“นี่ก็จะตีสี่แล้ว กูว่ามึงไปนอนพักผ่อนก่อนดีกว่า พักสักหน่อยเผื่อสมองจะโล่งคิดอะไรออก” สมานตบบ่าเพื่อน “กูไปนอนก่อนนะ ส่วนมึงก็ไปนอนห้องเดิมล่ะกัน”
สองเพื่อนรักพากันแยกย้ายไปพักผ่อน คชาอาบน้ำเป็นอันดับแรกโดยใช้เสื้อผ้าในตู้ที่เป็นของเพื่อนผลัดเปลี่ยน ก่อนจะมาล้มตัวลงนอนบนเตียง นำแขนมาก่ายหน้าผาก คิดเรื่องช่วยบิดาและเรื่องน้องสาว คิดไปคิดมาเขาผลอยหลับไปไม่รู้ตัว
เกือบสิบโมงเช้ากว่าที่คชาจะตื่น เป็นคืนแรกที่เขาหลับสนิทในรอบหลายวัน อาจเป็นเพราะที่พักอาศัยหลังนี้ อยู่นอกเหนือสายตาตำรวจ คชาจึงนอนหลับเต็มอิ่มไม่ต้องพะว้าพะวง หลับๆ ตื่นๆ เช่นคืนที่ผ่านมา พอได้หลับเต็มตาคชารู้สึกสดชื่น ร่างกายกระปรี้กระเปร่า ทว่าหลังจากตื่น ท้องเขาก็ร้องประท้วงหิวทันที
คชาลงมาจากชั้นบนหลังจากอาบน้ำเสร็จเรียบร้อย เขาเดินเข้าไปในห้องครัวเพื่อหาอาหารทานรองท้อง เขายิ้มเมื่อเห็นสำรับอาหารวางอยู่บนโต๊ะ คชารีบลงมือทานอย่างโหยหิว แล้วเสร็จก็เดินออกมานั่งดูทีวีด้านนอก
ตึ้ง...ตึ้ง
เสียงข้อความแอปพลิเคชันไลน์ดังมาจากมือถือของสมานที่ลืมวางอยู่บนโต๊ะข้างโซฟา คราแรกคชาไม่สนใจยังคงนั่งดูทีวีต่อไป ทว่าเสียงนั้นก็ยังดังไม่หยุดแถมดังถี่ ทำให้เขาเอื้อมมือไปหยิบมือถือเครื่องนั้น ตั้งใจจะปิดเครื่องเพื่อตัดความรำคาญ ขณะที่นิ้วมือกำลังกดปุ่มปิดเครื่อง เขาชะงักมือเมื่อเห็นข้อความไลน์ที่ปรากฏขึ้นหน้าจอ
“จัดการไอ้ช้างคืนนี้เลย อย่ามันรอดไปได้”
ข้อความที่เห็น เรียกความตกใจให้คชาที่มาพร้อมกับความอยากรู้ว่า คนส่งข้อความคือใคร และคนชื่อช้างคือตนหรือไม่ เป็นครั้งแรกที่คชายอมเสียมารยาท เปิดอ่านข้อความไลน์ของเพื่อนรัก และเป็นความโชคดีอีกอย่างคือ สมานไม่ได้ใส่รหัสล็อกเครื่องไว้
คชาไล่อ่านข้อความของเจ้าของชื่อ Brownies ที่แท้จริงแล้วคือวิเศษ ที่พูดคุยกับสมานตั้งแต่ตอนหกโมงเช้า ความโกรธพุ่งพล่านในจิตใจเมื่อได้รับรู้ความจริงว่า สมานทรยศตนด้วยการส่งข่าวให้วิเศษรู้ว่า ตนพักอยู่ที่นี่ และยังมีคำสั่งจากวิเศษให้สังหารตนเพื่อขจัดเสี้ยนหนามมาทิ่มตำ
“พวกมึงรวมหัวกันทรยศกู”
คชากำมือถือแน่น ดวงตาลุกโชนด้วยแรงโทสะที่โหมกระหน่ำ เขาไม่คิดว่า สมานจะเป็นคนคิดทรยศหักหลังตน ความเป็นเพื่อนยาวนานนับสิบปี ความไว้ใจ ความเชื่อใจ เวลานี้ไม่หลงเหลืออีกต่อไปแล้ว มีเพียงความแค้นใจเข้ามาแทนที่ ไม่น่าเชื่อว่าคชาจะถูกหักหลังจากคนที่ไว้ใจที่สุดถึงสองคนในระยะเวลาเดียวกัน เป็นความเจ็บช้ำที่ยากบรรยาย
