋ยวลุงจัดการคนไม่ดีพวกนั้นให้เอง" มือหนาลูบศีรษะของเด็กน้อยเบาๆ นึกโกรธที่คนเป็นพ่อหายหัวไปอยู่ที่ไหน ทำไมถึงปล่อยให้ลูกและเมียมาเผชิญโชคชะตาอะไรแบบนี้ นี่น่ะเหรอคนที่เธอทิ้งเขาแล้วไปเลือกมัน ห่วยแตกสิ้นดี
"แส่นักนะมึง หาเหาใส่หัวนักก็จัดการมันทั้งสามคนเลย" ท่อนแขนแกร่งรั้งร่างเล็กของอดีตคนรักให้ถอยออกมาจากตรงนั้น กรามบดเข้าหากันแน่น บอกตรงๆ ว่าเขาไม่เคยเจอกับสถานการณ์ที่มันคับขันแบบนี้เลย
"กูจ่ายพวกมึงสามเท่าของจำนวนเงินที่นายจ้างของพวกมึงให้ตอนที่มึงรับงานนี้" น้ำเสียงจริงจังเอ่ยออกมาก่อนที่คนพวกนั้นจะได้ลั่นไกใส่ ดวงตาคมกริบจ้องมองฝ่ายตรงข้ามทั้งสองคนสลับกัน ท่อนแขนแกร่งกระชับกอดหญิงสาวที่อยู่ข้างๆ ก่อนที่เขาจะส่งคนในอ้อมกอดคืนสู่อกของผู้เป็นแม่
แว๊บหนึ่งที่เห็นว่าดวงตากลมโตสั่นระริก เธอยอมรับตัวบุตรสาวกลับ สองแขนโอบกอดลูกแสดงออกชัดเจนว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอพร้อมที่จะปกป้องลูกของเธอสุดชีวิต
อัคนีขยับตัวเข้าขวางให้คนสองคนอยู่ทางด้านหลังของเขา
"สามเท่าที่พวกแกได้รับ ฉันจะโอนให้ทันทีถ้าพวกแกปล่อยพวกเราไป!"
"สะ สามเท่า..." หนึ่งในสองคนนั้นอุทานออกมาด้วยความตกใจ แต่ชายอีกคนกลับตวัดสายตากลับไปมองแรง
"มึงอย่าโง่ให้มาก มึงคิดว่าถ้าพวกมันรอดไปได้มึงจะมีปัญญาได้ใช้เงินนั่นหรือไง!" อัคนีสังเกตจนถี่ถ้วนแล้วว่า คนที่โดนเขาเล่นงานก่อนหน้านี้คือคนไหน ส่วนใครคือคนที่ยังไม่โดนอะไรเลย พอแน่ใจแบบนั้นมือข้างที่ถนัดควงปืนด้วยความเร็วพลางยิงสวนไปยังมือของหนึ่งในสองคนนั้นที่ถือปืน เป็นจังหวะเดียวกับที่หมัดร้อนฟาดซ้ำลงบนสันดั้งของคนที่โดนในตำแหน่งนั้นมาแล้วอย่างรวดเร็ว
เปรี้ยงงงง!
ผัวะ! ปึกกก! ผัวะ!
วินาทีนี้คือวินาทีที่เขาต้องเร่งรีบที่สุด รองเท้าหนังอย่างดีเตะกระบอกปืนที่ตกอยู่ให้ห่างออกไปไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ จุดอ่อนของคู่ต่อสู้ คือสิ่งที่มันต้องใช้งานเป็นอันดับแรกนั่นคือสายตา ความที่เรียนรู้วิธีป้องกันตัวมาอย่างครบถ้วน รู้ว่าจังหวะแบบไหนจะต้องใช้ในสถานการณ์แบบไหน วันนี้เขาได้นำมันออกมาใช้งาน
ปึกกก! ผัวะ!
ข้อศอกแข็งแรงฟาดใส่รัศมีใบหน้า หวังที่จะให้กระแทกจมูกและตามากที่สุด แต่ความสองรุมหนึ่ง โอกาสโดนสวนกลับมันก็มากอยู่ดี
เปรี้ยงงง!
ปึกก!
"โอ๊ยยย!"