ระหว่างนั้นดวงตาเขามองไปยังมือถือที่แทบจะแหลกคามือ จังหวะหนึ่งนิ้วมือของเขาไปกดโดนเมนูวีดิโอ ส่งผลให้คลิปภาพเด้งขึ้นมาหลายภาพ แต่มีภาพหนึ่งที่เรียกความสนใจให้คชาไม่น้อยคือ ภาพของเขากำลังเดินเข้าไปในบ้านกลางสวนยาง บ้านซึ่งเขาจำได้ดีว่า ตนเองทำอะไรไว้กับใครคนหนึ่ง คชาจึงกดเปิดดูคลิปนั้น
“มันจะถ่ายคลิปทำไมวะ”
คชาพูดขณะดูคลิปความยาวสิบสองวินาที แล้วเสียงกรีดร้องของสตรีที่อยู่ในบ้านกลางสวน ทำให้คชาอึ้งไปชั่วขณะหนึ่ง ความรู้สึกผิดที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับเขา วาบเข้ามาในจิตใจ คชานึกถึงขวัญข้าวขึ้นมาจับใจเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่ตนทำไว้กับสาวน้อยไร้เดียงสาคนนั้น เขากลัวเหลือเกินว่า จะเกิดเรื่องกับน้องสาวเหมือนกับที่เกิดกับหญิงสาวรายนั้น
อะไรดลจิตดลใจคชาไม่ทราบได้ เขาอยากรู้เหลือเกินว่า สมานถ่ายคลิปนี้ทำไม ไม่มีเหตุผลใดเลยที่เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดจะทำเช่นนี้ เรื่องนี้น่าจะเก็บไว้เป็นความลับมากกว่า นำมาเป็นหลักฐานมัดตัวในอนาคต
เท้าความไปเมื่อแปดเดือนก่อน สมานอดีตเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ ที่มีไม่กี่คนจะรู้ว่า แท้จริงแล้วสมานคือนายหน้าหามือปืนรับจ้าง งานเรียกค่าไถ่ และอีกหลายงานที่ผิดกฎหมาย วันนั้นสมานมาหาคชาที่บ้านพร้อมกับนำงานหนึ่งมาเสนอ สนนราคาของค่าจ้างเป็นตัวเงินที่คชายิ้ม และตอบตกลงโดยไม่คิดไตร่ตรอง งานนั้นเป็นงานง่าย ไม่ต้องเหนื่อยแรง เพียงแค่ทำตามความต้องการของผู้ว่าจ้างคือ ข่มขืนหญิงสาวเป้าหมาย แล้วเขาก็ทำสำเร็จ ได้รับเงินค่าจ้างนับแสนบาท แบ่งให้ลูกน้องที่ร่วมงานด้วยก็ยังเหลือในกระเป๋าอีกเพียบ
ความสงสัยเรื่องที่สมานแอบถ่ายคลิปไว้ยังไม่จางหาย งานลักษณะนี้ไม่สมควรมีหลักฐานหลงเหลือ การที่สมานถ่ายคลิปเก็บไว้ อาจมาด้วยเหตุผลใดเหตุผลหนึ่ง แล้วเหตุผลนั้นคืออะไร คชาคิดหนัก คิดเท่าไหร่ก็หาคำตอบไม่ได้ คงจะมีทางเดียวที่ทำให้ตนรู้คำตอบคือ เคล้นความจริงจากสมาน
สมานกลับมาถึงบ้านในเวลาเกือบบ่ายโมง พอเข้ามาในบ้านเขาก็พบกับความเงียบ ไม่เห็นแม้แต่เงาของคชา ในเมื่อชั้นล่างของบ้านไม่มีร่างเพื่อน เขาจึงเดินขึ้นไปชั้นบนหวังเหลือเกินว่าจะเจอคชาในห้องนอน ทว่าสิ่งที่เขาพบคือความว่างเปล่า
“มันไปไหนวะ” สมานพูดกับตัวเอง ใบหน้ามีความหงุดหงิดเล็กน้อย ก่อนจะหมนุตัวเพื่อเดินออกไปจากห้อง แต่แล้วเขาก็ต้องตกใจเมื่อคชามายืนซ้อนด้านหลังตน เขาถอยหลังไปสองสามก้าว “ไอ้ห่าช้าง ตกใจหมดเลย”
“ตกใจอะไรวะ ทำหน้าอย่างกับเห็นผี” คชาพูดขณะปิดประตูห้องและล็อคประตู คชายืนอยู่ในลักษณะมือไขว้หลัง เพื่อไม่ให้เพื่อนเห็นอะไรบางอย่างที่ตนถือไว้ “แล้วนี่มึงไปไหนมา”