"กรี๊ดดดดดด!" เสียงกรีดร้องดังลั่น น้ำใจดันศีรษะของลูกให้ใบหน้าแนบอยู่กับอกของผู้เป็นแม่ป้องกันไม่ให้ลูกเห็นความรุนแรงที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้ ที่เธอต้องกรีดร้องเพราะอดีตคนรักพลาดพลั้งจนโดนกระสุนปืนปักเข้าที่แขนอย่างจัง แทบหมดหวังมองไม่เห็นแม้หนทางที่จะเอาชนะอีกฝ่ายได้ แต่ทว่าเขากลับสู้ สู้แม้ว่าจะยังบาดเจ็บ สู้แม้ว่าจะโดนสวนกลับแทบทุกครั้ง สองรุมหนึ่งในตอนนี้ที่เธอเห็นคือเขาเสียเปรียบมากและกำลังจะโดนยิงซ้ำอีกครั้ง ถ้าไม่ติดที่ว่าเสียงสัญญาณจากรถตำรวจดังใกล้เข้ามาทุกที
"ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย!" น้ำใจกรีดร้องจนสุดเสียง สติจะกระเจิดกระเจิงกับสถานการณ์บ้าบอที่กำลังเผชิญ
เปรี้ยงงงง!
"กรี๊ดดดดดด!" เสียงปืนดังซ้ำ มวลน้ำตาไหลพรากในขณะที่เธอทิ้งตัวลงโอบกอดตัวลูกไม่ยอมปล่อย และก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์เลวร้ายไปมากกว่านั้น รถตำรวจวิ่งเข้ามาถึง คนร้ายสองคนตั้งท่าจะหนีถ้าไม่ติดที่ว่าเจ้าหน้าที่ที่มากกว่าวิ่งเข้ามาชาร์จตัวเอาไว้ได้ทัน
สภาพของคนที่เข้ามาช่วยเธอทำเอาน้ำตาของเธอไหลพราก การที่เขาโผล่เข้ามาจนเจ็บตัว ยอมรับว่าเป็นการช่วยเหลือเธอได้มาก หากเขาไม่เข้ามาคั่นเวลาก็ไม่รู้ว่าเธอและลูกตอนนี้จะอยู่ในสภาพไหน สุดท้ายหลังจากที่ผู้ร้ายถูกจับ เธอไม่สามารถปล่อยเขาทิ้งไว้ได้เช่นกัน
"...ขวัญเอยขวัญมานะลูก น้องนิของแม่น้ำ ของย่าหมอนของปู่พัฒน์ หนูไม่เป็นอะไรแล้วนะลูก" ป้าหมอนโอบกอดคนตัวเล็กที่ตอนนี้สงบลงแล้วแต่ยังคงติดแม่ จับมือแม่เอาไว้ไม่ยอมปล่อย ตอนนี้น้ำใจและทุกคนอยู่กันที่โรงพยาบาลซึ่งใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด พาคนเจ็บมาส่งโรงพยาบาล ตอนนี้เธอยังรอดูอาการของเขาไม่กล้าไปไหนเลยเช่นกัน
"คุณคนนั้นเขาตั้งใจไปช่วยหนูน้ำนะครับ" คำพูดจากปากของลุงพัฒน์ส่งผลให้คนฟังน้ำตาคลอ
"ลุงรู้เหรอคะ"
"ตอนแรกลุงคิดว่าเขาตามเรามาตั้งแต่ต้น ลุงพยายามระมัดระวังรถคันของเขาอยู่บ่อยครั้ง ตอนแรกคิดว่าเขาจะประสงค์ร้ายที่มาติดตามเรา ไม่คิดว่ากลับกลายเป็นรถอีกคัน พี่จ้องมองเราเพื่อรอโอกาสลงมือ"
"ลุงคิดว่าฝีมือใครคะ" ถามออกมาเสียงสั่น สิ่งที่คนพวกนั้นพูดระหว่างที่จับตัวเธอไปมันชัดเจนอยู่แล้วว่ามีคนว่าจ้าง
"มันมีไม่กี่คนหรอกครับที่หวังผลประโยชน์ จากการที่คุณทั้งสองคนเป็นอะไรไป"
"เขาใจร้ายจังเลยค่ะ ทั้งๆ ที่น้องนิก็เหมือนจะเป็นหลานเขา ไม่เคยแยแสไม่เคยสนใจไม่เคยนับว่าเป็นลูกหลานน้ำไม่เคยว่า แต่เพราะเงินทองมันทำให้ต้องถึงขั้นฆ่าแกงกันแบบนี้เลยเหรอ น้ำไม่ยอมนะคะ น้ำจะไม่ปล่อยให้ลูกของน้ำต้องมาเผชิญกับอะไรแบบนี้อีกแน่ๆ"
"คนร้ายถูกจับได้แล้ว ต้องรอดูว่าจะซัดทอดถึงผู้ว่าจ้างหรือเปล่า" น้ำตาเม็ดโตร่วงเผาะ เหตุการณ์ในวันนี้มันทำให้เธอใจหายเป็นอย่างมาก คิดว่าจะไม่ได้ออกมาจากป่า คิดว่าจะต้องจบชีวิตพร้อมลูกไปแล้วด้วยซ้ำหากเขาคนนั้นไม่เข้ามา